ทุกวันนี้บัตรเอทีเอ็มก็ยังคงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมทางการเงิน ถึงแม้ว่าจะมีบางคนที่เปลี่ยนไปใช้ธุรกรรมอิเลคทรอนิกส์ช่องทางอื่นกันมากขึ้น แต่เพื่อนำเงินสดออกมาใช้จ่ายกันบัตรเอทีเอ็มก็ยังเป็นคำตอบที่ใช่อยู่ในปัจจุบัน เพราะฉะนั้นการใช้บัตรเอทีเอ็มให้ปลอดภัยก็ยังเป็นเรื่องที่จะละเลยไปไม่ได้เหมือนกัน แถมยังจะต้องคำนึงถึงเรื่องความประหยัดในการใช้บัตรเอทีเอ็มกันด้วยอีกต่างหาก เรามาดูกันดีกว่าว่าจะใช้บัตรเอทีเอ็มกันแบบไหนดีให้ประหยัดและปลอดภัย
เริ่มแรกเลยเมื่อเราได้บัตรเอทีเอ็มและรหัสผ่านมาแล้ว เราจะต้องรักษาบัตรเอทีเอ็มให้ปลอดภัยและไม่ควรเขียนรหัสกดบัตรใส่ไว้ในซองเดียวกับที่เก็บบัตรเอทีเอ็ม
ซึ่งการทำแบบนี้มักจะเกิดกับผู้สูงอายุกันเป็นส่วนใหญ่ เพราะกลัวว่าจะลืมรหัสกดบัตรแล้วทำให้ไม่สามารถกดเงินออกจากบัตรเอทีเอ็ม เลยเก็บทั้งบัตรเอทีเอ็มและรหัสบัตรไว้ด้วยกัน ดังนั้นหากเราเห็นว่าผู้สูงอายุในบ้านของเราทำแบบนี้ก็จะต้องบอกให้ปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บบัตรเอทีเอ็มและรหัสผ่านกันเสียใหม่แล้ว ส่วนรหัสผ่านเวลาตั้งก็ไม่ควรใช้สิ่งที่สามารถเดากันได้ง่ายเกินไป เช่น วันเดือนปีเกิด เบอร์โทรศัพท์ บ้านเลขที่ เป็นต้น
ส่วนเวลาที่เราจะไปกดเงินตามตู้เอทีเอ็มต่างๆ ก็ต้องเลือกทำเลที่ตั้งกันสักหน่อย คือ เลือกตู้ที่อยู่ในแหล่งชุมชน
ที่เป็นตลาดหรือหน้าร้านสะดวกซื้อต่างๆ ที่ไม่เปลี่ยวจนเกินไป เวลาที่ไปกดเงินก็ควรที่จะเลือกเวลาที่ไม่มืดค่ำจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้เราตกเป็นเป้าหมายในการขโมยเงินเมื่อเรากดบัตรเอทีเอ็มเรียบร้อยแล้วก็ได้ และถ้าเราป้องกันตัวเองในทุกๆ ด้านแล้ว แต่ก็บัตรเอทีเอ็มก็ยังหายไปได้อีก ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำเมื่อรู้ตัวว่าบัตรเอทีเอ็มหายไป คือ โทรแจ้งอายัดบัตรกับธนาคารที่ออกบัตรให้กับเราทันที และก็ไปแจ้งทำบัตรเอทีเอ็มใหม่ซึ่งอาจจะต้องเสียเวลาและเสียเงินค่าธรรมเนียมเพิ่ม เพราะฉะนั้นถ้าไม่อยากเสียเวลาและค่าธรรมเนียมเพิ่มแล้วล่ะก็ต้องรักษาบัตรของตัวเองกันให้ดีๆ นะ
สิ่งที่สำคัญอีกอย่างในการใช้บัตรเอทีเอ็ม คือ สลิปเอทีเอ็ม
