รีไฟแนนซ์บ้าน เริ่มยังไง พร้อมวิธีเตรียมตัวในเบื้องต้น
ยังมีหลายคนที่ผ่อนบ้านอยู่ และกำลังสนใจอยากรีไฟแนนซ์บ้านอยู่ตอนนี้ แต่ยังไม่มีข้อมูล และยังลังเลกับการตัดสินใจที่จะรีไฟแนนซ์บ้านว่าต้องทำอย่างไรบ้าง? สำหรับใครที่กำลังวางแผนที่จะรีไฟแนนซ์บ้านในปี 2567 นี้ เรามีคำแนะนำมาบอก หากคุณเป็นอีกหนึ่งคนที่อยากรีไฟแนนซ์บ้าน หากผ่อนบ้านมานานแล้ว และคิดจะรีไฟแนนซ์บ้านเพื่อช่วยลดดอกเบี้ย ผ่อนสบายขึ้น ลดรายจ่าย จะได้ตัดเงินต้นมากขึ้น วันนี้ เราจะพาคุณไปดูว่า รีไฟแนนซ์บ้าน เริ่มยังไง พร้อมวิธีเตรียมตัวให้ผ่านฉลุย หากพร้อมแล้วก็ไปดูพร้อมกันเลย
รีไฟแนนซ์บ้าน คืออะไร?
คนมีบ้านต้องรู้ หรือสำหรับใครที่กำลังจะซื้อบ้าน เราต้องรู้ว่า การรีไฟแนนซ์บ้าน คือ การเปลี่ยนธนาคาร เพื่อยื่นขอสินเชื่อเงินกู้ใหม่ที่มีอัตราดอกเบี้ยถูกกว่าธนาคารเก่า โดยนำเงินที่กู้จากธนาคารใหม่มาจ่ายหนี้ ธนาคารเก่าที่มีบ้านเป็นหลักประกัน วัตถุประสงค์ของการรีไฟแนนซ์เพื่อต้องการผ่อนชำระดอกเบี้ยเงินกู้ที่ ถูกลง สามารถเพิ่มลดระยะเวลาผ่อนได้ และช่วยลดรายจ่ายในแต่ละเดือน เพราะโดยทั่วไป หากเราผ่อน บ้าน มาได้ 1-3 ปีแรกที่กู้เงิน อัตราดอกเบี้ยจะถูกกว่าธนาคารเก่า นี่จึงเป็นเหตุลสำคัญที่คนส่วนใหญ่เลือก ที่จะรีไฟแนนซ์บ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่าย ดังนั้น รีไฟแนนซ์บ้านจึงเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ
วิธีคิดอัตราดอกเบี้ยบ้าน เป็นอย่างไร?
สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยบ้านในปัจจุบัน ธนาคารมีหลักเกณฑ์การคิดดอกเบี้ย แบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ
- อัตราดอกเบี้ยแบบคงที่ โดยทางธนาคารจะระบุไว้ชัดเจนว่า คิดดอกเบี้ยคงที่เพียง 3% ในระยะ เวลา 3 ปี หรือตามที่ธนาคารกำหนดไว้
- อัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว โดยทางธนาคารจะระบุอัตราดอกเบี้ยที่เปลี่ยแปลงไปตามอัตรา ดอกเบี้ยที่ถูกกำหนดออกมาเป็นระยะเวลานั้น ๆ หรือช่วงที่ธนาคารประกาศ การคิดดอกเบี้ยใน ลักษณะนี้ โดยอ้างอิงตามอัตราดอกเบี้ย เช่น MRR, MOR, MLR เป็นต้น
เคล็ดลับ รีไฟแนนซ์บ้าน เริ่มยังไง
อย่างที่บอกมาแล้วว่า เหตุผลที่หลายคนเลือกวิธีรีไฟแนนซ์บ้าน เพราะการไฟแนนซ์บ้าน มีข้อดีอยู่หลาย ประการ เช่น ช่วยลดค่าใช้จ่ายแต่ละเดือน แบ่งเบาภาระหนี้ได้ ลดดอกเบี้ยบ้าน และยังอาจได้วงเงินกู้มาก กว่าเดิม ดังนั้น ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านให้คุ้มค่า ต้องรู้เรื่องอะไรบ้าง? มาเริ่มกันเลย
รีไฟแนนซ์บ้าน ต้องทำเมื่อไหร่?
