เราเชื่อว่า ใครหลาย ๆ ต้องการที่จะมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นจากความยากลำบาก ไม่ว่าจะต้องทำอย่างไร คุณก็ต้องทำให้ได้ เพื่อชีวิตที่สดใสในอนาคต ในวันนี้เรามีแนวทางการประกอบอาชีพ แล้วสามารถหลุดพ้นจากความยากลำบากได้ คุณสามารถเลือกอาชีพที่เหมาะกับตัวคุณจากด้านล่าง เพื่อสร้างรายได้ที่มากมาย ตามที่คุณต้องการ แล้วอาชีพที่ว่ามีอะไรบ้าง ลองดูรายละเอียดด้านล่างนี้เลยค่ะ
อาชีพที่ทำแล้วรวย มีดังต่อไปนี้
-
เป็นเจ้าของกิจการ
การเป็นเจ้าของกิจการ ก็คือการค้าขายที่คุณเห็นว่ามีราคาและเหมาะกับตัวคุณ แต่สำหรับสถิติว่าธุรกิจเปิดใหม่จะล้มหายตายจากไปในปีที่ 2 โดยประมาณ 70% และจะสามารถยื่นอยู่ได้เกิน 10 ปีเพียง 3 – 5% เท่านั้น แต่การเป็นเจ้าของกิจการก็ยังเป็นอาชีพที่มีความนิยมอย่างมาก เพราะว่าหากคุณสามารถประกอบกิจการต่อไปได้คุณจะได้รับผลกำไรมากมาย อย่างแน่นอน แล้วการเป็นเจ้าของกิจการจะทำเงินได้อย่างไร
สูตรคำนวณที่ใช้ในการอธิบายกำไรของเจ้าของธุรกิจก็คือ ยอดขาย – ต้นทุนคงที่ – ต้นทุนแปรผัน = กำไร
เพื่อให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เรายกตัวอย่างให้คุณเข้าใจมากขึ้น
ตัวอย่าง หากคุณประกอบกิจการหนึ่ง มียอดขาย 100,000 บาทต่อเดือน คุณมีต้นทุนคงที่อยู่ประมาณ 80,000 บาท ต้นทุนแปรผัน 20,000 บาท ดังนั้นหากเจ้าของกิจการต้องการกำไร จึงต้องผลักดันให้ยอดขายแต่ละเดือนมากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน หากกิจการดังกล่าวมียอดขายขั้นต่ำกว่า 100,000 บาทต่อเดือน นั่นเท่ากับว่ากิจการดังกล่าวขาดทุนทันที
ในกรณีที่คุณมียอดขาย 150,000 บาท มีต้นทุนเท่ากับ 80,000 บาทคงเดิม ต้นทุนแปรผันจะขึ้นมาเป็น 1.5 เท่าของเดิม ซึ่งเท่ากับ 30,000 บาทต่อเดือน นั่นเท่ากับว่าคุณจะมีกำไร 40,000 บาทต่อเดือน (150,000 – 110,000)
แต่ถ้าคุณมียอดขายสูงขึ้น อยู่ที่ 300,000 บาทต่อเดือน ต้นทุนคงที่คือ 80,000 บาทเท่าเดิม แต่ต้นทุนแปรผันเพิ่มเป็น 3 เท่าของต้นทุนเดิม ซึ่งก็เท่ากับ 60,000 บาทต่อเดือน คุณจะมีกำไรเป็น 160,000 บาทต่อเดือน (300,000 – 140,000)
หมายเหตุ : ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงตัวเลขสมมุติอย่างคร่าว ๆ เพื่อให้คุณเข้าในได้ง่าย ซึ่งในชีวิตจริงจะมีความซับซ้อนกว่านี้แต่ธุรกิจก็มีสัดส่วนของตัวเลขต้นทุนคงที่และต้นทุนแปรผันที่แตกต่างกันไปแต่ก็ทำให้คุณเข้าใจได้ง่ายว่า การเป็นเจ้าของธุรกิจนั้น รวยเร็ว และ จนเร็ว พอ ๆ กันขึ้นอยู่กับฝีมือ ความต้องการของตลาดและปัจจัยอื่น ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน หากคุณสามารถสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จแล้ว คุณจะสามารถเป็นคนร่ำรวยคนหนึ่งได้ในทันที
