เชื่อว่าหลายท่านที่กำลังอยากประสบ ความสำเร็จ ในชีวิตและธุรกิจต่างๆย่อมเคยศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับผู้ที่เค้าประสบความสำเร็จว่าพวกเค้าคิดและทำอย่างไรจึงก้าวเข้ามาอยู่ในทำเนียบของผู้ที่ประสบความสำเร็จได้ ซึ่งแต่ละคนนั้นอาจจะมีแนวคิดที่แตกต่างกันออกไปแต่หากลองมานั่งอ่านทวนให้ดีท่านจะสามารถรับรู้ได้เลยว่าถึงแม้แนวคิดของพวกเค้าจะถูกสื่ออกมาเป็นคำพูดที่แตกต่างกันก็จริงแต่โดยรวมความหมายมักจะไม่แตกต่างกันเลย อย่างเช่น
- เพราะพวกเค้าเหล่านั้นมักจะมีเป้าหมายและทุกครั้งที่พวกเค้าสร้างเป้าหมายขึ้นมาพวกเค้าจะบังคับให้ตัวเองต้องไปถึงเป้าหมายให้ได้ และเค้าจะมีวิธีที่ดีเพื่อเพิ่มแรงผลักดันให้แก่ตัวพวกเค้าแบบไม่หยุดหย่อนจนกว่าจะทำสำเร็จ
- พวกเค้าจะทุ่มเททุกอย่างที่เค้ามีทั้งแรงกายและแรงใจรวมทั้งสมองในการทำเป้าหมายให้สำเร็จ ถึงแม้ว่าจะยากเย็นและหนทางอีกยาวไกลแต่พวกเค้าก็ไม่เคยที่จะหยุดหรือแวะไปทำอย่างอื่นก่อน เพราะพวกเค้าจะท่องไว้เสมอว่าต้องทำให้สำเร็จทีล่ะอย่างไม่ควรทำอะไรหลายๆอย่างพร้อมกัน
- พวกเค้าจะใช้เวลาที่มีในแต่ละวันให้เกิดประโยชน์มากที่สุด สิ่งใดที่ไม่จำเป็นและทำให้เสียเวลาพวกเค้าจะตัดทิ้งออกไปเลยในช่วงที่เค้ากำลังมีความมุ่งมั่นและความตั้งใจจดจ่อกับสิ่งทีกำลังพยายามทำให้สำเร็จ
- พวกเค้าจะใช้จ่ายอย่างคนฉลาดถึงแม้ว่าเค้าจะประสบความสำเร็จมีธุรกิจและมีเงินทองแล้ว แต่ก็เลือกที่จะใช้จ่ายอย่างระมัดระวังไม่ตามใจตนเองจนเกินไปเพราะรู้ดีว่ากว่าจะมาถึงจุดๆๆนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และยังคงเก็บออมอยู่เสมอยิ่งรายได้มากขึ้นก็ยิ่งเก็บมากขึ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมคนพวกนี้จึงมีแต่รวยและรวยเพิ่มมากขึ้นตลอดเวลา
- พวกเค้าจะไม่หยุดการเรียนรู้เพราะพวกเค้ารู้ว่าไม่มีคำว่าสิ้นสุดสำหรับการเรียนรู้ละยิ่งเพิ่มความรู้ให้แก่ตนเองมาเท่าไหร่โอกาสที่จะเจริญเติบโตเพิ่มมากขึ้นก็มีสูงเช่นกัน คนพวกนี้จึงจัดได้ว่าพวกเค้าเป็นบุคคลที่มีความรู้ความสามารถและฉลาดที่สุด
- พวกเค้ามักจะนำความผิดพลาดและวามล้มเหลวที่เคยผ่านมาคอยเป็นสิ่งที่ช่วยให้พวกเค้าพัฒนาสิ่งต่างๆได้เพิ่มมากขึ้น แม้ในวันที่ประสบความสำเร็จแล้วแต่ก็ไม่เคยลืมข้อผิดพลาดของตนเอง
- นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จหลายๆท่านมักจะเป็นผู้ให้หมั่นทำบุญและบริจาคเพื่อการกุศลอยู่ตลอดเวลา เพราะพวกเค้ายังคงเชื่อความเชื่อที่สืบทอดกันมานมนานว่ายิ่งให้ก็ยิ่งได้รับนั้นเอง แม้การให้จะไม่ได้หวังผลแต่เชื่อเถอะผลตามมาหาผู้ให้แบบอัตโนมัติอย่างแน่นอน
