เชื่อว่าทุกคนที่เลือกทำประกันภัยรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นประเภทใดหรือกับบริษัทไหนต่างก็ต้องการความคุ้มครองให้กับรถยนต์ของเราหรือของคู่กรณีหากเกิดอุบัติเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น แต่จะมีสักกี่คนที่รู้รายละเอียดเกี่ยวกับประกันภัยรถยนต์ของเรา เอาแบบละเอียดนะ ลองนึกถึงหน้าตากรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ ที่เมื่อทำประกันแล้ว บริษัทประกันก็จะให้เรามา จะมีสักกี่คนที่เปิดอ่านรายละเอียดทุกหน้า คิดว่าน่าจะมีน้อยมาก บางคนก็คิดว่าไม่จำเป็นหรือบางคนก็คิดว่าเรารู้หมดแล้ว ก็ทั่ว ๆ ไปเหมือนที่คนอื่นเขารู้กัน
ที่จริงแล้วไม่ใช่เลยนะคะ อาจมีรายละเอียดบางอย่างที่เราไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็ได้หรือรู้แบบไม่ถูกต้อง ความไม่รู้นี่เองที่จะทำให้เราเสียโอกาสและบางครั้งต้องเสียเปรียบบริษัทประกันด้วย วันนี้เราจะพามารู้กันค่ะ ว่าเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับประภัยรถยนต์นั้นมีอะไรกันบ้าง
รถพังยับเยินเคลมได้ทั้งคัน
หากความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ของเราเป็นความเสียหายใหญ่ที่ไม่อาจซ่อมแซมให้รถยนต์กลับมาอยู่ในสภาพที่ใช้การได้ เช่น อุบัติเหตุพลิกคว่ำตกเหว ไฟไหม้รถยนต์ ฯลฯ หรือค่าซ่อมแซมสูงมาก บริษัทประกันอาจรับผิดชอบโดยจ่ายให้เต็มตามวงเงินประกันที่ทำไว้ เมื่อเราได้รับเงินแล้วก็จะทำการโอนรถหรือซากรถนั้นให้เป็นทรัพย์สินของบริษัทประกันไปและกรมธรรม์ประกันรถยนต์ก็เป็นอันสิ้นสุดลง
ประกันมีผลทันทีเมื่อชำระค่าเบี้ย
กรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์จะมีผลทันทีที่ผู้เอาประกันชำระค่าเบี้ยให้กับบริษัทประกัน แม้แต่การซื้อประกันผ่านโบรคเกอร์หรือนายหน้าก็เช่นเดียวกัน ใบเสร็จรับเงินค่าเบี้ยประกันเป็นหลักฐานสำคัญที่จะใช้กรณีที่ยังไม่ได้รับกรมธรรม์
ไม่มีคู่กรณี จ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท
หากต้องการเคลมสินไหมความเสียหายของรถยนต์ที่เกิดในกรณีไม่มีคู่กรณีจะต้องจ่ายค่าเสียหายส่วนแรก 1,000 บาท เช่น ชนกำแพง ชนฟุตบาท ต้นไม้ล้มทับ เป็นต้น
ซื้ออะไหล่เองได้
กรณีที่ไม่มั่นใจว่าอู่ซ่อมจะใช้อะไหล่แท้ให้กับเราหรือไม่ เราสามารถเรียกร้องเงินเท่ากับราคาประเมินของอะไหล่เพื่อไปจัดหาอะไหล่แท้เองได้และนำมาให้กับอู่ซ่อม
ติดตั้งอุปกรณ์เพิ่ม ต้องแจ้งประกัน
หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ใด ๆ เพิ่มเติมในรถยนต์ เช่น เครื่องเสียง อุปกรณ์ระบบก๊าซ NGV หรือ LPG ผู้เอาประกันจะต้องแจ้งให้กับบริษัทประกันทราบ เพื่อที่จะให้ประกันเพิ่มเติมความคุ้มครองความเสียหายต่ออุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติมเหล่านี้ด้วย หากไม่แจ้งเมื่อเกิดความเสียหายขึ้น บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดกับอุปกรณ์ที่ติดตั้งเพิ่มเติมเหล่านี้
ชนแล้วอย่าหนี
