ประกันโรคร้ายแรง จำเป็นไหม ถ้าเราสุขภาพดี ควรพิจารณาอะไรบ้าง
ในยุคที่เราให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น การออกกำลังกาย ทานอาหารที่ดีต่อร่างกาย และพักผ่อนให้เพียงพอ เป็นเรื่องที่เราใส่ใจมากขึ้น แต่ถึงแม้ว่าเราจะดูแลตัวเองดีแค่ไหน โรคร้ายแรงก็ยังเป็นสิ่งที่ไม่มีใครรับประกันได้ว่าจะไม่เกิดขึ้นกับเรา แล้วประกันโรคร้ายแรง จำเป็นไหม ถ้าเราสุขภาพดี ? วันนี้เรามาหาคำตอบกัน
ประกันโรคร้ายแรง คืออะไร
ประกันโรคร้ายแรง เป็นประกันสุขภาพรูปแบบหนึ่งที่ให้ความคุ้มครองกรณีผู้เอาประกันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรงตามที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ โดยทั่วไปมีลักษณะสำคัญ ดังนี้
- คุ้มครองโรคร้ายแรง เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย ฯลฯ
- จ่ายเงินก้อน เมื่อผู้เอาประกันได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคร้ายแรง บริษัทประกันจะจ่ายเงินก้อนตามที่ระบุในกรมธรรม์
- นำเงินไปใช้ได้อย่างอิสระ ผู้เอาประกันสามารถนำเงินไปใช้ในการรักษาพยาบาล ชดเชยรายได้ที่สูญเสีย หรือใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
- เบี้ยประกันขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ เพศ สุขภาพ วงเงินคุ้มครอง และจำนวนโรคที่คุ้มครอง
- ระยะเวลารอคอย มักมีระยะเวลาที่ต้องรอหลังจากทำประกันก่อนที่จะได้รับความคุ้มครอง
ประกันโรคร้ายแรงช่วยลดภาระทางการเงินของผู้ป่วยและครอบครัว ทำให้สามารถมุ่งเน้นไปที่การรักษาและฟื้นฟูสุขภาพได้อย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องกังวลมากนักเรื่องค่าใช้จ่าย
ประกันโรคร้ายแรง จำเป็นไหม ถ้าเราสุขภาพดี
- สุขภาพดี ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เป็นโรคร้ายแรง
เราอาจคิดว่าการที่เราออกกำลังกายสม่ำเสมอ กินอาหารครบ 5 หมู่ และนอนหลับพักผ่อนเพียงพอ จะทำให้เราปลอดภัยจากโรคร้ายแรงต่างๆ แต่ความจริงแล้ว โรคร้ายแรงหลายโรค โดยเฉพาะโรคมะเร็ง ไม่ได้เลือกเฉพาะคนที่สุขภาพไม่ดี
ตามสถิติของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ในปี 2565 พบว่า คนไทยป่วยเป็นโรคมะเร็งรายใหม่ประมาณ 190,000 คน และเสียชีวิตประมาณ 130,000 คน ซึ่งไม่ใช่ทุกคนที่จะมีประวัติสุขภาพไม่ดีมาก่อน บางคนอาจแข็งแรง กินดีอยู่ดี แต่ก็ยังเป็นโรคร้ายแรงได้
- โรคร้ายแรงไม่ได้มีแค่มะเร็ง
เมื่อพูดถึงโรคร้ายแรง หลายคนอาจนึกถึงแค่โรคมะเร็ง แต่จริงๆ แล้ว โรคร้ายแรงมีหลายชนิด ตามข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) โรคร้ายแรงที่ประกันส่วนใหญ่คุ้มครอง มีมากกว่า 30 โรค ไม่ใช่แค่มะเร็ง แต่ยังรวมถึง โรคหัวใจ เช่น กล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน โรคหลอดเลือดสมอง หรือโรคสโตรก และโรคไตวายเรื้อรัง
- สวัสดิการรัฐ ดีแต่ไม่พอ
