เราไม่อาจจะปฏิเสธได้เลยว่าเงินก็เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตประจำวันของเราทุกคนไปซะแล้ว ถ้าหากว่าวันไหนไม่มีเงินวันนั้นก็เหมือนกับว่าเราไม่สามารถกินอะไรได้ หรือทำอะไรได้เลย ยิ่งโดยเฉพาะในเมืองหลวงหรือว่าในสถานที่ที่จะต้องใช้เงินในการก้าวเท้าออกจากบ้านแล้วล่ะก็ เงินนี่แหละที่เป็นตัวกำหนดปัจจัยต่างๆ ได้ดีเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นเราจะมาดูกันว่าใช้เงินอย่างไรให้ชีวิตประสบความสำเร็จ ไม่อดอยาก ไม่ตกเป็นทาสของเงิน
- อย่างแรกที่เราจะบอกว่าเป็นสิ่งสำคัญมากที่สุดนั่นก็คือการออมเงินนั่นเอง บางคนอาจจะคิดว่าวันนี้ยังไม่ถึงเวลา พรุ่งนี้ก็อาจจะยังไม่ถึงเวลาออม แล้วเมื่อไหร่ล่ะที่คุณจะได้ออมเงิน? ซึ่งการออมเงินนั้นจะทำให้คุณมีเงินเอาไปไว้ใช้จ่ายในส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นค่าใช้จ่ายในยามฉุกเฉินหรือว่าจะเป็นในตอนที่คุณจะต้องเข้าออกโรงพยาบาล เจ้าเงินออมที่คุณได้เก็บมันเอาไว้นี่แหละจะช่วยให้คุณไม่ต้องไปเดือดร้อนคนอื่น และสามารถพึ่งพาตัวเองได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียวล่ะ
- วางแผนการเงินให้กับอนาคตของตัวคุณเอง เป็นเรื่องง่ายๆ โดยที่คุณไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการวางแผนอะไรเลย เพียงแค่เอากระดาษขึ้นมาหนึ่งแผ่น พร้อมกับปากกาหนึ่งแท่งแล้วเขียนลงไปว่าในอีก 1 -5 ปีข้างหน้านั้นคุณจะต้องมีเงินเท่าไหร่ แล้วเอาเงินนั้นไปทำอะไรบ้าง หรือจะต้องมีวิธีการหาเงินแบบไหนเพื่อที่คุณจะได้มีความมั่นคงมากขึ้นกว่าเดิม เห็นไหมล่ะว่าแค่ปากกากับกระดาษ 2 อย่างก็ทำให้คุณมีการวางแผนด้านการเงินให้กับตัวเองได้แล้วล่ะ
- ต่อมาเป็นเรื่องของการนำเงินไปลงทุน คุณอาจจะบอกว่ามันเป็นเรื่องยากหรือคุณอาจจะไม่มีความเชี่ยวชาญด้านไหนเลย เลยไม่สามารถนำเงินไปลงทุนกับอะไรได้เลย อย่าลืมสิว่าคุณยังมีประกันชีวิต ประกันเงินออม หรืออาจจะเป็นกองทุนต่างๆ ที่สามารถตอบโจทย์ของคุณได้เหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องซื้อของมาขายเพื่อให้ได้เงินมาก็ได้ แต่เป็นการเอาเงินของคุณมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด และตอบสนองความต้องการของคุณให้ได้ก็เท่านั้นเอง
- อย่าปล่อยให้ตัวเองอยู่นอกกฎระเบียบที่ไม่มีการกำหนดว่าจะต้องทำอะไรเมื่อไหร่อย่างไร เพราะการใช้เงินนั้นจะต้องมีเรื่องของระเบียบเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ถ้าหากว่าคุณไม่มีระเบียบในการใช้เงินก็อาจจะทำให้ตัวเองต้องลำบากได้เหมือนกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่ยอมเอากฎ หรือระเบียบมาใช้ รวมถึงคนที่ชอบตามใจตัวเองนั้นจะต้องระวังให้ดีเพราะการที่คุณตามใจตัวเองมากจนเกินไปอาจจะเป็นผลเสียกับตัวคุณเอง อีกทั้งยังเป็นเรื่องที่แย่กับเงินในกระเป๋าของคุณด้วยเหมือนกันนะ