-
เป็นผู้บริหารระดับสูง
สมัยก่อน พวกเจ้าของกิจการมักจะพูดสอนลูกของพวกเขาว่า เวลาเรียนไม่ต้องเรียนสูงนัก พอให้จบปริญญาตรีแล้วทำการค้าจะร่ำรวยกว่า พวกที่เรียนสูง ๆ สุดท้ายก็ไปเป็นลูกน้อง รับจ้างบริหารให้พวกเจ้าของกิจการ โดยอาจจะได้รับเงินเดือน 80,000 บาทจนถึง 100,000 บาท แต่กลับไม่ทำให้ร่ำรวย แต่นั่นเป็นเพียงเมื่อก่อน หากในแต่ในปัจจุบันคุณสามารถสร้างผลงานจนได้รับความไว้วางใจจากเจ้าของกิจการ หรือผู้ถือหุ้น จนขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ของบริษัทแล้ว เขาจะสามารถทำรายได้ปีละ 5 – 10 ล้านบาทได้อย่างสบาย ๆ รายได้ขนาดนี้มาได้อย่างไร
บริษัทใหญ่ ๆ ระดับประเทศ การที่ผู้บริหารสูงสุดจะมีเงินต่อเดือนเท่ากับ 200,000 บาท ถึง 500,000 บาทนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกและยิ่งถ้าได้เป็นกรรมการบอร์ดของบริษัทในเครืออีกสัก 4 – 5 แห่ง คุณจะได้รับเบี้ยประชุมเพิ่มอีก แห่งละ 300,000 – 1,000,000 บาทต่อปี ก็มีให้เห็นอยู่มากมาย
ในบางบริษัทใช้วิธีตั้งโบนัสหรือส่วนแบ่งกำไรตามยอดขาย หากว่าคุณสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ ตั้งแต่ต้นปี ช่วงที่เศรษฐกิจกำลังรุ่งเรือง บริษัทใหญ่ต่าง ๆ สามารถสร้างสถิติยอดขายใหม่สูงสุดทำให้ผู้บริหารร่ำรวยไปตาม ๆ กัน หลายคนอาจจะได้รับโบนัสถึง 3 – 5 ล้านบาท โดยไม่คาดฝัน ซึ่งเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่คุณสามารถสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ ให้กับผู้บริหาร (ESOP / EMPLOYEESTOCK OPTIONPLAN) ที่กรรมการบริษัทมักจะลงมติมอบสิทธิในการซื้อหุ้นให้กับผู้บริหาร และพนักงานบริษัท เพื่อเป็นสิ่งจุงใจให้สร้างผลกำไรเพิ่มขึ้น ในกรณีที่คุณสามารถซื้อหุ้นได้ 10 ล้านหุ้น คุณลองนึกภาพดูว่า หากคุณสามารถผลักดันกำไร จนทำให้หุ้นวิ่งขึ้นไปเหนือราคาสุทธิ 5 – 6 บาทต่อหุ้น คุณจะมีกำไรคนละ 50 – 60 ล้านบาททีเดียว นักบริหารมืออาชีพจึงเป็นอีกอาชีพที่สามารถให้คุณมีเงินจนเป็นคนร่ำรวยได้
-
เป็นนักขายตรง
