แรงบันดาลใจของความสำเร็จของคนเรานั้น มักจะเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัยด้วยกัน การมองไปรอบ ๆ ตัวเราว่าคนอื่นเขาทำอะไรกันบ้างจึงประสบความสำเร็จได้ก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่เพียงแต่มนุษย์หรือคนเท่านั้นที่เราสามารถเรียนรู้พฤติกรรมเพื่อนำมาปรับใช้กับตัวเราได้ แม้แต่สัตว์ที่เป็นเพื่อนร่วมโลกก็มีสิ่งดี ๆ ที่หากจะมองให้ลึกลงไป ก็นำมาปรับใช้กับชีวิตเพื่อให้ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
น้อยนักที่จะมีใครที่ประสบความสำเร็จในชีวิตได้ด้วยตัวคนเดียว ส่วนใหญ่แล้วมักจะต้องมีทีมงาน หรือกลุ่มคนคอยให้ความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นชีวิตการเรียนหรือการทำงาน ชีวิตครอบครัว หรือเรื่องอื่นใดในชีวิตก็แล้วแต่ เหมือนกับที่สุภาษิตไทยว่าไว้ว่า “หลายหัวดีกว่าหัวเดียว” นั้นเป็นความจริงเสมอค่ะ
เชื่อว่าหลายท่านน่าจะเคยได้เห็นคลิปที่มีการแชร์และส่งต่อกันในโซเชียลมีเดีย เป็นคลิปที่น่ารักมาก เพราะเป็นเรื่องราวของสัตว์ตัวเล็ก ๆ อย่างมด นกเพนกวิน และก็ปู จะลองเอามาเล่าสั้น ๆ เผื่อว่าใครยังไม่เคยได้ดูค่ะ มดกำลังแบกใบไม้เดินเรียงรายเป็นแถวอยู่ แต่แล้วมดตัวสุดท้ายก็เหมือนกำลังถูกลมอะไรพยายามพัดหรือดูดให้เข้าไปอยู่ จนมดตัวที่อยู่ข้างหน้าต้องหันมาช่วยดึงขาไว้ ปรากฏว่าเป็นตัวกินมดที่มีจมูกยาวกำลังเตรียมที่จะใช้จมูกดูดกินมดเหล่านั้นทีละตัว มดทุกตัวจึงรีบแตกแถว หันมาจับมือรวมตัวกันเป็นก้อนกลมใหญ่ ๆ ในเวลาอันรวดเร็ว เมื่อตัวกินมดใช้แรงเต็มที่ในการดูด ก้อนมดที่ประกอบด้วยมดหลายร้อยตัวจึงตรงเข้าไปอุดที่จมูกของตัวกินมด เล่นเอาเจ้าตัวหงายหลังตึงไปเลย เหล่ามดตัวน้อย ๆ จึงรอดพ้นจากการถูกกินมาได้
ถัดไปเป็นเหล่านกเพนกวินที่กำลังยืนนิ่งอยู่บนแผ่นน้ำแข็ง ขณะนั้นมีฉลามกำลังเตรียมที่จะว่ายกระโจนขึ้นมากินเจ้านกเพนกวิน แต่นกเพนกวินรู้ทันจึงรีบเลื่อนตัวมายืนเรียงกันที่แผ่นน้ำแข็งฝั่งหนึ่ง ทำให้ในจังหวะที่ฉลามกำลังกระโจนขึ้นมาจากน้ำต้องชนกับแผ่นน้ำแข็งที่กระดอนขึ้นทันที แล้วเจ้าเพนกวินก็รีบเลื่อนตัวกลับมายืนในตำแหน่งเดิมเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เรื่องราวช่วงท้ายของคลิปเป็นเรื่องของปูที่กำลังเดินอยู่บนหาดทราย ทันทีที่พวกมันรู้สึกได้ถึงภัยอันตรายที่กำลังเข้ามาใกล้ นั่นก็คือเจ้านกหัวโตปากแหลมที่กำลังพุ่งทะยานลงมาจากฟากฟ้าเพื่อเตรียมจิกปูไปกินทีละตัว พวกมันก็รีบจัดแถวยืนชิดกัน แล้วตั้งก้ามขึ้นพร้อมทำหน้าที่เป็นกรรไกรอันแหลมคม เจ้านกหัวโตเบรกไม่ทันจึงโดนตัดขนเกลี้ยงไม่เหลือ กลายเป็นนกขนกุดบินไม่ได้ไปในทันใด
