สร้าง สเตทเม้น ยังไง ขอสินเชื่อผ่านฉลุย
ใครที่ฝันอยากมีทรัพย์สิน ก็คงอยากยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน หรือซื้อรถยนต์ในฝัน แต่สำหรับใครที่เริ่มต้นทำงาน หรือเป็นฟรีแลนซ์ อาชีพอิสระ อาจจะกำลังมองหาตัวช่วยที่ทำให้สินเชื่ออนุมัติผ่านได้ง่ายขึ้น กุญแจสำคัญที่ช่วยให้สินเชื่ออนุมัติผ่านง่ายขึ้น ซ่อนอยู่ใน สเตทเม้น นั่นเอง ในวันนี้เราจะพาทุกคนไปทำความเข้าใจว่า สเตทเม้นคืออะไร พร้อม 6 วิธี สร้าง สเตทเม้น ยังไง ขอสินเชื่อผ่านฉลุย เทคนิคสร้างสเตทเม้นธรรมดาให้ปัง ยื่นสินเชื่อธนาคารไหน ก็ผ่านได้แบบไม่มีปัญหา
สเตทเม้น (Statement) คืออะไร สำคัญยังไงกับการกู้เงิน
สเตทเม้นคืออะไร? สเตทเม้น หรือ Statement คือเอกสารที่แสดงรายการการเคลื่อนไหวของบัญชีเงินฝากหรือบัญชีบัตรเครดิตย้อนหลังเป็นระยะเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปจะเป็น 3 เดือน 6 เดือน หรือ 12 เดือน สเตทเม้นมักใช้ประกอบการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ โดยสถาบันการเงินจะใช้สเตทเม้นเพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้ โดยสเตทเม้นมีความสำคัญกับการกู้เงินเป็นอย่างมาก เพราะสถาบันการเงินจะใช้สเตทเม้นเพื่อพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ ต่อไปนี้
- รายได้ของผู้กู้ : สถาบันการเงินจะพิจารณาจากยอดเงินฝากประจำหรือเงินเดือนเข้าบัญชี เพื่อประเมินความสามารถในการชำระหนี้ของผู้กู้
- รายจ่ายของผู้กู้ : สถาบันการเงินจะพิจารณาจากยอดเงินถอนออกหรือยอดชำระเงินจากบัตรเครดิต เพื่อประเมินความสามารถในการบริหารจัดการเงินของผู้กู้
- ประวัติการชำระหนี้ : สถาบันการเงินจะพิจารณาจากรายการค้างชำระหรือประวัติการผิดนัดชำระหนี้ เพื่อประเมินความน่าเชื่อถือของผู้กู้
6 วิธี สร้าง สเตทเม้น ยังไง ขอสินเชื่อฉลุย
สมัครสินเชื่อไม่ผ่านเพราะอะไร? การสมัครสินเชื่อไม่ผ่านเป็นปัญหาที่หลายคนอาจเคยประสบพบเจอ ซึ่งอาจเกิดจากปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็น เอกสารไม่ครบถ้วน, มีภาระผ่อนชำระสินเชื่อในระบบเยอะเกินไป, มีประวัติชำระหนี้ล่าช้า, ฐานเงินเดือนไม่พอ เป็นต้น ซึ่งถ้าใครอยากขอสินเชื่อผ่าน ก็จะต้องเตรียมเอกสารสำคัญอย่างสเตทเม้น (Statement) ให้ผ่านเป็นอันดับแรก ซึ่งทำตาม 6 วิธีดังนี้
-
ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล
อันดับแรก ตรวจสอบให้แน่ใจว่าข้อมูลในสเตทเม้นถูกต้องครบถ้วนหรือไม่? ตรงกับข้อมูลปัจจุบันหรือเปล่า เนื่องจากหากข้อมูลหรือประวัติส่วนตัวไม่ถูกต้อง อาจทำให้การยื่นขอสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น โดยเราควรตรวจสอบเงื่อนไข และข้อกำหนดของสถาบันการเงินที่ต้องการจะยื่นสินเชื่อ เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง และไม่เสียเวลามาเตรียมข้อมูลสำหรับยื่นขอสินเชื่ออีกครั้ง
-
ระบุแหล่งที่มาของเงิน หรือรายได้ให้ชัดเจน