- ใส่ใจเรื่องของการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน หรือการนำเงินไปลงทุนกับในหลายๆ สิ่งสักนิด เพราะว่าในการลงทุนนั้นจะมีระดับความเสี่ยงที่แตกต่างกันออกไป ถ้าหากว่ามีความเสี่ยงมากมันก็ย่อมให้ผลตอบแทนที่มาก แต่ถ้าหากว่าความเสี่ยงน้อยผลตอบแทนที่คุณได้ก็อาจจะต้องน้อยตาม เพราะฉะนั้นการที่คุณศึกษาเรื่องความเสี่ยงนั้นจะทำให้คุณเข้าใจการลงทุน และธรรมชาติของเงินมากขึ้นว่ามันมีช่วงขาขึ้น มีขาลง และมีตอนที่คงที่นั่นแหละ
- เปลี่ยนวิธีคิดในตอนที่จะต้องควักเงินออกจากกระเป๋าออกมาใช้ ตอนที่คุณอยากจะได้ของชิ้นนั้นๆ มันก็ย่อมจะต้องตอบสนองกิเลสของตัวเองให้ได้นั่นแหละ แต่อย่าลืมไปว่ามันแค่กิเลส และมันเป็นเพียงแค่ความอยากได้ชั่วครั้งชั่วคราวเท่านั้น มันไม่ได้เป็นสิ่งที่จะอยู่กับคุณตลอดเวลา เพราะฉะนั้นคุณควรบังคับใจตัวเองให้ได้ และเปลี่ยนวิธีคิด เพราะไม่อย่างนั้นคุณก็มีโอกาสที่จะหมดตัวได้เหมือนกัน ซึ่งก็มีหลายคนที่ชอบใช้จ่ายแบบไม่คิดอะไรจนทำให้ตัวเองต้องเป็นหนี้สินติดตัวเยอะแยะมากมาย อีกทั้งยังทำให้คนในครอบครัวเดือดร้อนอีกด้วย
- บางครั้งโอกาสมันไม่ได้เข้ามาให้เราได้ง่ายๆ เสมอไป เมื่อไหร่ที่คุณมีโอกาสที่จะคว้าเงินมาครอบครองคุณก็จงกำมันให้อยู่หมัด แต่ว่าโอกาสที่คุณได้มานั้นมันจะต้องไม่ทำให้ใครเดือดร้อน เพราะไม่อย่างนั้นล่ะก็มันอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่นอนเพราะเวลาที่เราจะได้อะไรมานั้นมันจะต้องมาจากการกระทำที่ดี ไม่ทำให้คนอื่นวุ่นวายใจ แต่ก็ยังมีหลายคนที่รอโอกาสนั้น และอยากได้มัน แต่ก็ไม่คว้ามันเอามาไว้อยู่กับตัวเอง ฉะนั้นถ้าโอกาสมาถึงให้คิดให้ดี และคว้ามันเอาไว้
- เข้าใจธรรมชาติของความต้องการของมนุษย์เรา จะว่าไปแล้วมนุษย์เราเองเป็นสัตว์ประเภทเดียวที่ใช้เงินในการแลกเปลี่ยนสิ่งของ ไม่มีสัตว์ชนิดไหนเลยที่ใช้เงินเป็นปัจจัยในการแลกซื้อหรือว่าแลกเปลี่ยนสิ่งของซึ่งกันและกัน โดยเงินมันเป็นเพียงแค่สิ่งที่คุณจะครอบครองมันได้อยู่ชั่วขณะ แต่เดี๋ยวมันก็จะต้องออกจากกระเป๋าของคุณไป ถึงแม้ว่าคุณจะตายไปแล้วคุณก็เอามันไปไม่ได้ แต่ตอนที่มีชีวิตอยู่นั้นมันก็ทำให้คุณมีชีวิตที่สะดวกสบายได้เช่นเดียวกัน ฉะนั้นอย่าโลภ หรือคิดจะได้อย่างเดียว ไม่อย่างนั้นคุณอาจจะต้องทำงานหนักเพื่อให้ได้เงินมารักษาตัวเองในโรงพยาบาลก็ได้นะ