เราได้เรียนรู้อะไรบ้างจากคลิปเหล่านี้คะ แน่นอนเรื่องของความสามัคคีนั่นเอง ถ้าสัตว์เหล่านี้อยู่เพียงลำพังตัวเดียว มันจะไม่มีทางรอดพ้นจากอันตรายที่อยู่รายรอบพวกมันได้เลย ตรงกันข้ามกับเมื่ออยู่เป็นกลุ่มเป็นก้อน ต่อให้มีอันตรายที่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ถ้ามีความสามัคคีกัน ทำงานเป็นทีม รู้ว่าใครจะต้องทำอะไร พวกมันก็สามารถผ่านพ้นทุกช่วงวิกฤตของแต่ละวันไปได้อย่างดีที่สุด ถือว่าประสบความสำเร็จในการเอาชีวิตในแต่ละวันนั่นเอง
ไม่เฉพาะเรื่องของการเอาตัวรอดของสัตว์ตัวเล็ก ๆ แบบนี้เท่านั้น สัตว์ใหญ่ที่เป็นเจ้าป่าอย่างสิงโต ก็มีวิธีในการทำงานหาเหยื่อแบบเป็นทีมไม่ลุยเดี่ยว เพื่อให้มั่นใจว่าจะพิชิตเหยื่อที่มีขนาดตัวใหญ่กว่าพวกมันหลายเท่าได้ และถ้าทำสำเร็จก็หมายถึงอาหารมื้อใหญ่ที่แบ่งกันกินทั้งฝูงได้จนอิ่มท้องนั่นเอง
สัตว์อีกชนิดที่ถือว่ามีทีมเวิร์คที่ดีมากในการทำงานร่วมกัน นั่นก็คือผึ้ง ผึ้งแต่ละตัวจะมีการแบ่งงานกันอย่างชัดเจน ไม่มีการทำงานคนเดียว ไม่มีการแย่งงานกันทำ ไม่มีการเกี่ยงงานของตัวเองให้คนอื่นทำ ผึ้งทุกตัวจะรู้บทบาทและหน้าที่ของตัวเองว่าต้องทำอะไร และก็ตั้งตาตั้งตาทำหน้าที่ของตัวเองอย่างดี รับผิดชอบจนกว่างานจะสำเร็จลุล่วง ผึ้งนางพญามีหน้าที่ผสมพันธุ์และวางไข่เท่านั้น ผึ้งงานมีหน้าที่ทำงานทุกอย่างภายในรังผึ้ง ส่วนผึ้งตัวผู้มีหน้าที่กินอาหารแล้วก็ผสมพันธุ์ ไม่มีการก้าวก่ายในหน้าที่ซึ่งกันและกัน และไม่มีค่าตอบแทนเป็นเงิน เคยได้ยินไหมคะว่าค่าตอบแทนที่ผึ้งได้รับก็คือ กลิ่นตัวของผึ้งนางพญา การได้อยู่ร่วมกันเป็นกลุ่มก้อนและได้รับการยอมรับจากสังคมผึ้ง แค่นั้นเองเป็นสิ่งที่ผึ้งต้องการ
เรื่องสัญชาตญาณในการทำงานเป็นทีมของสัตว์ตามที่กล่าวมาข้างต้นนั้น มนุษย์เราสามารถนำมาเป็นแบบอย่างเพื่อปรับใช้กับตัวเราได้ ไม่มีใครเก่งไปเสียทุกเรื่อง ตัวคนเดียวไม่สามารถทำได้ทุกอย่าง เราจำเป็นต้องมีทีม จำเป็นต้องมีคนช่วย หากเราเลือกใช้คนเก่งหรือถนัดในเรื่องต่าง ๆ เข้ามาช่วยเรา ก็ทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จในเรื่องต่าง ๆ ได้มากขึ้น การทำงานร่วมกับคนอื่นเพื่อให้ประสบผลสำเร็จก็สามารถนำชีวิตของสัตว์มาปรับใช้ได้เช่นกัน ยึดส่วนรวมเป็นหลัก บางครั้งอาจต้องเสียสละบ้าง ไม่ทำตัวเด่นหรือทำเกินหน้าที่ ขอแค่เพียงรับผิดชอบในบทบาทและหน้าที่ของเราให้ดี ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เคารพผู้นำ เป็นผู้ตามที่ดี ให้ความช่วยเหลือและร่วมมือในเรื่องงาน ด้วยการเลียนแบบการทำงานของสัตว์ง่าย ๆ เพียงแค่นี้ ก็ทำให้การทำงานประสบความสำเร็จได้ในทุกเป้าหมายค่ะ ขอให้ลองดูนะคะ