คู่ชีวิตเป็นคนที่เรารักเราเลือกเพื่อมาเป็นคู่ใจ มาอยู่ร่วมกันรับได้ทั้งความทุกข์และความสุข เป็นเพื่อคู่คิดมีปัญหาใดปรึกษากันได้ตลอดเวลา และเราก็แน่ใจในความเป็นคู่รักกันของเราว่าเราจะอยู่กับคู่รักของเราไปจนตายจากกัน เราจึงแต่งงานกัน และจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อให้กฎหมายคุ้มครองจะได้ไม่เกิดปัญหาที่จะตามมาหลายเรื่อง เมื่อเราได้จดทะเบียนสมรสแล้วความสัมพันธ์ของเรากับคู่จะมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง ซึ่งก็เป็นเรื่องที่จะต้องทำความเข้าใจและศึกษาให้ดี เพราะต่อไปนี้คุณจะไม่ได้ตัวคนเดียวหรือทำอะไรตามใจตัวเองได้อย่างอิสระอีกต่อไป
อ่านเพิ่มเติม : ทะเบียนสมรส สําคัญอย่างไร ? รู้ไว้ก่อนแต่งงาน !
โดย กฎหมายกำหนดไว้อย่างไรบ้างมีรายละเอียดดังนี้
1.อยู่กันแบบสามีภรรยากันตามปกติ
ก็คืออยู่ร่วมบ้านเดียวกัน ตามแบบชีวิตครอบครับแบบไทยเรา ตามประเพณี เรียกว่าตามปกติสุขที่เขาอยู่กัน ไม่ใช้ทะเลาะกันจนถึงขั้นทำร้ายกัน จนถึงชีวิต แบบนี้ไม่ได้เรียกว่าปกติสุข อาจเป็นความผิดทางอาญาได้ กฎหมายไม่ได้ยกเว้นเหมือนความผิดที่เกี่ยวทรัพย์บางเรื่องอย่างเช่นลักทรัพย์ ถ้าเป็นสามีภรรยาก็ควรจะอยู่ร่วมกันถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ในเวลาที่นอนด้วยกันก็มีเพศสัมพันธ์กันตามปกติธรรมดา แต่เป็นเรื่อผิดธรรมชาติ วิตถาร ถ้าคู่สามีภรรยาไม่ยินยอมพร้อมใจละก็อาจผิดกฎหมายอาญาเรื่องของการข่มขืนกระชำเราได้แม้จะเป็นสามีภรรยากันก็ตามที เพราะกฎหมายก็บัญญัติไว้เป็นทำผิดแล้วในเรืองที่สามีข่มขืนภรรยา ไม่สามารถทำได้แล้วถือเป็นการผิดกฎหมาย กฎหมายนี้ก็เกิดจากเหตุการณ์ที่มีการทั้งทำร้ายกาย บังคับขู่เข็น ร่วมประเวณีโดยที่ภรรยาไม่ยินยอม แต่ถ้าเป็นการร่วมหรับนอนปกติก็ไม่ผิดกฎหมาย การที่เราเป็นคู่สามีภรรยากันเราก็ควรจะอยู่ด้วยความรัก ถ้าเรารักกันเราก็จะต้องไม่ทำอะไรที่มันผิดปกติธรรมดาของมนุษย์ปุถุชน
2.ช่วยเหลือหรือเลี้ยงดูกันและกัน
ตามที่เราเป็นสามีภรรยากัน อย่างเช่นเวลาที่เราเจ็บป่วย อีกคนหนึ่งก็ต้องดูแล พาไปหาหมอ เฝ้าไข้ให้เรา ซื้อยาให้เรา เรียกว่าดูแลกันเป็นพิเศษและอย่างใกล้ชิดตามที่เรามีเวลาให้กัน แต่ถ้าเราไปทำงานก็ลาหยุดมาดูแลกันได้วันสองวัน ไม่ได้ทำให้เสียงานเท่าใด เพราะคู่สามีภรรยาต้องดูแลกัน จะให้ใครมาดูแลแทน ถ้าคู่สามีภรรยาคนใดกลายเป็นคนวิกลจริต ที่ศาลต้องสั่งไว้ว่าเป็นบุคคลที่ไร้ความสามารถ เราก็อาจต้องเป็นผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ที่ต้องดูแลคู่สมรสของเรา โดยศาลจะต้องสั่งว่าเราเป็นผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ คือเป็นคนที่ต้องช่วยเหลือ ดูแลคู่สมรสที่วิกลจริต เพราะเขาจะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างคนปกติถ้าเราไม่ดูแล ช่วยเหลือ คู่สมรสที่วิกลจริตของเรา ก็อาจผิดกฎหมายครอบครัวได้ เพราะกฎหมายได้กำหนดเอาไว้ และกฎหมายยังได้คุ้มครองเราในเรื่องที่มีผู้อื่นมาทำละเมิด กับคู่สมรสของเราจนได้รับบาดเจ็บสาหัส หรืออาจถึงเสียชีวิตได้ อย่างเช่นมีผู้อื่นขับรถโดยประมาทมาชนคู่สมรสของเราบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เราก็สามารถฟ้องเรียกเอาค่าเสียหาย ค่าทดแทนที่เราขาดค่าอุปการะเลี้ยงดูเรา ค่าทดแทนอื่นๆ ได้ตามกฎหมาย เพราะว่าเราขาดผู้ที่เป็นคู่ชีวิตของเราไปหนึ่งคน ซึ่งเป็นกำลังหลักของรอบครัวของเรา เราก็สามารถฟ้องได้
3.มีความรักความชื่อสัตย์ต่อกันอย่างสามีภรรยา
ถ้าฝ่ายใดไปมีคนใหม่ หรือที่เรียกว่ามีชู้นั้น กฎหมายก็จะเข้ามาช่วยเราในเรื่องการฟ้องร้อง อย่างเช่น เราเป็นสามี ภรรยาของเราไปมีชู้เราผู้เป็นสามีก็มีอำนาจที่จะฟ้องภรรยาเราเพื่อหย่าขาด และฟ้องเรียกค่าเสียหายในเรื่องชื่อเสียงในกรณีละเมิด หรือฟ้องผู้ที่มามีชู้กับภรรยาก็ได้ จะเห็นว่ากฎหมายได้ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งฝ่ายเรา และฝ่ายที่ทำละเมิดกับเรา เพื่อให้การอยู่รวมกับฉันท์สามีภรรยามีความรักความชื่อสัตย์ ถ้าไม่มีความเชื่อสัตย์ต่อกันก็มีผลอย่างที่กล่าวมา เพราะฉะนั้นแล้วเพื่อครอบครัวที่มีความสุข ทั้งคู่ควรมีความซื่อสัตย์ต่อกัน และอย่าลืมว่าจะต้องรักเดียวใจเดียวเท่านั้น แค่นี้ก็ครองคู่ได้อย่างสงบสุขและมีความสุขแล้วล่ะ นอกจากนี้เรื่องของการเงินในครอบครัวก็จะไม่เกิดปัญหาอีกด้วย