ณ เวลานี้ต้องบอกว่าไม่มีสิ่งใดที่จะทำให้ปวงชนชาวไทยระลึกถึงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้ดีเท่ากับการได้อ่านทบทวนพระบรมราโชวาทที่พระองค์ท่านได้เคยพระราชทานไว้ในโอกาสต่าง ๆ กันและนำพระบรมราโชวาทนั้นมาใช้เพื่อเตือนสติตัวเราให้ดำเนินชีวิตอยู่ในศีลธรรมและจริยธรรมอันดีงามสมดังที่พระองค์ท่านได้เคยพร่ำสอน
พระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านที่ได้พระราชทานไว้ให้ในโอกาสต่าง ๆ กันนั้น เมื่อมีโอกาสได้มาอ่านทบทวนดู ไม่น่าเชื่อเลยว่าเราสามารถหยิบยกมาใช้ในชีวิตของเราได้แทบทุกเรื่อง ผู้ที่จะน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านมาปรับใช้นั้นสามารถใช้ได้ทุกเพศ ทุกวัยและทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน นักศึกษาที่เรียนจบและกำลังก้าวเข้าสู่วัยทำงาน หรือผู้ที่ทำงานแล้วในสาขาอาชีพต่าง ๆ
ในโอกาสนี้ขออนุญาตน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระองค์ท่านบางส่วนมาลงไว้เพื่อให้ได้อ่านเพื่อระลึกถึงพระองค์ท่าน และเพื่อเตือนสติใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต
การศึกษา
“…ขอให้นักเรียนทั้งหลายตั้งใจรับความรู้ที่ครูสอนเพราะโอกาสเช่นนี้หายาก ถ้าไม่เอาใจใส่พยายามเรียนก็จะหาโอกาสไม่ได้อีกเพราะเวลาที่เป็นเด็กนั้นมีน้อย จึงต้องขอให้ใช้เวลาให้ถูกต้อง สะสมความรู้ในทางหลักวิชาและความรู้ทั่วไปให้มากและดีที่สุดแล้วจะไม่ต้องเสียใจ เมื่อโตขึ้นก็จะสามารถทำหน้าที่ของตน คือทำมาหากินเลี้ยงชีวิตตนและช่วยส่วนรวมให้อยู่ได้ด้วยความก้าวหน้าและด้วยความร่มเย็น…” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานแก่คณะครู นักเรียน โรงเรียนวังไกลกังวล ณ ศาลาเริงพระราชวังไกลกังวล วันพฤหัสบดีที่ 28 พฤษภาคม 2512
รู้รักสามัคคี
“… ปัญหาทุกอย่างมีทางที่จะแก้ไขได้ ถ้าแก้คนเดียวไม่ได้ ก็ช่วยกันคิดช่วยกันแก้หลาย ๆ คนหลาย ๆ ทางด้วยความร่วมมือปรองดองกัน ปัญหาที่เกิดขึ้นนั้นจักไม่กลายเป็นอุปสรรคขัดขวางและบั่นทอนทำลายความเจริญและความสำเร็จ…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม 2533
การพัฒนา
“…การจะพัฒนาทุกสิ่งทุกอย่างให้เจริญนั้นจะต้องสร้างและเสริมขึ้นจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่ก่อนทั้งสิ้น ถ้าพื้นฐานไม่ดีหรือคลอนแคลนบกพร่องแล้ว ที่จะเพิ่มเติมเสริมต่อให้เจริญขึ้นไปอีกนั้นยากนักที่จะทำได้ จึงควรจะเข้าใจให้แจ้งชัดว่านอกจากจะมุ่งสร้างความเจริญแล้วยังต้องพยายามรักษาพื้นฐานให้มั่นคง ไม่บกพร่อง พร้อม ๆ กันได้…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดีที่ 10 กรกฎาคม 2523
ความรับผิดชอบต่อหน้าที่
“…การทำงานยากลำบากกว่าการเรียน การเรียนนั้นเรียนตามหลักสูตรหรือเรียนวิชาต่าง ๆ ตามที่ทางมหาวิทยาลัยจัดลำดับให้ แต่การทำงานไม่มีหลักสูตรวางไว้ จำจะต้องใช้ความริเริ่มและความคิดพิจารณาด้วยตนเอง ในอันที่จะทำสิ่งใด อย่างไร เมื่อใด หากไม่รู้จักพิจารณาใช้ให้ถูกช่องถูกโอกาส ถึงมีวิชาอยู่ก็ไม่เป็นผลแก่งานและแก่ตัวนัก…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม 2512
