ในสมัยสัก 20 ปีที่แล้ว เศรษฐีและเถ้าแก่ไม่ได้เรียนสูง อย่างมากก็จบ ป.4 ใบปริญญาอะไรนั่นไม่รู้จักหรอก แต่ถ้าเป็นเรื่องการค้า การช่าง โรงงาน รับเหมา ไม่ต้องกลัวใคร ด้วยประสบการณ์ที่เข้มข้น สร้างเนื้อ สร้างตัวจนกลายเป็นเศรษฐี ด้วยการเรียนรู้และลงมือปฏิบัติเองทั้งนั้น ต่างกับสมัยนี้ที่เด็กๆมักจะเกี่ยงงานหนัก อ้างแต่ทฤษฎี วิชาการ สุดท้ายก็ต้องไปทำงานเป็นลูกน้องให้กับพวกเถ้าแก่ที่จบแค่ ป.4 อยู่ดี จึงมีคำถามมากมายเกี่ยวกับระบบการศึกษาว่า เราเรียนเพื่อไปเป็นนายหรือไปเป็นทาสกันแน่ ยิ่งไปกว่านั้นในยุคที่ปริญญาตรีเกลื่อนเมืองในตอนนี้ กลับมีบุคคลรวยระดับโลกหลายๆคน ที่ไม่ได้เรียนจบขั้นปริญญา จนกลายเป็นกระแสที่เด็กยุคใหม่หันหลังให้ใบปริญญา ออกมาลุยทำความฝันของตัวเองตั้งแต่อายุยังน้อย ตัวอย่างบุคคลที่รวยได้โดยไม่ง้อใบปริญญา เช่น
- บิล เกตส์ ผู้ก่อตั้งบริษัมไมโครซอฟท์ ที่เขียนโปรแกรมวินเดอร์ให้ผู้คนทั่วโลกใช้กัน มีทรัพย์สินมากว่าพันล้าน ลาออกจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในวัยเพียง 19 ปี บิลเกตส์ชอบพูดเสมอว่า เขาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในกลุ่มคนที่ล้มเหลว(จากการเรียนไม่จบ) แต่ในท้ายที่สุด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดก็ได้มอบปริญญากิตติมศักดิ์ให้เขาเป็นกรณีพิเศษ
- สตีฟ จ๊อปส์ เจ้าของ Apple แบรนด์สมาร์ทโฟนอันโด่ง ร่ำรวยมาก พักการเรียนเมื่ออายุ 16 ปี
- มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก เจ้าของ Facebook มีทรัพย์เป็นหมื่นๆล้าน พักการเรียน ตอนอายุ 19 ปี แล้วหันมาทำในสิ่งที่ตนเองรักและหลงใหล จนกลายเป็นบุคคลที่ร่ำรวยและถือว่าเป็นผู้เปลี่ยนโลกของการติดต่อสื่อสารในระดับรากหญ้าเลยก็ว่าได้ เห็นได้จากการที่คนไทยตอนนี้ติดเฟสกันงอมแงม
- ริชาร์ด แบรนสัน เจ้าของแบรนด์ Virgin มีทรัพย์สินราวสี่พันล้านเหรียญ พักการเรียนออกมาเมื่อตอนอายุ 16 ปี
นอกจากนี้ยังมีบุคคลระดับโลกในวงการอื่นๆอีกมากมายที่ประสบความสำเร็จ ร่ำรวยโดยไม่จบปริญญา เช่น ไทเกอร์ วู๊ด นักกอล์ฟที่เป็นอันดับหนึ่งของโลก ลงแข่งแต่ละครั้ง คว้าเงินรางวัลทีเป็นหลักล้าน เลดี้ กาก้า ราชินีเพลงป๊อปแดนซ์และเจ้าแม่แฟชั่นหลุดโลก พักการเรียนตอนชั้นปีที่ 2 คนเชื้อสายเอเชียอย่าง Jerry Yang เจ้าของ Yahoo ก็ประสบความสำเร็จโดยไม่สนใบปริญญาเช่นกัน ผู้กำกับระดับรางวัลออสการ์ อย่าง เจมส์ คาเมรอน ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบความสำเร็จโดยไม่มีใบปริญญาเป็นทางผ่านเช่นกัน
คนไทยที่อยู่ในกลุ่มนี้ก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะคนมีชื่อเสียงในวงการกีฬาอาชีพ ที่ตอนนี้ทำรายได้กันมหาศาล ไม่ว่าจะเป็น เมย์ รัชนก นักแบดมินตัน เมย์ อารียา นักกอล์ฟ เจ ชนาธิป นักฟุตบอล ที่กำลังฮอตสุดขีดอยู่ในขณะนี้ บางครั้งที่เขาเหล่านี้ไม่เรียน ไม่ใช่เพราะว่าขี้เกียจ หรือสติ ปัญญาบกพร่อง แต่พวกเขามีปัญญาความสามารถมากกว่าที่เรียน โอกาสในการกลับเข้ามาเรียนเพื่อให้จบหลักสูตรนั้นมีอยู่เสมอ แต่โอกาสทางธุรกิจและการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา นักแสดง บางทีอาจไม่หวนคืนมาเป็นครั้งที่สองก็ได้
ปรากฏการณ์ของเศรษฐีที่หันหลังให้กับใบปริญญา ทำให้เกิดค่านิยมในการไม่เรียนมหาวิทยาลัย มีการตั้งคำถามว่า การไปเรียนมหาวิทยาลัยตั้งสี่ปี มีคุณค่าเพียงพอกับการเสียเวลาและคุ้มกับการลงทุนไปเรียนหรือไม่ และถ้าการมีใบปริญญาจำเป็นจริง ทำไมมีคนอีกมากมายที่ไม่ต้องเรียนจบปริญญาก็ยังประสบความสำเร็จได้ และบางคนยังประสบความสำเร็จมากว่าคนจบปริญญาด้วยซ้ำ
ในอีกมุมหนึ่งก็มีการแย้งว่า เรื่องราวของคนที่ประสบความสำเร็จโดยง้อปริญญา มักถูกตัดตอนมาเล่า ซ้ำๆและอ้างถึงบุคคลเดิมๆ อย่าง มาร์ด ซัคเคอร์เบิร์ก บิล เกตส์ สตีฟ จ๊อปส์ แต่ถ้าวัดกันที่จำนวนคนที่ประสบความเร็จโดยเฉลี่ยทั้งหมด จะพบว่า คนที่ร่ำเรียนจบปริญญาจะประสบความสำเร็จมากกว่า