บ้านและที่ดินจัดอยู่ในหมวดของอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นภาคส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจของประเทศเป็นอย่างมาก เพราะทุกคนจะต้องมีที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นอยู่ในรูปของบ้านตัวเอง บ้านเช่า ห้องเช่า คอนโด ดังนั้นบ้านและที่ดินจึงเกี่ยวข้องกับคนส่วนมาก การเปลี่ยนแปลงอะไรที่กระทบบ้านและที่ดินก็มักจะกระทบไปถึงคนส่วนใหญ่ไปด้วย วันนี้เรามาดูกันว่ามูลค่าราคาของบ้านและที่ดิน ที่เราคิดจะซื้อหามาอยู่เอง หรือซื้อเพื่อการลงทุนเก็งกำไร ราคาจะเคลื่อนไหวไปตามปัจจัยอะไรบ้าง
ข้อ 1 ราคาของบ้านและที่ดิน
รวมทั้งตลาดบ้านจัดสรรต่างๆ มักจะปรับขยับตัวขึ้นตามการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยเฉพาะในช่วงที่มีมาตรการและนโยบายของรัฐบาลกระตุ้นหรือส่งเสริม ราคาของบ้านและที่ดินก็จะปรับตัวสูงขึ้น ค่อนข้างมากในช่วงนี้
ข้อ 2 ภาวะเศรษฐกิจโลก
มักจะส่งผลต่าราคาบ้านและที่ดินด้วย ถ้าเศรษฐกิจของโลกดี ราคาบ้านก็จะแพง ถ้าเศรษฐกิจโลกไม่ดี ราคาบ้านก็ไม่สามาถที่จะขยับตัวสูงขึ้นไปได้
ข้อ 3 ความมั่นคงทางการเมือง
จะส่งผลต่อเศรษฐกิจ ถ้าการเมืองนิ่ง เศรษฐกิจก็สามารถโตได้ไม่หยุดชะงัก แต่ถ้าการเมืองมีปัญหา คนไม่กล้างลงทุน ทุกอย่างก็จะชะงักไปหมด ได้แต่รอความชัดเจน ยามใดที่การเมืองมีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ ราคาบ้านและที่ดินก็จะได้รับผลกระทบโดยไม่ขยับไปไหน
ข้อ 4 ราคาของสินค้าโภคภัณฑ์
ถ้ามีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ไม้ เหล็ก ปูน ก็จะปรับตัวขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนในการก่อสร้างสูงขึ้น ก็จะเป็นตัวเร่งให้คนตัดสินใจซื้อบ้านเร็วขึ้น เพราะกลัวว่าราคาจะแพงขึ้นไปอีกในอนาคต
ข้อ 5 การผ่อนคลายของสถาบันการเงิน
ในเรื่องการอนุมัติสินเชื่อบ้านและที่อยู่อาศัย เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาบ้านสูงขึ้น เพราะคนจะแห่กันมากู้เพิ่มขึ้น เมื่อมีแห่กันมาแบบนี้ ราคาบ้านก็จะตัองขยับหนีขึ้นไปเป็นธรรมดา
ข้อ 6 การปรับผังเมืองใหม่
โดยเฉพาะการกระจายให้เมืองขยายออกไปรอบนอกมากขึ้น คนออกไปอยู่รอบนอกมากขึ้น คอนโดในเมืองเปิดตัวน้อยลง แต่ยังมีอีกหลายคนที่ต้องการคอนโดที่เกาะแนวรถไฟฟ้า ในกรณีนี้ก็จะทำให้ราคาคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าขยับตัวสูงขึ้นได้
ข้อ 7 การขาดแคลนแรงงานประกอบกับค่าแรงที่ปรับตัวสูงขึ้น
ทำให้ต้นทุนของผู้สร้างบ้านสูงขึ้น และนักธุรกิจบ้านจัดสรรส่วนหนึ่งหันไปพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ๆในการก่อสร้างทดแทนแรงงานคน ทำให้ต้นทุนสูงขึ้นไปอีก ทำให้ราคาบ้านสูงขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน
ข้อ 8 ราคาที่ดินมีการปรับตัวขึ้นตลอดเวลา
เป็นที่รู้กันดีกว่า ที่ดินที่มีอยู่บนโลก ไม่สามารถเพิ่มขึ้นใหม่ได้ ทำให้ราคาที่ดีนมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นตลอดเวลา จึงทำให้บ้านมีราคาเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
จากปัจจัยทั้ง 8 ข้อดังกล่าวข้างต้นล้วนส่งผลต่อราคาบ้านและที่ดินทั้งสิ้น มากบ้างน้อยบ้างต่างกรรมต่างวาระกัน หากเราเป็นผู้อยู่อาศัย และกำลังจะตัดสินใจซื้อบ้าน ก็ต้องวิเคราะห์ให้ดีว่า ราคาของบ้านมีแนวโน้มทรงตัวหรือจะขยับสูงขึ้น โดยสามารถวิเคราะห์ได้ด้วยตนเองจากปัจจัยทั้ง 8 ข้อดังกล่าว หากสินค้าพวก ไม้ เหล็ก ปูน มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ก็อาจต้องรีบตัดสินใจซื้อแต่เนิ่นๆ เพราะโอกาสที่ราคาบ้านจะขยับตัวเพิ่มขึ้นตามไปนั้นมีโอกาสเป็นไปได้มาก
หากอยู่ในช่วงเศรษฐกิจซบเซา ก็ยังพอมีเวลาตระเวนหา เปรียบเทียบ และรอได้ เพื่อให้ได้บ้านที่มีราคาเหมาะสมและได้มาตรฐาน หากเราเป็นนักลงทุน นักเก็งกำไร ก็ต้องดูแนวโน้มใหญ่ของเศรษฐกิจโลก และแนวโน้มราคาอสังหาทั่วโลก เพราะสิ่งเหล่านี้มักจะล้อตามกันทั้งโลก เมื่อมองภาพใหญ่แล้วก็มองดูเงื่อนไขและมาตรการระดับประเทศไปจนถึงแผนพัฒนาของท้องถิ่น เพื่อที่จะได้หาจังหวะในการเข้าซื้อได้ในราคาที่ดี และวางแผนที่จะขายในช่วงที่ดีที่สุด ดังนั้นมุมมองของคนซื้อบ้านเพื่ออยู่อาศัย กับคนที่ซื้อเพื่อการลงทุนและเก็งกำไร คงต่างกันที่เรื่องของจังหวะเวลาเป็นสำคัญ