ตัวอย่างนักธุรกิจของไทยที่มีอายุเพียงไม่เท่าไหร่แต่สามารถปลดหนี้สินมูลค่ากว่าร้อยล้านได้คือคุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ บุตรชายของคุณพงษ์ศักดิ์ ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ที่ในวัยรุ่นเกเรและไม่มีแววว่าจะสามารถบริหารธุรกิจให้กับทางบ้านได้เลยจนถูกส่งให้ไปเรียนอยู่เมืองนอกแต่ไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเพราะต้องเรียนด้วยทำงานไปด้วย เมื่อเกิดเหตุที่ทำให้ต้องกลับมาเมืองไทยเพราะการเสียชีวิตของคุณพ่อและตนเองเป็นลูกชายคนโตแม้จะเสียใจอย่างไรแต่ก็ต้องเข้มแข็งให้คุณแม่และน้องเห็นพร้อมได้รับทราบว่ามีหนี้สินจากบริษัทของคุณพ่อเป็นจำนวนร้อยล้าน
เค้าจึงต้องนั่งแท่นผู้บริหารบริษัทถึงสองบริษัทควบกันแทนคุณพ่อของเค้าใช้ความรู้ความสามารถที่มีบริหารและจัดการจนสามารถล้างหนี้สินทั้งหมดได้และพัฒนาทั้งสองบริษัทให้เจริญเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จึงมอบหมายให้น้องที่เป็นรอบประธานเป็นคนดูแลต่อเพื่อที่เค้าจะกลับไปเรียนให้จบตามคำสั่งเสียของพ่อเค้า จากชีวิตของเค้าที่ถึงแม้ไม่ได้เริ่มต้นมาจากศูนย์แต่ก็ต้องมาประสบกับอุปสรรคอันใหญ่หลวงด้วยสถานการณ์แบบติดลบแต่เค้าก็สามารถผ่านวิกฤตในตอนนั้นมาได้
“ตอนนั้นขายของล้างหนี้ไป แต่ไม่ปิดบริษัทเพราะเป็นธุรกิจที่คุณพ่อรัก คุณพ่อรักเกษตรกรรม เราก็ซึมซับมาตั้งแต่เด็กเลยสานต่อ หลังจากใช้หนี้ร้อยล้านหมด คิดจะสานงานของคุณพ่อต่อก็เลยตัดสินใจ กู้เงินพันล้าน หน้าใสอย่างนี้แต่ธนาคารก็ยอมให้กู้นะครับ แต่ผมพูดแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมเก่ง จริงๆ ผมเป็นคนซื่อบื่อ พูดจาอะไรไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ผมก็ทำงานให้พ่อได้”
หนึ่งในบทสัมภาษณ์จาก kapook.com ที่ทำให้เราได้ทราบถึงแนวคิดของนักธุรกิจคนนี้อย่างมากเลือกที่จะลำบากแต่ไม่ยอมปล่อยสิงที่พ่อทิ้งไว้ให้แม้ว่าจะมาพร้อมหนี้สินก็ใช้ความพยายามปลดหนี้จนได้ละสานต่อเจตนารมณ์ของผู้เป็นพ่อได้อย่างดีถึงแม้ว่าไม่เคยคิดที่จะทำแต่ด้วยเพราะสถานการณ์และหลายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวนับได้ว่าเป็นคนที่ฉลาดและมีไหวพริบในการแก้ไขปัญหาต่างๆได้เป็นอย่างดีเหมาะสำหรับการเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่ผู้ที่กำลังเจอเข้ากับมรสุมในชีวิตหรือมีอุปสรรคในการทำธุรกิจ แต่อาจไม่ต้องรอให้เกิดความสูญเสียแล้วจึงค่อยมีแรงผลักดันในการทำอะไรให้สำเร็จขอเพียงแค่มีความตั้งใจและมุ่งมั่นทุกคนก็สามารถประสบ ความสำเร็จ ได้ไม่มีใครที่ไม่เคยเจอกับช่วงที่มรสุมรุมเข้ามาหาขอเพียงแค่พยายามที่จะหาทางออกจากมรสุมให้ได้ต่อไปท้องฟ้าข้างหน้าสดใสอย่างแน่นอน