หลายคนอาจคิดว่ามีสิทธิประกันสังคม หรือสิทธิข้าราชการ ก็น่าจะพอแล้ว แต่ลองมาดูข้อจำกัดของสิทธิเหล่านี้
-
- ประกันสังคม คุ้มครองโรคมะเร็งเพียง 20 ชนิด โรคนอกเหนือจากนี้จ่ายไม่เกิน 50,000 บาทต่อปี ซึ่งอาจไม่พอ
- สิทธิข้าราชการ ถ้าเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน อาจต้องสำรองจ่ายก่อน และเบิกคืนได้เพียงบางส่วน
ข้อควรพิจารณาก่อนตัดสินใจทำประกันโรคร้ายแรง
- การประเมินสวัสดิการ
ก่อนซื้อประกัน ควรตรวจสอบสวัสดิการที่มีอยู่ เช่น ค่ารักษาพยาบาลจากบริษัท ประกันสังคม หรือประกันสุขภาพส่วนตัว ดูว่าครอบคลุมโรคร้ายแรงหรือไม่ มีวงเงินและระยะเวลาคุ้มครองเท่าไหร่ เพราะการรักษาโรคร้ายแรงมักใช้เวลานาน บางครั้งสวัสดิการจากบริษัทอาจดูดี แต่อาจสิ้นสุดลงหากต้องหยุดงานเป็นเวลานาน
ประกันสังคมมาตรา 33 และ 39 คุ้มครองโรคมะเร็ง 20 ชนิด โดยไม่จำกัดค่าใช้จ่ายหรือจำนวนครั้งในการรักษา แต่หากเป็นโรคมะเร็งนอกเหนือจากนี้ จะจ่ายไม่เกิน 50,000 บาทต่อปี ซึ่งอาจไม่เพียงพอ
สำหรับประกันสุขภาพตามมาตรฐานใหม่ (New Health Standard) บริษัทประกันไม่สามารถยกเลิกสัญญา แต่อาจปรับเพิ่มเบี้ยประกันหากมีอัตราการเคลมสูง หรืออาจให้ต่อสัญญาแบบร่วมจ่าย (Copayment) โดยสำนักงาน คปภ. กำหนดให้ร่วมจ่ายได้ไม่เกิน 30% และหากเคลมมากกว่า 2 กรณี อาจปรับเป็น 50%
- การประเมินวงเงินรักษา
ค่ารักษาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล วิธีการรักษา และยาที่ใช้ ซึ่งควรศึกษาข้อมูลให้ละเอียด การมีข้อมูลล่วงหน้าจะช่วยประหยัดเวลาได้มาก
ค่ารักษาที่เพิ่มขึ้นทุกปี ทำให้วงเงินสวัสดิการที่คงที่อาจไม่เพียงพอ การซื้อประกันชีวิตจะช่วยขยายวงเงินให้ครอบคลุมมากขึ้น และสามารถอัพเดทค่าใช้จ่ายได้ทุกปี ตัวอย่างเช่น ค่าฉายรังสีมะเร็งต่อมน้ำเหลืองที่โรงพยาบาลรัฐประมาณ 110,000 บาท แต่ที่โรงพยาบาลเอกชนอาจสูงกว่า 3-7 เท่า
- ขอบเขตความคุ้มครอง
ประกันสุขภาพทั่วไป ครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการรักษาโรคและอุบัติเหตุ รวมถึงโรคมะเร็ง จ่ายตามจริงแต่ไม่เกินวงเงินที่ซื้อไว้ มีระยะเวลารอคอย 30 วันสำหรับโรคทั่วไป และ 120 วันสำหรับโรคที่ต้องใช้เวลานานในการแสดงอาการ เช่น มะเร็ง
ประกันโรคมะเร็งและโรคร้ายแรงแบบเจอ จ่าย จบ จ่ายผลประโยชน์เมื่อตรวจพบโรค บางกรมธรรม์คุ้มครองทุกระยะ บางกรมธรรม์คุ้มครองเฉพาะระยะลุกลาม หลังจ่ายผลประโยชน์แล้วสัญญาจะสิ้นสุด
ประกันโรคร้ายแรง จำเป็นไหม ถ้าเราสุขภาพดี คำตอบคือจำเป็น เพราะการตัดสินใจเลือกซื้อประกันโรคร้ายแรงเป็นเสมือนการลงทุนในอนาคตที่ไม่แน่นอน เปรียบเสมือนการสร้างเกราะป้องกันทางการเงินให้กับตัวเองและครอบครัว เมื่อเผชิญกับมรสุมแห่งโรคภัย อย่างไรก็ตาม การเลือกกรมธรรม์ที่เหมาะสมไม่ใช่เรื่องง่าย จำเป็นต้องพิจารณาหลายแง่มุมอย่างถี่ถ้วน เพื่อให้แน่ใจว่าเงินที่จ่ายเป็นเบี้ยประกันนั้นคุ้มค่า และสามารถเป็นที่พึ่งได้ยามจำเป็น