ในยุคปัจจุบันใครๆก็ต้องการที่จะมีธุรกิจเป็นของตัวเองต่างคนต่างล้มลุกคุกคลานในการทำธุรกิจประเภทต่างๆแต่ใช่ว่าบนหนทางของการดำเนินธุรกิจนั้นก็ไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบบางคน ประสบความสำเร็จแต่สำหรับบางคนก็อยู่ในช่วงกำลังต่อสู้ให้ผ่านพ้นวิกฤตหรือแม้แต่คนจำนวนหนึ่ง ซึ่งก็ไม่น้อยที่พับโครงการธุรกิจไว้กลางคันเนื่องจากมันไม่สามารถเดินไปได้ต่อ แต่ใช่ว่าคนที่มีความฝันจะเป็นนักธุรกิจนั้นจะเป็นไปไม่ได้ ทุกอย่างสามารถเกิดขึ้นได้อาจจะต้องใช้ความพยายามช่วงจังหวะชีวิตและโอกาสมากหน่อยเท่านั้น หลายคนพลานคิดอิจฉาคนที่ประสบความสำเร็จว่าพวกเขาทำอย่างไร ดวงดี หรือเคล็ดลับใดที่ช่วยให้เขานั้นประสบความสำเร็จ หรืออาจจะเป็นเพราะโอกาสที่มีมากกว่านั้นใช่ไหม
วันนี้เรามีเรื่องราวเกี่ยวกับวิธีคิดและการลงทุนแบบเศรษฐีเงินล้าน นักธุรกิจตัวพ่อตัวแม่ พวกเขาใช้หลักคิดใดในการลงทุนวันนี้เรารวบรวมมาฝากกัน
ขยัน ล้มแล้วต้องลุก
บรรดานักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จส่วนใหญ่เจ้าของกิจการเกือบทุกท่านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าพื้นฐานของคนที่จะประสบความสำเร็จนั้นต้องขยันทำงานและมีความตั้งใจสูงที่จะทำงานของตนให้ดีดังนั้นก่อนจะเริ่มต้นลงทุนใดใดต้องมีความเชี่ยวชาญความเข้าใจในธุรกิจต่างๆ เป็นอย่างดี ไม่ใช่แค่พื้นฐานเท่านั้น เพราะนั่นจะทำให้เวลาที่เราลงทุนอะไร มองอะไรจะมีความรอบด้านมากกว่าคนอื่น สามารถมองไปถึงจุดที่สำคัญของแต่ละธุรกิจได้อย่างลึกซึ้งซึ่งเขาก็ให้ข้อสังเกตที่ว่าคนสมัยนี้มักจะข้ามขั้นไปลงทุนเลยโดยไม่มีการศึกษาพื้นฐานทางด้านธุรกิจนั้นทำให้การประสบความสำเร็จจากการลงทุนนั้น เกิดขึ้นได้ยากทางที่ดีควรจะตั้งใจทำงานของเราให้ดีซะก่อนเมื่อทำงานดีรายได้ก็มากขึ้นเข้าใจคำว่าธุรกิจมากขึ้นจากนั้นก็เก็บเงินแล้วจึงเริ่มการลงทุนในแง่มุมของการลงทุนก็คือเราต้องตั้งใจทำงานเก็บเงินหาความรู้เมื่อพร้อมค่อยเริ่มลงทุนโดยให้ความสำคัญกับทั้งสองอย่างอย่างเท่ากัน แม่การลงทุนอาจจะทำให้เรามีความมั่งคั่งในอนาคตแต่งานปัจจุบันก็เป็นแหล่งรายได้ที่เราจะต้องใช้ในการลงทุนเช่นเดียวกัน
อย่าเลือกทำงานที่เราคิดว่าเราไม่ถนัด
