เรื่องราวของเศรษฐกิจปี 2558 ถือว่าเป็นปีที่ค่อนข้างชะลอตัว ซึ่งจากการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ได้มองว่าเศรษฐกิจของไทยในปี 2558 จะเป็นปีที่ดีขึ้น แต่ เนื่องจากปัญหาสงครามของทางฝั่งประเทศรัสเซีย และปัญหาเศรษฐกิจของประเทศจีนรวมถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายในประเทศไทย ทำให้ช่วงระหว่างไตรมาศที่ 2-3 เป็นช่วงที่เศรษฐกิจไทยค่อนข้างมีปัญหา การท่องเที่ยวชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด แต่หลังจากสิ้นปีนี้ไปแล้วในปี 2559 แนวโน้มของเศรษฐกิจไทยจะกลับมาดีอีกครั้งหนึ่ง โดยเฉพาะ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว ปิโตรเลียม และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเราจะเห็นได้ง่ายจากหลายภาคส่วนได้ออกมาประเมิน ค่า GDP ของปี 2559 ว่าสามารถจะโตได้ถึง 3.5-3.8 %
สำหรับดอกเบี้ยเงินกู้ของแต่ละธนาคารในปี 2559 นี้ มีแนวโน้มที่ดีขึ้นหากเรามองบโดยภาพรวมจากธนาคารพาณิชย์ โดยคิดจากผลประกอบการ 9 เดือนของปี 2558 โดยการระดมความคิดของฝ่ายบริหารจากสถาบันการเงินต่าง ๆ ได้ลงความเป็นว่า แนวโน้มในปี 2559 นี้เศรษฐกิจจะดีขึ้นระบบสินเชื่อของธนาคารพานิชจะมีโอกาสโตขึ้นจากเดิม เฉลี่ย 4-6 เปอร์เซ็นต์ โดยจำแนกให้เห็นเป็นรายธนาคารคือ ธนาคารกรุงเทพประมาณ 4-5 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารทหารไทยคาดการณ์เอาไว้คือ 6 เปอร์เซ็นต์ ธนาคารกสิกรไทยคาดการณ์เอาไว้คือ 6-7 เปอร์เซ็นต์ และธนาคารออมสินคาดเอาไว้ 4-6 เปอร์เซ็นต์ และภาคธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตมากขึ้นนั้นจะมีโอกาสในการกู้มากกว่ากลุ่มธุรกิจประเภทอื่น
นักวิเคราะห์เศรษฐกิจจากหลายสถาบันได้ออกมาพูดถึงแนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2559 นี้ประเทศไทยมีการฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 3.5 โดยการลงทุนนั้นจะเน้นไปที่อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเช่นเดิม การลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานรวมไปถึงการฟื้นตัวของการส่งออกที่ก่อนหน้านี้ต้องชะลอตัวเนื่องจากปัญหาทางเศรษฐกิจ ทุกอย่างจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงระยะไตรมาสที่ 4 ของปี 2559 ส่วนในภาคอุตสาหกรรมเครื่องยนต์นั้นจะมีแรงหนุนที่ดีขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนอย่างต่อ เนื่องจากรัฐบาลเป็นหลัก โดยเฉพาะโครสร้างพื้นฐานจะมีการอนุมัติช่วงปลายปี 2558 ที่ผ่านมา มีงบประมาณที่ 3 หมื่นล้านบาท และยังมีมาตรการเร่งรัดช่วยเหลือทางการเงินในธุรกิจ SMEs โดยให้สิทธิประโยชน์ในการลงทุนได้มากขึ้น ทั้งนี้ยังมีเรื่องอัตราดอกเบี้ยที่อาจจะกลับมาแข้งขึ้นอีกครั้งในปี 2559 นี้ โดยคาดการว่าน่าจะมีการปรับขึ้นดอกเบี้ย 2 ครั้งในปีหน้านี้ จะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นฟูได้อีกครั้งหนึ่ง ส่วนค่าเงินนั้นยังคงอ่อนอย่างต่อเนื่องสาเหตุจากราคาสินค้าอุปโภคและบริโภคที่ตกต่ำลง ทำให้มีราคาอยู่ที่ 36-37 บาท ต่อดอลล่าร์สหรัฐ