รีไฟแนนซ์บ้าน เราสามารถจะทำได้เมื่อผ่อนชำระหนี้มาแล้วตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป และนอกจากนั้น ควรเช็ก ข้อมูลอัตราดอกเบี้ยในช่วงเลานั้นด้วยว่าคุ้มค่าหรือไม่ หากว่าเราต้องการรีไฟแนนซ์บ้านก่อนสัญญาที่ กำหนด หรือก่อน 3 ปี ก็สามารถทำได้เช่นกัน แต่เราต้องเตรียมเงินเพื่อเสียค่าปรับอยู่ประมาณ 3% ของ ยอดหนี้คงเหลือ
- ตรวจสอบยอดหนี้บ้านคงเหลือเท่าไหร่?
ก่อนรีไฟแนนซ์บ้าน เราต้องเช็กเพื่อตรวจสอบยอดหนี้บ้านคงเหลือว่าอยู่เท่าไหร่? เพื่อตัดสินใจอีกครั้งว่า จะรีไฟแนนซ์บ้าน ดีไหม? คุ้มไหม? เพราะหากยอดหนี้บ้านคงเหลือมากกว่า 1 ล้านบาท แนะนำว่า เหมาะ กับการรีไฟแนนซ์บ้าน แต่เมื่อเช็กยอดหนี้บ้านเหลือน้อยต่ำกว่า 1 ล้านบาท แนะนำว่า ควรเลือกวิธีขอลด ดอกเบี้ยจากธนาคารเดิมดีกว่า เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน มีขั้นตอนยุ่งยากในการเตรียมเอกสารใหม่ทั้งหมด เหมือนการยื่นกู้ซือบ้านใหม่
- เช็กค่าใช้จ่ายในการรีไฟแนนซ์บ้านเท่าไหร่?
ต้องบอกก่อนว่า การรีไฟแนนซ์บ้านนั้น มีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน คือการขอสินเชื่อบ้าน ใหม่กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ ดังนั้น รีไฟแนนซ์บ้านกับธนาคารใหม่ก็มีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ เช่น มีค่า ประเมินราคาสินทรัพย์ ค่าจดจำนอง ค่าภาษี ค่าอากรแสตมป์ เป็นต้น
- ควรทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับการรีไฟแนนซ์บ้าน
แนะนำว่า ก่อนตัดสินใจรีไฟแนนซ์บ้านต้องทำความเข้าใจในรายละเอียด และวัตถุประสงค์ของการ รีไฟแนนซ์บ้านให้ถูกต้อง ดังนั้น ยังมีบางเรื่องในการรีไฟแนนซ์บ้าน ที่หลายคนยังสงสัย เรามีคำตอบให้ คุณแล้วที่นี่
-
- รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ได้ทำให้ดอกเบี้ยบ้านหายไป เพราะการรีไฟแนนซ์บ้าน คือการกู้สินเชื่อ บ้านใหม่กับธนาคารแห่งใหม่ ในอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ถูกลงเพื่อช่วยลดภาระในระยะยาว
- รีไฟแนนซ์บ้าน ไม่ใช่การพักชำระหนี้ เพราะหลังจากเราได้รีไฟแนนซ์บ้านเรียบร้อยแล้ว เรายังคงต้องผ่อนชำระหนี้บ้านตามปกติ และต้องผ่อนชำระหนี้บ้านตรงเวลากำหนดเหมือนดิม
จากข้อมูลข้างต้นจะเห็นได้ว่าการรีไฟแนนซ์บ้านมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ที่ต้องพิจารณาร่วมด้วย ไม่ว่าจะช่วยลดดอกเบี้ย ลดระยะเวลาผ่อน และลดค่าใช้จ่าย และอาจช่วยเพิ่มวงเงินในการหมุนเวียนช่วยเสริมสภาพคล่องได้อีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การวางแผนรีไฟแนนซ์บ้านควรพิจารณาถึงความเหมาะสมประกอบกับข้อมูลอื่น ๆ เพื่อให้การรีไฟแนนซ์บ้านคุ้มค่าด้วยนั่นเอง