ประโยชน์ส่วนรวม
“…คนไม่มีความสุจริต คนไม่มีความมั่นคง ชอบแต่มักง่าย ไม่มีวันจะสร้างสรรค์ประโยชน์ส่วนรวมที่สำคัญอันใดได้ ผู้ที่มีความสุจริตและความมุ่งมั่นเท่านั้นจึงจะทำงานสำคัญยิ่งใหญ่ที่เป็นคุณประโยชน์แท้จริงได้สำเร็จ…” พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันพุธที่ 12 กรกฎาคม 2522
คุณธรรมจริยธรรม
“…รายการทีวีต่าง ๆ การกระจายเสียงและการแพร่ข่าวทางวิทยุและยิ่งทางโทรทัศน์ ก็มีบทบาทมีอิทธิพลต่อประชาชนไม่ใช่น้อย ถ้าเป็นทางรายการที่จะสั่งสอนหรือชักจูงประชาชนโดยเฉพาะก็เป็นสื่ออย่างหนึ่งที่สำคัญ เพราะว่าโทรทัศน์ทำให้คนมองเห็นและเข้าใจได้ง่าย แต่ทางอ้อมก็ขอให้ท่านพิจารณาให้ดีว่า แม้จะเป็นรายการบันเทิงหรือรายการที่ไม่ถือว่าเป็นการชักจูงหรือการสั่งสอนโดยตรงก็ย่อมเป็นการสั่งสอนอยู่ดี เพราะว่าเป็นการแสดงมาให้คนเห็นคนฟัง…” พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะเจ้าหน้าที่ของสถานีวิทยุโทรทัศน์ ไทยทีวีสีช่อง 3 ณ พระตำหนักจิตรลดารโหฐาน วันอังคารที่ 26 ตุลาคม 2514
ความสุขและความปรารถนาดี
“…ในการสร้างตัวสร้างฐานะนั้นจะต้องถือหลักค่อยเป็นค่อยไปด้วยความรอบคอบระมัดระวังและความพอเหมาะพอดี ไม่ทำเกินฐานะและกำลัง หรือทำด้วยความเร่งรีบ เมื่อมีพื้นฐานแน่นหนารองรับพร้อมแล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญก้าวหน้าในระดับที่สูงขึ้นตามต่อกันไปเป็นลำดับ ผลที่เกิดขึ้นจึงจะแน่นอน มีหลักเกณฑ์ เป็นประโยชน์แท้และยั่งยืน…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ ศูนย์ประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น วันพุธที่ 18 ธันวาคม 2540
ความยุติธรรม
“…โดยที่กฎหมายเป็นแต่เครื่องมือในการรักษาความยุติธรรมดังกล่าว จึงไม่ควรจะถือว่ามีความสำคัญไปกว่าความยุติธรรม หากควรจะต้องถือว่าความยุติธรรมมาก่อนกฎหมายและอยู่เหนือกฎหมาย การพิจารณาพิพากษาอรรถคดีใด ๆ โดยคำนึงถึงแต่ความถูกผิดตามกฎหมายเท่านั้น ดูจะไม่เป็นการเพียงพอ จำต้องคำนึงถึงความยุติธรรมซึ่งเป็นจุดประสงค์ด้วยเสมอ การใช้กฎหมายจึงจะมีความหมาย และได้ผลที่ควรจะได้…” พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตรแก่นักศึกษาของสำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่ง เนติบัณฑิตยสภา ณ เนติบัณฑิตยสภา วันจันทร์ที่ 7 สิงหาคม 2515
ไม่มีโอกาสใดที่เราจะใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเราเองไปในทางที่ดีขึ้นได้ดีเท่ากับโอกาสนี้อีกแล้ว ขอให้คนไทยทุกคนน้อมนำพระบรมราโชวาทของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมาใช้ในการดำเนินชีวิตทุก ๆ วัน เชื่อว่ามีผู้ที่ดำเนินชีวิตตามรอยพระองค์ท่านอยู่แล้วเป็นจำนวนไม่น้อยก็ขอให้ทำต่อไป สำหรับผู้ที่ยังสามารถทำให้ดีขึ้นได้ ก็ขอให้ทำดียิ่งขึ้นต่อ ๆ ไป