เทคนิคในการหางานและเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์

สำหรับน้อง ๆ นักศึกษาจบใหม่หรือใครที่กำลังมองหางานกันอยู่ในตอนนี้ วันนี้มีเทคนิคในการหางาน และการเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์งานมาฝาก ไปดูกันค่ะว่าจะมีอะไรบ้าง

• ก่อนอื่นเลยสำหรับใครที่ยังไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นเหมาะที่ทำอาชีพใด เหมาะกับงานประเภทไหน เหมาะกับสายงานด้านไหน เรามีตัวช่วยที่เป็นเช็คลิสต์ให้กับคุณได้ลองถามตัวเองกันก่อนที่จะเริ่มหางาน

1. คุณมีไลฟ์สไตล์ประเภทใด ว่าตอนที่คุณเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยนั้นคุณชอบแนววิชาการ ชอบแนวบันเทิง ชอบทำงานกิจกรรม หรือชอบไปค้นคว้าหาข้อมูลในห้องสมุดที่มหาวิทยาลัย ซึ่งสิ่งต่าง ๆ ที่เหล่าทำเหล่านี้จะเป็นตัวชี้วัดได้ว่าเรามีบุคลิกภาพประเภทใด เพื่อเป็นแนวทางในการหางานลำดับต่อไป
2. คุณมีทักษะด้านใด เพราะว่าแต่ละคนมีทักษะที่แตกต่างกันไป โดยสังเกตได้จากตอนที่เรียนอยู่ บางคนชอบแนวเลข บางคนชอบถนัดแนวศิลป์ บางคนมาสายบันเทิง หรือบางคนก็กล้าพูดหน้าห้องเรียน เพราะการเลือกทำงานเพื่อตอบโจทย์และส่งเสริมทักษะเด่นของคุณจะช่วยให้คุณทำงานนั้น ๆ ได้ออกมาดี รวมไปถึงความก้าวหน้าในหน้าที่การงานอีกด้วย
3. คุณรักในงานแบบใด อันนี้จะเป็นคำถามที่ยากอยู่สักหน่อย เพราะว่ามีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ทราบว่าตัวเองรักงานประเภทใด แต่สำหรับใครที่หาตัวเองเจอแล้ว รู้แล้วว่าตัวเองรักที่จะทำงานแบบไหน แนะนำให้เรียนและศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติม เพื่อเสริมความรู้ในด้านนั้น ๆ เป็นการฝึกฝนทักษะที่จะส่งเสริมให้คุณทำในสิ่งที่รักออกมาได้ดี จนสามารถนำสิ่งเหล่านั้นไปประกอบวิชาชีพได้ในอนาคต ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายคนใฝ่ฝัน
4. คุณไม่ชอบทำอะไร คำถามนี้อาจจะดูแปลก ๆ แต่เชื่อเถอะว่าเป็นคำถามที่สำคัญอย่างยิ่งเวลาคุณต้องไปทำงานในสิ่งที่คุณไม่ชอบ ขอยกตัวอย่างประกอบให้เห็นภาพที่ชัดเจน เช่น ไม่ชอบการขายของ แต่กลับต้องไปทำงานเป็นคนขายประกัน เช่นนี้เป็นต้น ดังนั้นหากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงเสียแต่เนิ่น ๆ จะได้ไม่เป็นการลำบากหรือฝืนใจต่อการทำงานในอนาคต

• หลังจากที่ทำแบบสอบถามข้างบนเสร็จแล้ว ทีนี้คุณก็คงพอจะทราบแนวทางในการเลือกทำงานเป็นข้อมูลเบื้องต้นแล้ว ทีนี้มาดูกันว่า แล้วเราจะสมัครงานได้จากช่องทางไหนบ้าง

