เรื่องปัญหาการซื้อประกันชีวิตแบบได้ข้อมูลไม่ครบทำให้ตัดสินใจผิดพลาดไป เมื่อถึงเวลาอยากยกเลิกกรมธรรม์ ไม่อยากส่งเงินต่อหรือไม่อยากรอเวลาแล้ว ก็มีโอกาสได้รับเงินคืนมาไม่เท่ากับที่เราส่งค่าเบี้ยประกันไป จุดมุ่งหมายของบางคนที่ทำประกันเพราะต้องการออมเงินนอกจากจะไม่ได้ตามนั้นแล้ว ยังต้องเสียเงินตัวเอง ได้เงินคืนไม่ครบอีกเป็นปัญหาที่มีมานานและจนปัจจุบันก็ยังเป็นปัญหาอยู่อย่างต่อเนื่อง
มีโอกาสได้ไปอ่านกระทู้นี้มา http://pantip.com/topic/33767963 เจ้าของกระทู้ได้ตัดสินใจทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์กับธนาคารใหญ่แห่งหนึ่ง โดยได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารที่มาให้ข้อมูลเกี่ยวกับประกันชีวิตฉบับนี้ สิ่งที่เจ้าของกระทู้ได้รับข้อมูล ก็คือ กรมธรรม์ฉบับนี้เป็นการประกันชีวิตในวงเงินคุ้มครองหนึ่งล้านสามแสนบาทและเป็นการออมทรัพย์ด้วย โดยจ่ายเงินค่าเบี้ยประกันแค่เพียง 5 ปีเท่านั้น ในยอดเงินปีละ 154,765 บาท ในระหว่างนั้นจะได้รับเงินคืนทุกปี ปีละ 13,000 บาทด้วย เจ้าหน้าที่ของธนาคารได้อธิบายโดยแสดงตัวเลขดอกเบี้ยให้เห็นว่าเงินคืนที่ตอบแทนทุกปีนี้มากกว่าเงินฝากประจำของธนาคาร ส่วนเรื่องความคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตหนึ่งล้านสามแสนบาทก็ถือเป็นการแถมประกันให้ด้วย เจ้าของกระทู้ได้ถามกลับว่ากรมธรรม์นี้สามารถยกเลิกได้และได้เงินคืนครบใช่หรือไม่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ให้ข้อมูลว่าได้คืนครบโดยเราจะสามารถยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้หลังจากที่ส่งค่าเบี้ยประกันครบ 5 ปี แต่หากยกเลิกความคุ้มครองก็จะถูกยกเลิกไปด้วย เจ้าของกระทู้ก็ตกลงทำประกันชีวิตแบบออมทรัพย์นี้ไปและได้จ่ายค่าเบี้ยไปเป็นเวลา 3 งวด เป็นเงินรวม 464,295 บาท
หลังจากนั้นเจ้าของกระทู้ก็ได้มีโอกาสเข้ามาอ่านกระทู้ในพันทิปที่มีน้องคนหนึ่งมาตั้งกระทู้ทำนองว่าถูกหลอกให้ซื้อประกัน จึงมีการสอบถามไปก็เริ่มหวั่นใจว่าจะโดนหลอกเหมือนกันหรือไม่ จึงตัดสินใจโทรไปเช็คที่บริษัทประกัน เมื่อแจ้งเลขที่กรมธรรม์และเจ้าหน้าที่ให้ข้อมูลกลับมา ก็ต้องตกใจอย่างมากเมื่อทราบว่าเจ้าของกระทู้จะได้คืนเงินครบตามจำนวนที่ส่งไปตอนอายุ 90 ปี ซึ่งก็หมายความว่าหากต้องการเงินคืนก่อนหน้านั้นก็จะต้องเวนคืนกรมธรรม์เท่านั้น และจะได้เงินคืนไม่ครบตามที่ส่งไปด้วย ส่วนจะเหลือเท่าไหร่ก็ยังไม่ทราบ สิ่งที่ไม่เข้าใจ ก็คือ ทำไมเจ้าหน้าที่ธนาคารถึงให้ข้อมูลแบบนี้ หากรู้ว่าต้องรอถึงอายุ 90 ปี จะตัดสินใจทำแบบง่าย ๆ ไปอย่างนั้นได้อย่างไร แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้จึงต้องเข้ามาตั้งกระทู้นี้เพื่อเป็นอุทาหรณ์ให้กับคนทั่วไปที่ได้เข้ามาอ่าน โดยอยากบอกว่าหากต้องการทำประกันชีวิตไม่ควรซื้อผ่านเจ้าหน้าที่ธนาคาร ควรติดต่อซื้อผ่านบริษัทประกันชีวิตโดยตรงจะดีกว่าเพื่อจะได้รับข้อมูลที่ถูกต้อง อีกอย่างเจ้าหน้าที่ธนาคารถึงเวลาไม่มีทางยอมรับเด็ดขาดว่าตัวเองเคยพูดอะไรกับลูกค้าเอาไว้ บริษัทประกันชีวิตก็ช่วยอะไรเราไม่ได้เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกรมธรรม์
แต่สุดท้ายสำหรับเรื่องนี้ภายหลังเจ้าของกระทู้ได้รับแจ้งจากบริษัทประกันชีวิตว่าให้ส่งกรมธรรม์คืนให้กับบริษัท แล้วทางบริษัทจะคืนเงินค่าเบี้ยประกันทั้งหมดตามที่เจ้าของกระทู้ส่งไป
เรื่องการให้ข้อมูลไม่ครบถ้วนหรือบิดเบือนของเจ้าหน้าที่ขายประกัน ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารตัวแทนขายประกันหรือการขายประกันผ่านโทรศัพท์ก็มีให้เห็นมามากมายหลายกรณี ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือเป็นเพราะไม่รู้ประสบการณ์น้อยก็ตาม สิ่งที่ย้ำอยู่เสมอก็คือว่าการซื้อประกันชีวิตเป็นการลงทุนในระยะยาวและวัตถุประสงค์ของการประกันชีวิตส่วนหนึ่งก็คือการซื้อความเสี่ยงในความคุ้มครองกรณีเสียชีวิต การพ่วงเรื่องของออมทรัพย์เข้ามาในประกันชีวิตด้วยทำให้ประกันชีวิตขายได้ง่ายขึ้น เพราะคนส่วนใหญ่ก็นึกเผื่อว่าหากเราไม่เสียชีวิตถึงครบกำหนดสัญญาเราก็อยากได้เงินคืนมา ไม่ได้อยากจ่ายทิ้งไปทั้งหมด แต่ประกันชีวิตไม่เหมือนกับการฝากเงินหรือการลงทุนประเภทอื่นที่มีกำหนดระยะเวลาในการคืนหรือเบิกถอนได้คล่องตัวกว่า ประกันชีวิตมักจะมีระยะเวลาที่ยาว คือ มันเป็นรูปแบบของการประกันชีวิตอยู่แล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้หากใครมาบอกว่าส่งประกันไปครบแล้ว อยากจะยกเลิกเมื่อไหร่ก็ได้ ได้เงินคืนครบแน่นอน สิ่งสำคัญ คือ สิ่งที่เขียนอยู่ในกรมธรรม์เท่านั้น ไม่ใช่สิ่งที่พูดโดยคนมาเสนอขายประกัน แม้บางคนไม่ได้บิดเบือนข้อมูล แต่ก็บอกเราไม่ครบทำให้เกิดการเข้าใจผิดได้เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม : โดนหลอกให้ทำประกัน โดยไม่ทันตั้งตัว
เงินเป็นของเรา การตัดสินใจก็เป็นของเรา อย่าตัดสินใจเลือกซื้อประกันชีวิตแบบง่าย ๆ โดยไม่เห็นเอกสารอะไร เชื่อคนขายประกัน 100% ยิ่งเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคารหรือเจ้าหน้าที่โทรมาขายประกันนี่ยิ่งต้องระวัง เพราะคนเหล่านี้ไม่ได้มีประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญในเรื่องของประกันชีวิต แค่ขายประกันให้ได้พอได้ค่าคอมมิชชั่นหรือได้ยอดตามเป้าก็จบ ไม่ได้สนใจว่าลูกค้าจะเป็นอย่างไรต่อไป เรื่องของจรรยาบรรณนี้เป็นเรื่องของแต่ละบุคคลมีทั้งคนดีและคนไม่ดี