การขายตรง บางคนอาจจะคิดว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าทำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว การขายตรงเป็นอาชีพหนึ่งที่คุณสามารถได้รายได้ตอบแทนที่สูงหาคุณสามารถทำได้ตามเป้าหมายที่ได้กำหนดเอาไว้ การขายตรงก็มีหลากหลายอาชีพ อย่างเช่น การขายประกัน การขายเครื่องสำอางค์ หรือการขายของทั่วไป ซึ่งคุณจะได้ผลตอบแทนอยู่ที่ประมาณ 30% ต่อครั้งที่คุณสามารถขายได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายครั้งหรือเมื่อขายซ้ำ ยกเว้นงานขายประกันชีวิตที่คุณจะได้มากในช่วงปีแรก ส่วนผู้บริหารทีมงานจะได้ค่าบริหารงานประมาณ 30% ของค่านายหน้าของลูกทีม ซึ่งน่าจะตกอยู่ประมาณ 10% ของยอดขายสินค้ารวมกัน คุณลองนึกดูสิว่า หากทีมงานขายของคุณสามารถสร้างยอดขายได้ถึง 10 ล้านบาทต่อปี ผู้บริหารทีมงานอย่างคุณจะได้ผลตอบแทนเท่าไหร่ เราคำนวณให้คุณดูอย่างคร่าว ๆ คุณก็จะได้อยู่ประมาณ 300,000 บาทต่อปี ซึ่งถือว่าคุณได้รับมาเป็นจำนวนเงินไม่น้อยเลยทีเดียว
-
เป็นนักลงทุนที่ชาญฉลาด
คุณถึงเป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีอาชีพเป็นเพียงลูกจ้างเท่านั้น แต่คุณก็สามารถที่จะเป็นเศรษฐีได้ หากคุณสามารถบริหารจัดการเงินเก่ง รู้จัดช่องทางในการลงทุน และสามารถลงทุนได้อย่างชาญฉลาด สมมุติว่าคุณสามารถเก็บเงินได้เดือนละ 5,000 บาทตกปีละ 60,000 บาทคุณสามารถเก็บเงินได้ต่อเนื่องทุกปี จากนั้นนำเงินจำนวนนี้ไปลงทุนในกองทุนรวมชนิดต่าง ๆ หรือตราสารหนี้ คุณก็สามารถทำกำไรได้เฉลี่ยปีละ 15% เมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 20 ปี คุณก็จะมีเงินเพิ่มมากขึ้นถึง 180,000 บาท นั่นเท่ากับว่าคุณมีเงินรวมกับทั้งหมดเป็นเงิน 1,380,000 บาท (จำนวนเงินได้มาอย่างไร) มาดูการคำนวณอย่างง่าย ๆ กัน
วิธีคำนวณ
เงินลงทุน 60,000 บาท
ผลกำไรที่จะได้ในอัตรา 15% (60,000 x 1.5) 9,000 บาท
เมื่อผ่านไป 20 ปี คุณก็จะมีเงินได้เท่ากับ [(60,000+9,000) x 20]
เท่ากับว่าคุณจะมีเงินทั้งสิ้น 1,380,000 บาท
หมายเหตุ : ตัวเลขข้างต้นเป็นเพียงการสมมุติขึ้นมาเพื่อให้คุณศึกษาให้เข้าใจมากขึ้นเท่านั้น เราไม่ได้เอาข้อมูลมาจากทางธนาคารหรือตลอดหลักทรัพย์แต่อย่างไร เราต้องการจะให้คุณรู้เกี่ยวกับอาชีพที่เมื่อคุณทำแล้วอาจจะสามารถสร้างรายได้ให้คุณมากขึ้นกว่าการเป็นลูกจ้างเขาเพียงอย่างเดียว และที่สำคัญ อาชีพที่เรายกตัวอย่างมากนั่น ก็แสดงถึงความมีมานะ ขยันของคุณเอง ถึงจะสามารถประสบความสำเร็จได้ ไม่ว่าคุณต้องการมีเงินเท่าไหร่หรือเป็นคนร่ำรวยหรือไม่ หากคุณมีความขยันเชื่อได้เลยว่าคุณจะต้องประสบความสำเร็จอย่างที่คุณต้องการแน่นอนค่ะ
ขอบคุณข้อมูลส่วนหนึ่งจาก : http://www.thaifinancialadvisor.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538638145&Ntype=1