1. หางานจากอินเตอร์เน็ต อันนี้เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าสมัยนี้การหางานในอินเตอร์เน็ตนั้นสะดวกและตอบโจทย์ต่อไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่อย่างมาก ซึ่งรวมถึงนายจ้างด้วยเช่นกัน ดังนั้นเว็บไซต์สมัครงานสมัยนี้มีให้เลือกเยอะมาก แล้วแต่ความชอบ หรืออันดับยอดนิยมที่คนเลือกใช้กัน โดยสามารถใช้บริการได้โดยเลือกค้นหาแบบทั่วไป หรือค้นหาเจาะจง เฉพาะสายอาชีพ เฉพาะสถาบันหรือองค์กร เฉพาะพื้นที่ที่ทำงานก็ได้ รวมไปถึงสมัครเป็นสมาชิกแล้วลงประวัติส่วนตัวไว้ เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิง เผื่อว่ามีนายจ้างองค์กรไหนเห็นข้อมูลประวัติแล้วสนใจ สามารถติดต่อท่านโดยตรงได้อีกด้วย
2. หางานจากบริษัทนายหน้าจัดหางาน หรือที่เรียกกันว่า Head Hunter เว็บไซต์บริษัทส่วนใหญ่ที่ใช้บริการในการหาพนักงานใหม่จากบริษัทประเภทนี้เหล่านี้จะค่อนข้างเป็นบริษัทใหญ่หรือบริษัทที่อยู่ในเครือของต่างประเทศ ทำให้มีโอกาสอันดีที่จะได้ทำงานในองค์กรใหญ่ ๆ มีตำแหน่งหน้าที่และเงินเดือน สวัสดิการในระดับสูงขึ้นด้วย
3. หางานจากระบบเครือข่าย หรือจากคนรู้จัก ไม่ว่าจะเป็นญาติ พี่น้อง เพื่อนของเพื่อน คนรู้จัก ซึ่งตรงนี้มีทั้งข้อดีและข้อเสีย เพราะอาจได้งานเพราะมีคนฝากมาก็จริง แต่งานที่ได้ทำอาจเป็นงานที่ไม่ตรงกับสิ่งที่เรียนมา งานอาจไม่ใช่สิ่งที่ถนัด แล้วยิ่งหากทำงานที่ได้รับมอบหมายออกมาได้ไม่ดี ก็จะยิ่งวางตัวลำบาก เพราะอาจกระทบกระเทือนความสัมพันธ์ของผู้ที่ฝากงานไปด้วย
4. หางานจากบริการจัดหางานของภาครัฐ โดยตรงนี้ต้องไปขึ้นทะเบียนคนว่างงานกับสำนักงานจัดหางานแต่ละเขตที่ขึ้นกับกรมแรงงานเสียก่อน โดยเมื่อได้ทำการขึ้นทะเบียนไปแล้ว ข้อมูลเหล่านั้นก็จะได้รับการส่งต่อไปยังศูนย์รวมข้อมูลข่าวสารตลาดแรงงาน เพื่อให้บรรดานายจ้างของเขตนั้น ๆ ได้นำไปเป็นประวัติข้อมูลการจ้างพนักงานในโอกาสต่อไป

• หลังจากส่งประวัติข้อมูลไปยังหน่วยงานหรือเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่คุณได้เลือกแล้ว โดยประวัติข้อมูลของคุณได้รับความสนใจและติดต่อจากนายจ้างเพื่อเรียกตัวไปสัมภาษณ์ เรามาดูกันว่าขั้นตอนเตรียมตัวก่อนสัมภาษณ์นั้นมีอะไรบ้าง

1. อันดับแรกก่อนที่จะไปสัมภาษณ์ ควรเตรียมตัวให้พร้อม โดยนำเอกสารหลักฐานไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน รูปถ่าย เอกสารประวัติย่อ ใบปริญญาบัตร ประกาศนียบัตร หรือ ใบรับรองการทำงาน เป็นต้น แม้ว่าทางนายจ้างจะยังไม่ได้ขอก็ตามที แต่การที่เราเตรียมตัวไว้ก่อน แล้วหากเค้าขอดูเอกสารประกอบการสัมภาษณ์ จะเป็นความได้เปรียบในเรื่องการเตรียมพร้อมของคุณต่อผู้สัมภาษณ์
2. การตรงต่อเวลาและแต่งตัวอย่างสุภาพ ข้อนี้สำคัญยิ่งนัก เพราะการไปสัมภาษณ์คือการสร้างความประทับใจแรกระหว่างคุณกับผู้สัมภาษณ์ ซึ่งหากว่าคุณมาสาย หรือแต่งตัวไม่เรียบร้อยตั้งแต่วันแรกที่นัดสัมภาษณ์ นั่นย่อมส่งผลในแง่ลบกับคุณ และทำให้เสียโอกาสได้เปรียบกับผู้สมัครท่านอื่น
3. พฤติกรรมในเวลาสัมภาษณ์ ควรให้เกียรติต่อผู้สัมภาษณ์ ควรสำรวมและเคารพด้วยการไหว้ทุกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้สัมภาษณ์เป็นคนไทย ควรแสดงออกถึงอัธยาศัยอย่างเป็นมิตร พูดคุยถามตอบปัญหาอย่างมั่นใจ และสบสายตาผู้สัมภาษณ์ตลอดเวลาการสัมภาษณ์ เพื่อแสดงออกถึงความจริงใจ เปิดเผยข้อมูลเหล่านั้นอย่างตรงไปตรงมา ซึ่งส่งผลต่อบุคลิกภาพที่ดีของคุณ ซึ่งจะเป็นข้อได้เปรียบอย่างมาก หากผู้สัมภาษณ์ต้องนำประวัติของท่านไปเปรียบเทียบกับผู้สมัครท่านอื่น

ด้วยเทคนิคง่าย ๆ ที่กล่าวมาแล้วทั้งหมดข้างต้น หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับท่าน ทำให้ท่านได้รู้จักตัวเอง และค้นหางานที่ใช่สำหรับคุณ รวมไปถึงความได้เปรียบในการหางาน และการสัมภาษณ์งาน ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