เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ผู้สูงอายุ คืออะไร คัดเลือกยังไง และเอกสารที่ต้องใช้
เมื่อถึงวัยเกษียณ สิ่งที่หลายคนใฝ่ฝันมาตลอดอาจจะไม่ใช่ภาพอย่างที่คิดเพราะตลอดชีวิตที่ทำงานมาอยู่ ๆ ต้องหยุดทำงาน ยิ่งไม่มีเงินก้อนหลังเกษียณก็ยิ่งไม่รู้ว่าจะไปทำอะไรดี รายได้ก็ไม่มีกลายเป็นความเครียดเข้ามาแทน แต่ด้วยสถานการณ์ปัจจุบันได้มีการออกมาตรการต่าง ๆ เกี่ยวกับ เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย สำหรับผู้สูงอายุ ซึ่งวันจะพาไปหาคำตอบ พร้อมเผยถึงคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ว่าจะผ่านการพิจารณาหรือไม่
เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ผู้สูงอายุ คืออะไร มีที่มาอย่างไร?
เริ่มต้นกันที่ความเป็นมาของโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยสำหรับผู้สูงอายุ ที่มีจุดเริ่มต้นมาจากกระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ หรือที่เราเรียกกันย่อ ๆ ว่า พม. ที่เล็งเห็นความสำคัญของคนสูงอายุ วัยเกษียณต่าง ๆ ให้มีเงินทุนในการนำไปประกอบอาชีพจึงได้เปิดโอกาสให้ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป สามารถกู้ยืมเงินผ่านกองทุนผู้สูงอายุโดยให้วงเงินไม่เกิน 30,000 บาทต่อราย แต่ถ้าหากมีการรวมกลุ่ม และยื่นกู้เป็นรายกลุ่มจะได้วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท
โดยมีข้อกำหนดของผู้ร่วมกู้ไม่น้อยกว่า 5 คน และต้องชำระคืนเป็นรายงวดไม่เกิน 3 ปีโดยปราศจากดอกเบี้ยเพื่อให้ผู้สูงอายุได้นำเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยดังกล่าวมาเป็นทุน หรือเงินหมุนเวียนในการประกอบธุรกิจ รวมถึงหมุนเวียนสภาพคล่องในการใช้จ่ายให้ผู้สูงอายุ หรือนำไปทดแทนหนี้นอกระบบนั่นเอง
หลักเกณฑ์ที่นิยมใช้ในการคัดเลือก
ต่อมาจะขอพูดถึงหลักเกณฑ์สำหรับผู้ที่อยากเข้าร่วมโครงการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ผู้สูงอายุในปี 2023 ว่ามีหลักเกณฑ์ และคุณสมบัติกำหนดเรื่องอะไรบ้าง
ผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ
- ต้องเป็นผู้ที่มีอายุ 60 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป
- ประสบปัญหา และมีความจำเป็นการขอรับการสนับสนุนเงินกู้ยืมเพื่อนำไปประกอบอาชีพ
- มีความสามารถในการประกอบอาชีพ
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนวิกลจริตหรือจิตฟั่นเฟือนไม่สมประกอบ
- มีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงประกอบอาชีพได้
- มีปัจจัยในการสนับสนุนการประกอบอาชีพ
- ไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ
- มีสถานที่ประกอบอาชีพอยู่จังหวัดเดียวกันกับที่ยื่นขอกู้ยืม
- คู่สมรส หรือบุคคลที่อยู่กินฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรส
ผู้ค้ำประกัน
- ต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่เกิน 59 ปีบริบูรณ์
- เป็นผู้ที่มีรายได้ หรือเงินเดือนประจำ
- มีภูมิลำเนาตามทะเบียนราษฎร์อยู่จังหวัดเดียวกันกับผู้กู้ยืม
- ไม่อยู่ระหว่างเป็นผู้กู้ยืม หรืออยู่ระหว่างเป็นผู้ค้ำประกันให้บุคคลอื่นที่ขอกู้ยืม
- ไม่เป็นคู่สมรส หรือบุคคลที่อยู่กินฉันสามีภริยาโดยมิได้จดทะเบียนสมรสต้องไม่เป็นผู้ค้างชำระเงินกองทุนผู้สูงอายุ
เอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นกู้
ต่อมาจะเป็นขั้นตอนของการเตรียมเอกสารเพื่อใช้ในการกู้ปลอดดอกเบี้ย ผู้สูงอายุซึ่งจะประกอบไปด้วยเอกสารทั้งหมด ดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน (ID Card) ทั้งผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ และผู้ค้ำประกัน
- ทะเบียนบ้าน (House Registation) ทั้งผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพ และผู้ค้ำประกัน
- หนังสือรับรองเงินเดือนผู้ค้ำประกัน
- ใบสำคัญสมรส หรือใบรับรองหารหย่า ใบเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
- ใบมรณะบัตรกรณีคู่สมรสเสียชีวิต (ถ้ามี)
- ใบเปลี่ยนชื่อ สกุล (ถ้ามี)
- กรณีที่ผู้กู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพมีอายุ 80 ปีขึ้นไปควรมีใบรับรองแพทย์ และรูปถ่ายเต็มตัวขณะประกอบอาชีพ
ช่องทางการกู้เงิน ผู้สูงอายุ
ทิ้งท้ายด้วยช่องทางการขอเงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ผู้สูงอายุซึ่งในปัจจุบันสามารถทำได้ง่าย และสะดวกมากขึ้นผ่านระบบออนไลน์ (Online System) ผ่านเว็บไซต์กองทุนผู้สูงอายุ olderfund.dop.go.th หรือจะโทรสอบถามเพิ่มเติมเพื่อขอข้อมูล หรือสอบถามได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2354 6100 หรือกองทุนผู้สูงอายุ (กรมกิจการผู้สูงอายุ) กรุงเทพมหานคร ส่วนต่างจังหวัดสามารถไปติดต่อได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด
ยื่นกู้ได้ง่ายเพียง 5 ขั้นตอน
- ลงทะเบียนยื่นคำร้องผ่านช่องทางต่าง ๆ ของเว็บไซต์ หรือโทรสอบถามเพิ่มเติม รวมถึงติดต่อที่กรุงเทพมหานคร หรือที่สำนักงานพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ทุกจังหวัด
- ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยจะมีการจัดทำแผนที่เยี่ยมบ้าน ติดต่อนัดหมายผู้กู้ยืม และลงพื้นที่เยี่ยมบ้านเพื่อสอบข้อเท็จจริงต่าง ๆ
- เสนอที่ประชุมในการพิจารณา โดยวิเคราะห์ตามหลักเกณฑ์การพิจารณาให้คะแนนกู้ยืม และผู้ค้ำประกัน โดยจะทำการพิจารณาโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
- แจ้งผลการพิจารณา หลังจากพิจารณาตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูล จากนัดจะส่งข้อมูลเข้าส่วนกลาง จัดทำเล่มข้อมูล และพิจารณาเพื่อแจ้งผลการพิจารณาให้ผู้กู้ยืมทราบ
- นัดทำสัญญา และโอนเงินเข้าบัญชีของผู้กู้ โดยจะแจ้งให้ทราบผลว่าอนุมัติ หรือต้องมีการปรับปรุงส่วนใดเพิ่มเติมเพื่อทำการยื่นอีกครั้ง หรือไม่ผ่านการอนุมัติ
จึงจะเห็นได้ว่าทั้ง 5 ขั้นตอนการขอกู้ยืมเงินทุนเพื่อการประกอบอาชีพสำหรับผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณืขั้นไปนั้นทำได้ง่าย ๆ แค่ลงทะเบียน ยื่นคำร้องตามช่องทางต่าง ๆ ที่คุณสะดวก รอเจ้าหน้าที่ฯไปเยี่ยมบ้าน นำข้อมูลที่ได้เข้าที่ประชุม และแจ้งผลการพิจารณา หากอนมัติก็จะจัดทำสัญญา และโอนเงินเข้าบัญชี
อ่านมาถึงตรงนี้สำหรับใครที่เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีบริบูรณ์แล้วอยากมีเงินทุนไปประกอบอาชีพหลังเกษียณก็ลองตรวจสอบคุณสมบัติ เงื่อนไข และข้อกำหนดต่าง ๆ ของเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยของผู้สูงอายุ ว่าเข้าหลักเกณฑ์หรือไม่ หากเข้าก็อย่ารอช้า เตรียมเอกสารแล้วยื่นตามขั้นตอนรอพิจารณาผลได้เลย