หากกรณีที่เราเป็นคนผิดขับชนผู้อื่นไม่ควรคิดหนีอย่างเด็ดขาด ควรแสดงความรับผิดชอบ ยิ่งหากมีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต ยิ่งต้องอยู่เพื่อช่วยเหลือ เมื่อเรื่องถึงศาลบางครั้งความมีน้ำใจของเราทำให้ศาลเห็นใจและเชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจ อาจทำให้ไม่ต้องรับโทษเป็นการลงอาญาไว้ก่อนก็ได้ แต่เมื่อไหร่ที่ชนแล้วหนี โทษถึงคุกแน่นอน
เช็คประวัติเคลมให้ดีหากถูกรถไม่มีประกันมาชน
หากมีการเคลมกรณีที่เกิดอุบัติเหตุชนกับรถที่ไม่ได้ทำประกันไว้ ต้องอย่าลืมโทรเช็คกับทางบริษัทอีกครั้งว่าบันทึกรายงานการเกิดเหตุไว้อย่างไร ต้องไม่บันทึกว่าเราเป็นคนผิด เพราะจะมีผลกับประวัติการขับขี่และค่าเบี้ยประกันปีต่อไปของเรา
ค่าลากรถไปอู่ซ่อม ประกันต้องจ่าย
บริษัทประกันมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบสำหรับค่าใช้จ่ายหากต้องลากรถไปยังอู่ซ่อมหรือต้องลากไปที่อื่นใด เช่น สถานีตำรวจรับผิดชอบตั้งแต่เกิดอุบัติเหตุจนถึงรถซ่อมเสร็จ โดยบริษัทประกันภัยรับผิดชอบเพียงไม่เกิน 20% ของค่าซ่อมเท่านั้น
เมาแล้วขับประกันไม่จ่าย
แน่นอนว่าหากอุบัติเหตุเกิดขึ้นเพราะผู้ขับขี่มีอาการมึนเมาสุรา หากมีการตรวจพบระดับแอลกอฮอล์ในเลือดตั้งแต่ 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ขึ้นไป บริษัทประกันจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น
ไม่แน่ใจว่าถูกหรือผิด อย่าเซ็นใบเคลม
ในขั้นตอนของการเคลมให้เจ้าหน้าที่เคลมของทั้งสองฝ่ายเป็นคนตกลงกันเท่านั้น หากเจ้าหน้าที่เคลมของเรายังเดินทางมาไม่ถึง เราไม่ควรตกลงหรือเซ็นเอกสารใด ๆ กับบริษัทประกันของคู่กรณีเด็ดขาด
ใช้รถลากจูงหากเกิดอุบัติเหตุประกันไม่จ่าย
หากใช้รถยนต์เพื่อลากจูงรถคันอื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุขึ้น บริษัทประกันจะไม่จ่ายความเสียหายที่เกิดกับรถยนต์ที่นำไปใช้ลากจูงนั้น เพราะถือว่าเป็นการใช้แบบผิดประเภท กรมธรรม์ไม่คุ้มครอง
เรียกร้องสินไหมขาดประโยชน์ได้
อันนี้เชื่อว่ามีคนรู้น้อย แต่หลัง ๆ ก็คงรู้มากขึ้นกันแล้ว คือ หากเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขึ้น แล้วเราเป็นฝ่ายถูก นอกจากบริษัทประกันของคู่กรณีจะต้องจ่ายค่าซ่อมรถให้กับบริษัทประกันของเราแล้วนั้น เรายังสามารถเรียกร้องสินไหมขาดประโยชน์จากการใช้งานรถยนต์ได้อีกด้วย โดยต้องไปยื่นติดต่อเองที่บริษัทประกันของคู่กรณี กรณีเราเป็นฝ่ายผิดคู่กรณีก็มีสิทธิ์เรียกร้องสินไหมขาดประโยชน์นี้จากบริษัทประกันของเราเช่นเดียวกัน
อ่านถึงตรงนี้ เชื่อว่าต้องมีบ้างหลายข้อที่เพิ่งจะรู้กัน บางอย่างก็คงจะ อืม! มีแบบนี้ด้วยหรืออย่าลืมว่าค่าเบี้ยประกันที่เราจ่ายไปแต่ละปีเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยนะคะ ก็จำเป็นที่เราจะต้องรู้เรื่องสำคัญของการประกันภัยรถยนต์ไว้ เพื่อที่ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น เราจะได้จัดการได้อย่างถูกต้องและเมื่อมีความรู้ก็จะไม่โดนใครเขาหลอก หรือถึงไม่ได้หลอกแต่เขาก็ไม่บอกเราค่ะ
ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://www.tqm.co.th/ความลับที่ประกันภัยไม่ยอมบอกคุณ