คุณแม่บ้านหรือคุณผู้หญิงทำงานหลายคนหลายคนคงอยากทราบถึงการจัดการเงินของฝ่ายชายให้อยู่หมัด แต่ความจริงแล้วอยู่ที่ความสมัครใจของแต่ละบ้าน และผู้ชายแต่ละคน สำหรับบ้านผู้เขียนเองแล้ว ผู้ชายจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องการเก็บเงินนัก หาได้ก็จะให้เราเก็บ หน้าที่เราเพียงแค่จัดหาบัญชีฝากประจำที่ดอกเบี้ยไม่ต้อยต่ำมากนัก นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายภายในบ้าน ฝ่ายชายก็จะให้ผู้หญิงเป็นการจัดการเช่นการไปจ่ายค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าส่วนกลาง ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น) ให้ตรงเวลา
สำหรับหลายคนที่อยากให้สามีอ่อนข้อในเรื่องเก็บเงินที่ภรรยา ขอให้โน้มน้าวเขาก็ได้ว่าเรามีการจัดการที่ดี มีการหาข้อมูลว่าเก็บกับธนาคารนี้แล้วจะดีนะ และทำให้เราไม่ใช้เงินเกินตัว อย่างสามีบางครั้งชอบใช้จ่ายเช่นชอบซื้อของสะสม และเป็นที่รู้กันดีว่าสิ่งที่ผู้ชายชอบสะสมมักจะมีราคาแพง เช่น กล้องถ่ายรูป รถยนต์ มอเตอร์ไซค์แพง ๆ รูปภาพศิลปะ เป็นต้น ดังนั้นวิธีที่จะทำให้เราคุมอำนาจแบบนุ่มนวลมีคร่าว ๆ ดังนี้
-
บอกถึงข้อดีที่การที่เราช่วยเก็บเงิน ว่ามีอะไรบ้าง
การที่เราช่วยเขาจัดการเรื่องเงิน จะทำให้เขามีวินัยทางการเงิน และไม่ใช้จ่ายในเรื่องที่ไม่จำเป็น ทำให้ในอนาคตมีเงินเก็บเพิ่มมากขึ้น ไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย
-
ทำให้ฝ่ายชายมีชีวิตที่ง่ายขึ้น
เพราะสาเหตุที่ไม่ต้องมาจัดการเรื่องเงินภายในบ้านให้ปวดหัว ทำให้มีเวลาพักผ่อนไปเที่ยวต่างจังหวัด ไปออกกำลัง มีเวลาให้กับตัวเองมากขึ้น อีกอย่างโดยธรรมชาติผู้หญิงมีความใส่ใจในรายละเอียดมากกว่าฝ่ายชายดังนั้นจึงไม่ค่อยหลุดเรื่องค่าใช้จ่าย
-
ตกลงกันตั้งแต่แรก จะได้ไม่ต้องผิดใจกันทีหลัง
บางคู่อาจจะมีรายได้ประจำเดือนทั้งคู่จึงมีเงินเข้ากระเป๋าแยกกัน แต่หลังจากแต่งงานถ้าอยากให้ชีวิตมีเงินเก็บมากขึ้น อาจจะต้องนั่งจับเข่าคุยกันว่าข้อดีว่ามีเงินที่ฝ่ายชายจะแบ่งมาเก็บเป็นกองกลางและช่วยกันรับผิดชอบค่าใช้จ่ายภายในบ้านร่วมกัน แต่ถ้าฝ่ายชายรวยมีเงินผู้หญิงอาจจะโชคดีไม่ต้องทำงานอะไร และผู้ชายรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด
ดังนั้นจึงควรที่จะตกลงกันให้ชัดเจนว่าจะช่วยกันเก็บ หรือจะให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจัดเก็บเงินของครอบครัว
แต่ในสังคมปัจจุบันมีความปัจจเจก (individual) มากขึ้น ทำให้ต่างฝ่ายต้องช่วยกันทำงานหาเงิน คงไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่ต้องให้ตลอดไป
ความสัมพันธ์ที่ดีคงไม่ได้เป็นแค่ความสัมพันธ์ที่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดให้เพียงอย่างเดียว อย่างบ้านตัวของผู้เขียนเอง เราก็เคยคิดว่าจะเป็นเจ้าหญิงซินเดอเดรลล่า แต่สุดท้ายการที่ผู้หญิงอยู่เฉยๆ ไม่ทำงานเลย ก็ไม่สนุก มีความน่าเบื่อ ฝ่ายชายเองก็ไม่ได้บังคับว่าต้องอยู่บ้าน ส่วนตัวคิดว่ามีแรงก็ช่วยกันทำมาหากินกันไปก่อน ฝ่ายชายเคยบอกว่าความสัมพันธ์ที่ดีคือทุกฝ่ายต้องช่วยเหลือกัน มีทั้งให้และรับ จริง ๆ แล้วคือหลักของความสมดุลย์ ต้องมีทั้งให้และรับ ถ้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งให้อย่างเดียว เขาก็จะรู้สึกว่าไม่มีความสุข การดูแลกันและกันเป็นสิ่งที่สำคัญจริง ๆ เพื่อให้ความสัมพันธ์สามีภรรยาก้าวผ่านความยากลำบากต่อไปได้
ความรักมีความสำคัญที่จะทำให้ดำเนินชีวิต ถ้ามีความจริงใจให้แก่กัน ผู้เขียนเชื่อแน่ว่าฝ่ายชายส่วนใหญ่ก็จะให้ผู้หญิงจัดเก็บ แต่ก็มีผู้ชายบางคนที่อยากจัดการเก็บเงินด้วยตัวเองเก่งก็มี ยกตัวอย่างเช่น ผู้ชายที่ทำอาชีพเกี่ยวกับการเงิน นักบัญชี นักเล่นหุ้น นักเล่นกองทุน ผู้ชายประเภทนี้จะชอบการจัดการเงินด้วยตัวเอว ถ้าเกิดกรณีนี้ก็ต้องปล่อยไป เพราะเขาถนัดในการจัดเก็บเงิน และสามารถทำให้เงินงอกเงยได้ดี ถ้าเจอผู้ชายแบบนี้ก็ถือว่าโชคดีมาก เราสามารถไว้ใจเขาได้ว่าจะมีการจัดเก็บเงินไว้ให้ครอบครัวไว้ใช้ยามฉุกเฉินได้ ดังนั้นเรื่องการบริหารเงินภายในบ้านจึงมีความแตกต่างกันไปในแต่ละครอบครัว ซึ่งแต่ละครอบครัวมีธรรมชาติไม่เหมือนกัน เอาที่แต่ละบ้านสบายใจดีกว่า