ในข้อที่สอง หากใครทำงานบริษัท หรืองานประจำทำเป็นหลักแหล่ง สามารถขอเอกสารการรับรองการทำงาน หรือเอกสารแสดงประวัติทางการย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อให้ธนาคารหรือสถาบันทางการเงินที่เราต้องการทำสินเชื่อ สามารถตรวจสอบได้ว่าแหล่งที่มาของรายได้มาจากที่ไหน อีกทั้งยังเป็นหลักฐานที่ช่วยในการยื่นยันว่า ผู้กู้ขอสินเชื่อสามารถชำระเงินได้ตามกำหนดจริง ๆ
-
ระบุวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่อ
ข้อที่สามที่จะช่วยให้คุณสามารถยื่นขอสินเชื่อผ่านได้ คือการะบุวัตถุประสงค์ในการขอสินเชื่ออย่างชัดเจน เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้กู้มีความจำเป็นในการขอสินเชื่อ เช่น หากเราต้องการยื่นขอสินเชื่อเพื่อกู้บ้าน ก็สามารถระบุวัตถุประสงค์ได้ว่าจะนำเงินส่วนนี้ไปซื้อบ้าน หรือถ้าอยากนำเงินก้อนนี้ มาสร้างธุรกิจเป็นของตัวเอง ก็สามารถระบุวัตถุประสงค์ในชุดข้อมูลสำหรับการขอสินเชื่อ เพื่อให้เจ้าหน้าดำเนินการได้อย่างชัดเจน
-
กำหนดจำนวนหนี้ให้ไม่เกิน 30% ของรายได้
ข้อนี้สำคัญอย่างมาก หากเราอยากขอสินเชื่อให้ผ่าน เราควรกำหนดหนี้สินรวมทั้งหมดของตัวเอง ให้ไม่เกิน 30% ของรายได้ เนื่องจากหากเรามีหนี้เกิน 30% ของรายได้ อาจทำให้ภาระการผ่อนหนี้สินหนักเกินไป และทำให้ขาดโอกาสในการยื่นขอสินเชื่อ เพื่อทำตามความฝัน โดยเราควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อวางแผนการกำหนดรายจ่าย และอัตราดอกเบี้ยจากหนี้สินที่จ่ายในแต่ละเดือน จะช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการเงิน และปลดหนี้ได้ไว ส่งผลให้เรายื่นขอสินเชื่อผ่านได้
-
ไม่ควรสมัครสินเชื่อเกิน 1 แห่ง
สำหรับใครยื่นขอสินเชื่อผ่าน ก็อย่าพึ่งแน่นอนใจไป นอกจากเราจะต้องตั้งเป้าหมายในการจัดการหนี้ให้หมดแล้ว เราควรเก็บเงินสำรอง หรือเงินออมสำหรับฉุกเฉิน เพื่อใช้จ่ายสำหรับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน รวมถึงเราไม่ควรสมัครสินเชื่อบ่อยเกินไป หรือมากกว่า 1 สถาบัน เนื่องจากอาจทำให้เรามีหนี้สินเยอะเกินไป และไม่สามารถจัดการหนี้สิน จนอาจส่งผลกระทบต่ออนาคตทางการเงินได้
-
มีเครดิตทางการเงินที่ดี ไม่ติดเครดิตบูโร
เครดิตการเงินที่ดี ถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้คุณสามารถสมัครขอสินเชื่อได้ผ่านแบบฉลุย เพราะหลังจากที่เราเตรียมเอกสาร และสมัครขอสินเชื่อกับสถาบันทางการเงินแล้ว ทางธนาคารจะมีการตรวจสอบประวัติทางการเงินกับผู้ที่กู้ขอสินเชื่อ เพื่อดูว่ามีประวัติการเงินที่ดีหรือไม่ หากเราติดเครดิตบูโร หรือค้างชำระหนี้เครดิต อาจทำให้การขอสินเชื่อเป็นไปได้ยากยิ่งขึ้น เราจึงควรรักษาเครดิตทางการเงินที่ดี หลีกเลี่ยงการสร้างภาระหนี้สินจากบัตรเครดิตหลายที่ เพื่อให้เราไม่ติดเครดิตบูโร และสามารถทำธุรกรรมทางการเงินในอนาคตได้
จะเห็นได้ว่า สเตทเม้น (Statement) ไม่ได้เป็นเพียงเอกสารชุดนึงเท่านั้น แต่เป็นเอกสารสำคัญที่สถาบันการเงินใช้ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อต่าง ๆ หากผู้กู้ต้องการเพิ่มโอกาสในการอนุมัติสินเชื่อ ควรตรวจสอบ และสร้างสเตทเม้นให้ถูกต้อง ครบถ้วนตามคำแนะนำข้างต้น ก็จะช่วยให้เราสามารถสมัครสินเชื่อ และได้รับการอนุมัติผ่านได้อย่างรวดเร็ว ไม่ต้องกลัวขอสินเชื่อไม่ผ่านอีกต่อไป