เครดิตเสีย แก้ยังไง? ไขข้อสงสัยคนติดแบล็กลิสต์
เรื่องหนี้บัตรเครดิต ถือเป็นปัญหาใหญ่ของใครหลายคน ยิ่งใครที่มีบัตรเครดิตหลายใบ แต่มีรายจ่าย หรือยอดที่ต้องชำระเงินปริมาณที่คาดการณ์ไว้ จะทำให้เสี่ยงต่อการติดแบล็กลิสต์ (Backlist) หรือมีหนี้เสียได้ แน่นอนว่าส่งผลต่อการบริหารจัดการเงินในอนาคต ทำให้เกิดผลกระทบต่อชีวิต และความเครียดได้ ต้องเริ่มการแก้หนี้ สำหรับใครที่อยากรู้ว่าเครดิตเสีย แก้ยังไง? อ่านบทความนี้ได้เลย
ติดเครดิตบูโร หรือติดแบล็กลิสต์ คืออะไร?
การติดเครดิตบูโร หรือติดแบล็กลิสต์ (Backlist) เกิดจากพฤติกรรมในการใช้บัตรเครดิตที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นการใช้บัตรจนเต็มวงเงิน ชำระเงินล่าช้า หรือผิดนัดชำระสินเชื่อ ทำให้ต้องเจอกับค่าปรับหรือดอกเบี้ยจำนวนมาก ยิ่งถ้าใครมีบัตรเครดิตหลายใบและยังไม่ชอบชำระเงิน จะเสี่ยงต่อการถูกธนาคารฟ้อง มีประวัติเครดิตที่ไม่ดี จนติดแบล็กลิสต์ (Backlis) ส่งผลให้กู้ขอสินเชื่อผ่านยาก
สาเหตุของการติดแบล็กลิสต์
สาเหตุของการติดเครดิตบูโร หรือติดแบล็กลิสต์ (Backlist) ส่วนใหญ่ มักเกิดจากการที่เจ้าของบัตรเครดิตมีการใช้จ่ายด้วยบัตรเครดิตเป็นวงเงินสูง มีหนี้ชำระค้างในบัตรเครดิตหลายเดือน จนทำให้เกิดการสะสมของยอดค้างชำระและดอกเบี้ย เมื่อมีหนี้บัตรเครดิตสูงเกินรายรับแล้ว ก็จะทำให้ไม่สามารถจ่ายบัตรเครดิตได้ จนเกิดหนี้เสียและส่งผลต่อประวัติทางการเงินนั่นเอง
ติดเครดิตบูโร กี่ปีหาย 2566
หากใครติดเครดิตบูโร จะต้องดำเนินการชำระหนี้ให้ตรงกำหนด และชำระหนี้ให้ครบถ้วน เพื่อแก้หนี้ได้แล้ว ธนาคารจึงจะสามารถดำเนินการปิดบัญชีให้คุณได้ ถึงอย่างนั้น ข้อมูลเครดิตของคุณ จะยังถูกจัดเก็บอยู่ในเครดิตบูโรอีก 3 ปี หลังจากที่มีการปิดบัญชีกับทางธนาคาร เมื่อครบกำหนด 3 ปีแล้ว ข้อมูลที่แจ้งสถานะว่าเราติดเครดิตบูโรจะถูกลบออกไปทันที
ติดเครดิตบูโร เครดิตเสีย แก้ยังไง
-
ตรวจสอบหนี้ที่ค้างชำระ
ก่อนที่จะเริ่มวางแผนชำระหนี้ เราควรตรวจสอบดูก่อนว่าหนี้บัตรเครดิตที่มีทั้งหมด รวมเป็นเท่าไหร่? โดยเฉพาะผู้ที่มีบัตรเครดิตหลายใบ อาจจะต้องคำนวณทั้งดอกเบี้ยและยอดชำระที่ค้าง เพื่อให้เราสามารถประเมินระยะเวลาและจำนวนเงิน ที่ต้องจ่ายคืนให้แก่ธนาคารได้
-
วางแผนชำระหนี้สิน
เมื่อรู้ว่าเรามียอดค้างชำระทั้งหมดเท่าไหร่ ทีนี้เราก็สามารถเริ่มวางแผนการชำระหนี้ได้ โดยอาจจะเริ่มจากการทำรายรับ-รายจ่าย เพื่อดูว่ารายจ่ายส่วนไหนที่ไม่จำเป็น ก็สามารถตัดออกได้ หรือหากมีรายรับไม่พอ เราก็สามารถเริ่มต้นมองหาแหล่งงานเสริม เพื่อนำมาชำระหนี้บัตรเครดิตได้เช่นกัน
-
อย่าหนีหนี้ แต่ให้ประนีประนอมกับธนาคาร
ข้อนี้สำคัญมาก หลายคนคิดว่าการที่เราไม่ยอมชำระหนี้บัตรเครดิต เพราะหมุนเงินไม่ทัน และปล่อยให้ธนาคารแจ้งหนี้ โดยที่เราไม่ได้มีการดำเนินการอะไร จะทำให้สามารถยืดระยะเวลาในการผ่อน หรือหนีหนี้ได้ แต่ความคิดนี้เป็นสิ่งที่ผิด เพราะถ้าหากเราค้างค่าชำระนาน ๆ โดยที่ไม่ได้มีการติดต่อหรือพูดคุยกับธนาคาร จะทำให้เรามีหนี้สินเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งยังทำให้เสี่ยงต่อการติดแบล็กลิสต์หรือบูโรได้
-
รีไฟแนนซ์ หรือนำเงินก้อนมาจ่ายหนี้
สำหรับใครที่มีหนี้บัตรเครดิตหลายใบ และไม่รู้จะจัดการอย่างไร อย่างแรกให้เรามองหาสินเชื่อเงินก้อน หรือมีบริการรีไฟแนนซ์บัตรเครดิต โดยเลือกสินเชื่อที่มีระยะการผ่อนนานหลายเดือน ดอกเบี้ยต่ำ สามารถให้คำปรึกษาทางด้านการเงินได้ มีความน่าเชื่อถือและบริการสะดวกรวดเร็ว จะช่วยให้เราสามารถยื่นกู้สินเชื่อ เพื่อนำเงินก้อนนั้นมาโปะหนี้ รวมเป็นก้อนเดียว ช่วยให้บริการจัดการเงินง่ายขึ้น
เครดิตเสีย แก้ยังไง ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแต่เราต้องมีวินัย และความมุ่งมั่นในการปิดบัตรเครดิต จึงจะสามารถเอาชนะและเคลียร์หนี้สินได้ทั้งหมด หวังว่าทุกท่านจะสามารถบริหารจัดการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่พบเจอกับปัญหาติดแบล็กลิสต์ หรือเครดิตบูโรในอนาคตอีก