“ปีนี้คุณได้ขึ้นเงินเดือนนะ”
คิดว่ามนุษย์เงินเดือนคงอยากได้ยินประโยคนี้กันทุกคน เพราะถือเป็นของขวัญตอบแทนความตั้งใจทุ่มเท และความเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานตลอดปี ทั้งยังเป็นกำลังใจให้สามารถทำงานต่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ใครจะได้ เงินเดือนขึ้น มากน้อยแค่ไหน ก็มีปัจจัยหลายอย่างที่ต้องพิจารณา ไม่ว่าจะเรื่องคุณภาพของงานที่ออกมา พฤติกรรมในที่ทำงาน และที่สำคัญที่สุดก็คงต้องเป็นเรื่องภาวะเศรษฐกิจในปีนั้นๆ ที่ส่งผลต่อธุรกิจในบริษัทนั่นเอง
แต่ทราบไหมคะว่า ถึงแม้เมื่อปีที่แล้วที่ใครๆ ต่างก็โอดร้องกันว่าเศรษฐกิจไม่ดี ชะลอตัวอย่างรุนแรง แต่ก็มีหลายอุตสาหกรรมได้ตอบแทนความเหน็ดเหนื่อยให้กับพนักงาน ด้วยการขึ้นเงินเดือนเป็นของขวัญปลายปีอย่างเต็มที่เหมือนกัน ล่าสุดคุณพิชญ์พจี สายเชื้อ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิลลิส ทาวเวอร์ส วัทสัน (ประเทศไทย) จำกัด ได้เปิดเผยว่า บริษัทได้สำรวจอัตราเงินเดือนจากบริษัทคู่ค้าขนาดกลางและขนาดใหญ่เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2558 จำนวน 226 บริษัท ตามกลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไป ทั้งกลุ่มอุตสาหกรรมไฟฟ้า/พลังงาน กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์และไฮเทค กลุ่มบริหารสินทรัพย์ กลุ่มบริหารการเงิน และกลุ่มประกันชีวิต/ประกันภัย พบว่า บริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมเหล่านี้จะมีการปรับอัตราเงินเดือนให้ลูกจ้างเพิ่มสูงขึ้นจากปีก่อน ถึงแม้ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาเศรษฐกิจบ้านเราจะชะลอตัวก็ตาม เนื่องจากนายจ้างต้องการสร้างแรงจูงใจให้พนักงานอยู่กับบริษัทต่อไป เพราะตลาดแรงงานภายในประเทศมีจำนวนจำกัดนั่นเอง
แต่การปรับขึ้นเงินเดือนก็มีหลักการพิจารณาตามประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานแต่ละคนด้วย ไม่ใช่ว่าทุกคนจะได้รับเท่าเทียมกันหมด โดยภาพรวมจะมีการปรับเงินเดือนที่ระหว่าง 5-7% และจ่ายโบนัสเฉลี่ยที่ 2-4 เดือน ซึ่งสามารถลำดับการปรับขึ้นเงินเดือนตามอุตสาหกรรม ได้ดังนี้
- กลุ่มไฟฟ้า/พลังงานจะปรับขึ้น 7.0% โบนัส 4 เดือน
- กลุ่มประกันชีวิตและกลุ่มบริหารสินทรัพย์ปรับขึ้น 6% โบนัส 2.2 และ 4.4 เดือนตามลำดับ
- กลุ่มอุตสาหกรรมทั่วไปเงินเดือนปรับขึ้น 5.7% โบนัส 2.2 เดือน
- กลุ่มบริหารการเงิน 5.5% โบนัส 2.2 เดือน
- กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์ 5.3% โบนัส 1.7 เดือน
- กลุ่มอุตสาหกรรมไฮเทค 5% โบนัส 1.9 เดือน
- กลุ่มประกันภัย 5% และโบนัส 2.3 เดือน
ส่วนเงินเดือนเริ่มต้นอันดับสูงสุดสำหรับผู้ที่เพิ่งจบการศึกษาก็คือ ด้านวิศวกร เทคโนโลยีสารสนเทศ การเงินและบัญชี และซัพพลายเชน จะอยู่ในระหว่าง 15,000 -26,000 บาท สำหรับระดับปริญญาโทเงินเดือนจะอยู่ที่ 18,000 – 33,000 บาท และปริญญาเอก 27,200-51,200 บาทต่อเดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสายงานเป็นสำคัญ
จากการสำรวจยังพบว่า ปัจจัยที่ทำให้พนักงานทำงานอยู่ในบริษัทได้นานมีอยู่ด้วยกัน 3 ประการ คือ
- รายได้เหมาะสม
- งานมีความก้าวหน้า สามารถเลื่อนตำแหน่งหรือพัฒนาตัวเองได้
- หัวหน้างาน
และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการเข้า-ออกของพนักงานสูงสุด ได้แก่ กลุ่มประกันชีวิต (ร้อยละ 20) กลุ่มบริหารสินทรัพย์ (ร้อยละ 17) และกลุ่มไฮเทค (ร้อยละ 15) โดยอัตราการเข้า-ออกของพนักงานเฉลี่ยในทุกกลุ่มอุตสาหกรรมลดลงเหลือร้อยละ 14 จากร้อยละ 15 ในปี 2557 และมีค่าเฉลี่ยอายุงานของพนักงานประมาณ 1-5 ปี
ถือเป็นเรื่องดีๆ ของพนักงานในอุตสาหกรรมดังกล่าว ที่ได้ปรับ เงินเดือนขึ้น และรับโบนัสงามๆ เป็นของขวัญตอบแทนความสามารถทุ่มเท แต่สำหรับใครที่ไม่ได้เท่าก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะคุณก็เป็นฟันเฟืองหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรดำเนินธุรกิจอยู่ได้ และเป็นโอกาสดีที่วันนี้คุณยัง ‘มีงาน’ ดีๆ ให้ทำ
…ขอให้ตั้งใจ และทุ่มเททำงานสม่ำเสมอ แล้วสิ่งดีๆ จะเกิดขึ้นกับคุณอย่างแน่นอน
ที่มา