คนไทยหลายคนมักเชื่อว่างานอะไรก็สามารถทำได้ แม้ว่าบางครั้งเราจะรู้ว่างานบางอย่างบางชนิดเรานั้นสามารถทำได้แต่ไม่ได้หมายความว่าดีบางงานก็เป็นเรื่องของมืออาชีพเท่านั้น ยกตัวอย่าง อย่างง่ายๆ บางคนเก่งในเรื่องของการตลาด แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าตัวเรานั้นจะเก่ง ในด้านของการทำโฆษณา หรือแม้กระทั่งเรารู้ขั้นตอนการทำอาหารสูตรของอาหาร แต่ใช่ว่าเมื่อเราลงมือทำอาหารแล้วจะอร่อยเท่ากับเชฟ การทำงานบางอย่างเราจึงไม่ควรที่จะทำเอง ด้วยหลักคิดง่ายๆนั่นคือคนเราไม่สามารถที่จะรู้และเก่งได้ทุกอย่างบางงานเราจึงควรมีมืออาชีพมาเป็น ผู้ช่วยน่าจะเหมาะสมและประสบความสำเร็จได้มากกว่า ดังนั้นก่อนจะเลือกทำอาชีพอะไร ก็ควรเลือกอาชีพที่มีความถนัดอยู่แล้วจะดีกว่านะ แล้วคุณจะพบกับการประสบความสำเร็จอย่างคุ้มค่าที่สุดแน่นอน
สินค้าที่จะเป็นสุดยอดของธุรกิจคือสินค้าที่สามารถแก้ไขปัญหาของคนหมู่มากได้
ข้อสังเกตของนักธุรกิจใหญ่ใหญ่ที่ใช้ในการทำธุรกิจหรือสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาก็คือเริ่มต้นจากการแก้ปัญหาเล็กๆของผู้บริโภคหรือลูกค้า ถ้าเราสามารถหาบริการของเราที่ตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้จริงๆและเป็นวงกว้างมากพอก็จะทำให้ธุรกิจของเรานั้นสามารถขยายได้ใหญ่ขึ้นและรวดเร็วการเลือกธุรกิจก็ต้องมองถึงอนาคต ว่าธุรกิจแบบนี้จะอยู่ไปได้อีกยาวนานแค่ไหนเท่ากับว่าเราต้องประเมินความเป็นไปได้ของการลงทุนในเม็ดเงินที่เราทุ่มลงไปความคุ้มค่าและระยะเวลาที่เราจะสามารถคืนทุนได้รวมถึงกำไรด้วยลองแก้ปัญหาเล็กๆในน้อยของคนรอบข้างก็ได้
การลงทุนหรือการทำธุรกิจไม่จำเป็นต้องซับซ้อน
เจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จหลายคนบอกว่าการทำธุรกิจนั้นอย่าทำให้ซับซ้อนมากให้ทำธุรกิจแบบเรียบง่ายไม่ต้องคิดจนซับซ้อนมากจนเกินไปเช่นการซื้อของมาและขายของไปเกิดการได้กำไรนั่นก็เพียงพอแล้วที่ธุรกิจจะประสบความสำเร็จ เราเรียกว่าการจับจังหวะการลงทุนที่เราอาจจะไม่ต้องคิดมากจนเกินไปการลงทุนด้วยวิธีง่ายง่ายไม่ต้องซับซ้อนมากและทำให้เหมาะกับตัวเองโอกาสที่จะขาดทุนก็จะน้อยลงไปด้วย ที่สำคัญอย่าประมาทกับการลงทุนเป็นอันขาดเลยเชียว
นี่ก็เป็นข้อคิดที่น่าสนใจจากนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จจาก การลงทุนในธุรกิจต่างๆรวมถึงการลงทุนในหุ้นด้วยหลายคนเชื่อว่าพื้นฐานของความสำเร็จนั้นมาจากความขยันแต่มากกว่าความขยันคือการมองตลาดให้ขาดและโอกาสที่ผ่านมาที่นักลงทุนต้องไม่พลาดที่จะไขว่คว้า มาสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจของตัวเองได้ แต่สิ่งหนึ่งที่ นักธุรกิจหลายคนบอกคือการล้มแล้วต้องลุกเอาประสบการณ์ที่ได้จากการล้มมาพัฒนาสินค้าแนวความคิดในการทำธุรกิจของเราให้ดีขึ้นกว่าเดิมเรียกว่ากว่าจะประสบความสำเร็จนั้นอาจจะต้องฝ่าฟันอุปสรรคและความท้อ ให้ผ่านไปจงได้ ถึงจะเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านธุรกิจ