สำหรับสินเชื่อบัตรเครดิตในปี 2559 นั้น ดร.เบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการอาวุโส จากศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ TMB ได้วิเคราะห์เกี่ยวกับสินเชื่อบัตรเครดิตของปี 2559 ไว้ว่า จะมีแนวโน้มที่เติบโตขึ้นอย่างช้า ๆ แต่อาจจะมีมีการชะลอตัวบ้างจากต่างประเทศ เช่น จีน ที่กำลังประสบปัญหาเรื่องเศรษฐกิจในขณะนี้ แต่โดยหลักภาพรวมของบ้านเราถือว่าจะค่อย ๆ ดีขึ้นเรื่อย ๆ
และด้วยสภาพวะเศรษฐกิจประเทศไทยในปีที่ผ่านมานั้นทำให้มีคนไทยส่วนหนึ่ง เลือกใช้บริการสินเชื่อบัตรเครดิต และเกิดเป็นหนี้สินกันมากมาย เนื่องจากรายได้และรายจ่ายไม่สมดุลกัน ดังนั้นจึงเป็นสาเหตุของการเกิดหนี้ ซึ่งในปี 2559 ที่เศรษฐกิจกำลังเติบโตและก้าวหน้า หากมีผู้ที่เป็นหนี้อยู่จำนวนมากก็จะได้รับผลกระทบเรื่องของดอกเบี้ยเช่นกัน เพราะมันจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมหลายเท่า ดังนั้นหากมีการจัดการปัญหาหนี้บัตรเครดิตได้เร็วที่สุดจะเป็นสิ่งที่ดีสำหรับเจ้าของบัตร ซึ้งเราได้นำแนวทางมาแนะนำกันในบทความฉบับนี้
- หยุดจ่ายเงินขั้นต่ำ เป็นขั้นตอนแรกของการจัดการหนี้บัตรเครดิตแบบเร่งด่วน เนื่องจากการจ่ายขึ้นต่ำนั้นทำให้มียอดค้างชำระเหลือไว้ในบัตรสะสมอยู่ ทางธนาคารจะคิดดอกเบี้ยหลังจากที่เราเริ่มจ่ายเงินช้าเป็นรายวัน ทำให้เป็นสาเหตุของการมีหนี้เพิ่มขึ้นซึ่งดอกเบี้ยของบัตรเครดิตจะสูงกว่าสินเชื่อประเภทอื่น
- สำรวจหนี้ที่มีว่าแต่ละธนาคารมีหนี้อยู่เท่าไหร่ เพื่อทราบจำนวนเงินและวางแผนการชำระต่อไปได้
- จัดการกับหนี้ที่มีทั้งหมดซึ่งเราสามารถแบ่งออกมาได้หลายวิธี ดังนี้
– ใช้บริการสินเชื่อจากธนาคารปิดหนี้บัตรเครดิต ที่มีบริการรวบยอดบัตรเครดิตทั้งหมดเป็นยอดเดียว เพื่อง่ายแก่การชำระ จากนั้นค่อยทยอยจ่ายคืนกับธนาคารผู้ให้สินเชื่อนี้
– นำทรัพย์สินที่มีขายออกไปเพื่อนำเงินมาชำระหนี้ เช่น ที่ดิน รถ หรือบ้าน เป็นต้น เพื่อป้องกันเจ้าหนี้ทำเรื่องฟ้องยึดทรัพย์และนำทรัพย์สินนั้นไปขายทอดตลาด
– ขอเจรจากับทางธนาคารเพื่อรับทราบยอดรวมของหนี้ จากนั้นขอเจรจาลดดอกเบี้ยหรือขอจ่ายเฉพาะเงินต้น เพื่อให้การชำระง่ายขึ้น
– ปิดบัญชีบัตรเครดิตที่มีเพื่อเป็นการตัดปัญหาการก่อหนี้เพิ่มในอนาคต และทยอยจ่ายหนี้ที่ยังค้างอยู่
เป็นที่สรุปอย่างชัดเจนแล้วว่า ดอกเบี้ยปี 59 เศรษฐกิจของประเทศไทยนั้นจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้นจากเดิมมาก และเน้นหนักไปทางด้านอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นหลักเพราะมีสถานที่ท่องเที่ยวใหม่ ๆ เกิดขึ้นหลายแห่ง รองลงมาคืออสังหาริมทรัพย์ที่มีแนวโน้มว่าจะดีขึ้น ทำให้ดอกเบี้ยเงินกู้เกิดขึ้นในปีหน้านั้นมีโอกาสสูงขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้นสำหรับผู้ที่กำลังมีหนี้หรือกำลังประสบปัญหาทางการเงินอยู่ ควรคิดวิธีการเพื่อหาทางกำจัดหนี้นั้นออกไปให้เร็วที่สุดเพื่อแก้ปัญหาดอกเบี้ยสูงขึ้นจนไม่สามารถชำระได้