ที่บางคนมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่สำคัญ บางทีกดแล้วก็ทิ้งค้างไว้ที่ตู้ บางคนพอเก็บออกจากตู้ก็ทิ้งลงถังขยะข้างตู้กันทันที แต่รู้กันหรือเปล่าว่าสลิปเอทีเอ็มนั้นก็มีข้อมูลสำคัญมากมายที่ทำให้คนอื่นสามารถเข้าถึงข้อมูลบัญชีธนาคารของเรา และนำข้อมูลที่ได้มาสร้างความเสียหายให้กับบัญชีธนาคารของเราได้ ซึ่งเราอาจจะบอกว่าธนาคารแสดงข้อมูลบัญชีต่างๆ ของเราบนสลิปเอทีเอ็มเพียงบางส่วนเท่านั้น แต่ทางที่ดีเราก็ควรจะต้องมองโลกในแง่ร้ายกันไว้บ้าง เพราะบางครั้งคนที่ต้องการจะขโมยก็จะหาทางขโมยให้ได้อยู่ดี
เพราะฉะนั้นถ้าเราไม่ได้ต้องการใช้สลิปเอทีเอ็มสำหรับเป็นหลักฐานการทำรายการต่างๆ เช่น การโอนเงิน การฝากเงิน การชำระค่าสินค้าหรือบริการแล้ว เวลาที่เราทำรายการเสร็จก็ต้องเลือกเอาว่าจะรับหรือไม่รับสลิปเอทีเอ็ม ซึ่งหากเราเลือกที่จะไม่รับสลิปเอทีเอ็มเราก็เพียงแต่ตรวจสอบการทำธุรกรรมต่างๆ ว่าถูกต้องตามที่ต้องการหรือเปล่าเท่านั้นเอง ซึ่งการทำแบบนี้ถือว่าเป็นการลดความเสียงในการถูกขโมยข้อมูลแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการใช้กระดาษเพื่อลดภาวะโลกร้อนอีกทางหนึ่งด้วย แต่ถ้าเราเลือกที่จะรับสลิปเอทีเอ็มแล้วเมื่อใช้ประโยชน์เสร็จก็อย่าทำหล่นหายหรือทำการฉีกทิ้งทุกครั้งแล้วกัน
เมื่อเรารู้ถึงเรื่องความปลอดภัยจากการใช้บัตรเอทีเอ็มแล้ว เราลองดูกันด้วยดีกว่าว่าการใช้บัตรเอทีเอ็มให้ประหยัดนั้นทำแบบไหนได้บ้าง
อย่างแรกที่ทุกคนทำกันก็คือ ใช้บัตรเอทีเอ็มกับตู้ธนาคารเจ้าของบัตรเท่านั้น แต่อย่าลืมอีกอย่างหนึ่งคือ แม้ว่าบัตรเอทีเอ็มและตู้เอทีเอ็มที่กดเป็นธนาคารเดียวกัน แต่ถ้าบัตรเอทีเอ็มของเราเป็นบัญชีที่กรุงเทพแล้วเอาไปกดที่ตู้ต่างจังหวัดแล้ว เสียค่าธรรมเนียมแน่นอนซึ่งจะเรียกว่าค่าธรรมเนียมการกดเงินข้ามเขต ส่วนถ้าเป็นการใช้บัตรเอทีเอ็มกับธนาคารอื่นๆ ที่ไม่ใช่ธนาคารที่ออกบัตร ส่วนมากก็จะมีเงื่อนไขให้กดได้ไม่เกิน 4 ครั้งต่อเดือน ก็จะไม่เสียค่าธรรมเนียม ทั้งนี้แล้วเราสามารถตรวจสอบการคิดค่าธรรมเนียมของบัตรเอทีเอ็มของทุกธนาคารได้ที่เว็บไซต์ของ ศคง. คือ www.1213.or.th ในหัวข้อเรื่องข้อมูลเปรียบเทียบ “อัตราค่าธรรมเนียมของสถาบันการเงิน”