หากเราเจอคนขายประกันที่ไม่ดี มีเจตนาปิดบังหรือหลอกลวง แล้วเราก็เป็นคนเชื่อคนง่าย ไม่เช็คหรือตรวจสอบอะไรก็มีโอกาสที่จะต้องมานั่งเสียใจแบบเจ้าของกระทู้ที่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยมาจนถึงส่งค่างวดไป 3 ปีถึงค่อยมาเอะใจและถ้าไม่มาอ่านเจอในกระทู้พันทิปก็คงจะส่งเงินไปจนครบ 5 ปี อย่างแน่นอน
มีคนที่โดนแบบนี้เยอะมากแล้วก็มาแชร์เพื่อให้เป็นอุทาหรณ์กันมากมาย กรณีแบบนี้ที่จริงไม่ควรมีเกิดขึ้นอีกแล้ว แอบเสียดายแทนอยู่เหมือนกันเพราะการประกันชีวิตก็เป็นการลงทุนในอีกรูปแบบหนึ่งที่หากคนมีความเข้าใจในรูปแบบของการประกันชีวิตและยอมรับกับมันได้ สามารถรอเวลาเพราะเข้าใจว่าเป็นการซื้อความเสี่ยงหรือความคุ้มครองไปด้วย มีการวางแผนจัดการเงินที่เหมาะสม ประกันชีวิตก็ถือว่ามีประโยชน์อยู่ไม่ใช่น้อย การมีเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นบ่อย ๆ ก็ทำให้คนส่วนใหญ่ขยาดและเกรงกลัวกับการทำประกันชีวิตกันไปเลย ซึ่งก็นับว่าน่าเสียดายมาก ๆ
บางคนบอกว่ากว่ากรมธรรม์จะมาถึงเรา ก็ตกลงกันไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนใหญ่จะมีการจ่ายค่าเบี้ยประกันในงวดแรกหรือสองงวดแรกไปแล้วด้วยซ้ำจะทำอย่างไรได้ในตอนนั้น ที่จริงแล้วเราสามารถทำอะไรได้ เพราะมีกฎหมายกำหนดไว้ ส่วนใหญ่แล้วบริษัทประกันจะส่งกรมธรรม์ฉบับจริงให้เราทางไปรษณีย์ลงทะเบียน เมื่อได้รับเราต้องเปิดอ่านข้อความในกรมธรรม์นั้นให้ครบถ้วน หากเรารู้สึกไม่โอเคหรืออยากยกเลิกกรมธรรม์ฉบับนั้น เราสามารถทำได้ด้วยการส่งกรมธรรม์ตัวจริงคืนพร้อมแนบจดหมายขอยกเลิกกรมธรรม์ ส่งคืนบริษัทประกันโดยไปรษณีย์ลงทะเบียนอย่าให้เกิน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่เราได้รับกรมธรรม์ บริษัทประกันจะต้องยกเลิกกรมธรรม์ฉบับนั้นโดยที่ต้องคืนเงินค่าเบี้ยที่จ่ายไปแล้วให้กับลูกค้าทั้งหมดด้วย ความสำคัญอยู่ที่ตรงนี้เพราะส่วนมากคนจะปล่อยให้เวลาผ่านไป ไม่ได้สนใจกับกรมธรรม์ที่ส่งมา เมื่อพ้น 15 วันนี้ไปแล้ว หากอยากยกเลิกก็จะเป็นการเวนคืนกรมธรรม์อาจไม่ได้เงินคืนเลยหรือได้เงินคืนแค่เพียงบางส่วนเท่านั้น แล้วก็มาบ่นเสียใจกันทุกคน
อย่าลืมว่าไม่มีใครรักษาผลประโยชน์ให้กับเราได้ดีเท่ากับตัวเราเอง หากไม่มั่นใจอย่าเพิ่งตกลงทำประกันชีวิตไป ใส่ใจซักนิดกับกรมธรรม์ประกันชีวิต เปิดอ่านกันสักหน่อย หากมีอะไรไม่เข้าใจก็สามารถโทรถามที่บริษัทประกันได้โดยตรงเลยและสำหรับเรื่องประกันชีวิตนี้ หากเรารู้สึกว่าเราไม่ได้รับความเป็นธรรมจะเป็นเรื่องอะไรก็แล้วแต่ หรือมีเรื่องอยากร้องเรียนก็มีช่องทางให้สามารถทำได้เช่นกัน โดยร้องเรียนไปได้ที่สำนักงาน คปภ. 1186
