ความร่ำรวยใครๆก็ชอบ ความยากจนใครๆก็ชัง แล้วเคล็ดลับอะไรที่ทำให้คนธรรมดากลายเป็นคนรวย และเคล็ดลับอะไรที่ทำให้คนธรรมดา กลายเป็นคนจน เคล็ดลับนั้นก็คือความกลัว ความกลัวเป็นแรงขับให้คนเรามีพฤติกรรมทั้งด้านบวกและด้านลบต่อตนเอง ความกลัวในระดับสัญชาตญาณทำให้เรารู้จักหนีหรือถอยเพื่อเอาตัวรอด ยามเจอศัตรูหรือพวกสัตว์ป่า ความกลัวต่อโรคภัยทำให้เรากินอาหารที่ถูกสุขลักษณะ ความกลัวต่ออนาคตทำให้เราเป็นทุกข์และกังวลใจ จะเห็นว่า ความกลัวก่อได้ทั้งคุณและโทษ
ในด้านการเงิน ความกลัวส่งผลต่อฐานะทางการเงินของเราได้เช่นกัน มีคำกล่าวว่า คนจนกลัวเจ๊ง นั่นก็คือ ไม่ค่อยกล้าเสี่ยง เนื่องจากคนจนนั้นเงินน้อยอยู่แล้ว ถ้าจะเอาเงินนั้นไปทำอะไร ก็มักจะกลัวไม่ประสบความสำเร็จ กลัวจะโดนโกง ทำให้พลาดโอกาสดีๆไปก็เป็นได้ นอกจากนี้คนเงินน้อยมักจะชอบทำอะไรเดิมๆ อยู่กับที่ กลัวไม่ปลอดภัย กลัวการเปลี่ยนแปลง ความกลัวทั้งหลายเรานี้ก็จะหยุดคนจนไว้กับความจนหรือการมีเงินอยู่เท่าเดิม มีรายได้แบบเดิมๆนั่นเอง
อ่านเพิ่มเติม : ลาออกสิ ถ้าอยากรวย ?
คนรวยก็มีความกลัวเช่นกัน แต่เป็นความกลัวจน เพราะกลัวไม่มีเงิน เขาจึงขวนขวาย หาหนทางเพื่อให้มีเงินไหลเข้ามา ยอมเสี่ยงบ้างในบางโอกาสที่เห็นว่า การเสี่ยงนั้นคุ้มค่า มีโอกาสชนะมากกว่าแพ้ ในหนังสือ ลาออกซะ ถ้าอยากรวย ได้เขียนถึงคุณไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม เจ้าของบริษัทแกรมมี่ สรุปได้ว่า เขามีความฝันว่า ต้องรวยให้ได้ เห็นพ่อขายของชำมาเป็นสิบปี เปิดเช้าและปิดดึกกว่าร้านอื่น แต่ก็ไม่เห็นจะรวยสักที ด้วยความกลัวจน จึงดิ้นรนออกไปหาเงินเป็นลูกจ้างบริษัท สั่งสมประสบการณ์ ไต่เต้าจนได้รับตำแหน่งระดับสูงของบริษัท แต่เขาไม่หยุดอยู่แค่นั้น นำเงินที่สะสมได้ ราวห้าแสนบาท มาเปิดกิจการชื่อ บริษัทแกรมมี่ เอนเตอร์เทนเม้นท์ เขามีแนวคิดเกี่ยวกับการทำธุรกิจว่า ต้องไม่ทำอะไรที่เสี่ยงเกินตัว ธุรกิจโตช้า โตเร็วไม่เป็นไร แต่ห้ามล้มเหลว ธุรกิจใหม่ๆของเขา จะลงเงินเองไม่เกิน 40% ส่วนที่เหลือจะเป็นของหุ้นส่วนและพันธมิตรทางธุรกิจ เรื่องกู้เงินธนาคารมาลงทุน คุณไพบูลย์ไม่เห็นด้วย และไม่ชอบกู้เงิน ไม่ชอบเป็นหนี้ ขอทำเท่าที่ตัวเองมีเงินทุนก็พอ
เรื่องของคุณไพบูลย์ชี้ให้เห็นว่า ในตอนแรกเริ่มเงินมีน้อย เพราะกลัวจน จึงดิ้นรนหารายได้เพิ่ม พอธุรกิจเติบโตมีการขยับขยายกิจการ ก็ไม่ได้เร่งรัดขยายแบบใหญ่โตหรือสุ่มเสี่ยงเกินไป มีหลักคิดในการกระจายความเสี่ยงสู่หุ้นส่วนและพันธมิตร ไม่นิยมกู้เงินจากธนาคารมาขยายธุรกิจ พอเพียงกับสิ่งที่ตัวเองมี ผิดกับหลักการทำธุรกิจของคนทั่วไปที่ชอบกู้หนี้ยืมสินคนอื่นมาลงทุน เพราะไม่ต้องใช้เงินตัวเอง และสถาบันการเงินก็ยินดีให้กู้ เป็นเสือนอนกินดอกเบี้ยสบายๆ ซึ่งก็แล้วแต่แนวทางของแต่ละคน ขอแต่เพียงให้ธุรกิจอยู่รอดปลอดภัย เติบโต มีเงินกลับมาใช้หนี้ และเหลือมีที่เป็นกำไร ก็สามารถดำเนินการได้
เรื่องของความกลัว ยังไงก็ต้องมีไว้บ้าง ถ้าไม่กลัวอะไรเลย หรือไม่เผื่ออะไรไว้บ้าง เวลาผิดพลาดก็จะผิดหวังมากและเสียหายหนัก โดยเฉพาะเรื่องการเงิน การกลัวว่าเราจะไม่มีเงินเป็นแรงขับภายในให้เราขวนขวายหารายได้สะสมไว้ นับเป็นเรื่องที่ดี พอมีแล้วหรือหาเก็บมาได้แล้ว ก็ต้องมีความกลัวอีกชนิดหนึ่งคือ กลัวเจ๊ง กลัวขาดทุน ก็เพื่อจะได้ตระหนักถึงความเสี่ยงที่มีอยู่ตลอดเวลา เพราะอนาคตเป็นสิ่งที่ไม่แน่นอน เวลาจะลงทุนก็ไม่ประมาท ไม่มั่นใจเกินไปจนเทหมดหน้าตัก ทุกอย่างมีสองด้านเสมอ จงดำรงอยู่ด้วยความพอเพียงและพอดี