Buy Now Pay Later เป็นหนึ่งในรูปแบบการชำระเงินแบบใหม่ที่ให้เปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสินค้ารับสินค้าไปก่อน ในขณะที่สามารถทยอยชำระค่าสินค้าตามระยะเวลาที่กำหนด ข้อมูลจาก Worldpay Group Inc. ระบุว่ารูปแบบการชำระเงินดังกล่าวสำหรับการซื้อสินค้าผ่านช่องทาง e-commerce ในตลาดสหรัฐอเมริกาปี 2020 ที่ผ่านมามีส่วนแบ่งอยู่ที่ 1.6% จากรูปแบบทั้งหมด และจะเติบโตเป็น 3 เท่าภายในปี 2024 นอกจากนี้ยังพบอีกว่าการเติบโตดังกล่าวกำลังสวนทางกับการหดตัวลงของการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต แนวโน้มการเติบโตดังกล่าวทำให้ร้านค้าออนไลน์ร่วมกับบริษัทด้านฟินเทค เช่น Affirm หรือ AfterPay ต่างนำเสนอ Buy Now Pay Later (BNPL) เป็นทางเลือกการชำระสินค้าเพื่อดึงดูดกลุ่มนักช็อปวัยรุ่นที่ยังไม่สามารถมีเครดิตการ์ดไว้ซื้อสินค้าในสหรัฐอเมริกา ยุโรป จีน และออสเตรเลีย การใช้จ่ายประจำวันผ่านบริการ BNPL เริ่มเป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน
สำหรับประเทศไทย LerdBuy (เลิศบาย) ถือเป็นผู้นำด้าน Lifestyle E-commerce Platform ที่ประกอบไปด้วยสินค้าและดีลจากร้านอาหารและบริการต่างๆ และเป็นรายแรกในประเทศที่เสนอ Buy Now Pay Later โดยไม่คิดดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม นอกจากนี้ยังมาพร้อมกับส่วนลดสุดพิเศษที่ทางร้านค้าต่างๆร่วมกับทาง LerdBuy มอบให้นักช็อป ทั้งนี้ LerdBuy ได้เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้วเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2021 ภายใต้สโลแกนว่า Buy Now, Enjoy Now! More Discount, Pay later!
ทางคุณ Andy Wang CEO ของ LerdBuy มั่นใจว่า LerdBuy จะสามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตด้านจำนวนฐานผู้ใช้มากกว่า 1 ล้านคน ภายในปี 2021 และได้อธิบายเพิ่มเติมว่า ปัจจุบันคนไทยเพียง 10% เท่านั้นที่มีบัตรเครดิต ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่ 14% และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศฝั่งตะวันตกที่ 60-80% ดังนั้นจะเห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพอย่างมากที่ BNPL จะเติบโตได้อย่างรวดเร็วภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว หากพิจารณาบริบทที่ประเทศอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรเพียง 2% ของประชากรประเทศทั้งหมดที่มีบัตรเครดิตเพื่อใช้ซื้อสินค้า และเป็นโอกาสให้บริษัทอย่าง Kredivo และ Akulaku ต่างมียอดดาวน์โหลดแอพลิเคชันที่ให้บริการ BNPL แล้วกว่า 10 ล้านดาวน์โหลดจาก Google Play แพลตฟอร์ม
คุณ Andy Wang กล่าวเสริมว่า LerdBuy จะเติบโตด้วยหลักประการสำคัญ 3 ข้อประกอบไปด้วย Buy Now Pay Later, Brand Centric, และ Social Driven Approach
ประการแรกคือ Buy Now Pay Later
โดยที่ผู้ใช้ชำระเพียง 25% ของราคาสินค้าต่องวด และรับสินค้าไปใช้ได้เลย ไม่มีดอกเบี้ย ค่าธรรมเนียมหรือค่าใช้จ่ายอื่นแอบแฝง ด้วยพฤติกรรมการใช้จ่ายการซื้อสินค้าออนไลน์ของคนรุ่นใหม่ทั้งวัยเรียน นักศึกษา และวัยทำงาน รวมถึงข้อจำกัดที่ไม่สามารถสมัครหรือเข้าถึงบริการบัตรเครดิตได้ จะส่งผลให้กลุ่มคนดังกล่าวเริ่มทำความเข้าใจและหันมาใช้บริการ Buy Now Pay Layer กับทาง LerdBuy มากยิ่งขึ้น
ประการที่สอง คือ Brand Centric
ซึ่ง LerdBuy จะคัดสรรสินค้าและดีลต่างๆโดยมุ่งเน้นที่แบรนด์และคุณภาพของสินค้าเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและยกระดับคุณภาพชีวิตให้แก่ผู้ใช้บริการ ตัวอย่างแบรนด์สินค้าคุณภาพ เช่น Xiaomi และ แบรนด์ลูก หรือ LocknLock ที่มีไลน์สินค้าที่ใช้ในประจำวันตั้งแต่ทัมเบลอร์ ขวดน้ำ เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน กล่องใส่อาหาร และเครื่องครัว
ประการสุดท้าย คือ Social Driven Approach
ซึ่งทาง LerdBuy จะสนับสนุนให้ทางผู้ใช้ได้แชร์และแบ่งปัน แอพพลิเคชัน LerdBuy รวมถึงสินค้าและดีลต่างๆให้แก่ผู้อื่นได้เข้าถึงสินค้าหรือดีลต่างๆที่บ่งบอกถึงการมีไลฟ์สไตล์ที่ร่วมกัน ผู้ใช้ที่แชร์จะได้รับสิทธิพิเศษจากการแชร์ดังกล่าวจากทาง LerdBuy อ้างอิงผลการสำรวจพบว่ากว่า 90% ของผู้ที่ได้รับการแนะนำสินค้าจากเพื่อนจะเชื่อในคำแนะนำดังกล่าว อีกทั้งโอกาสที่จะซื้อสินค้าจากการได้รับการแนะนำจากเพื่อนจะมากเป็น 4 เท่าเมื่อเทียบกับการหาซื้อสินค้าด้วยตนเอง และการสนับสนุนให้มีการแนะนำบอกต่อสินค้าจากปากต่อปากยังสามารถเพิ่มยอดขายสินค้าได้มากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับการทำโฆษณาโปรโมตสินค้า และด้วยหลักประการทั้ง 3 ข้อที่กล่าวมาข้างต้นนี้จะช่วยให้ LerdBuy ได้รับการตอบรับจากคนไทยและบรรลุการเติบโตตามเป้าหมายที่ตั้งไว้
คำว่า Lerdbuy (เลิศบาย) ประกอบขึ้นด้วยคำว่า เลิศ ซึ่งสื่อถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีเลิศ ซึ่ง LerdBuy ได้คัดสรรสินค้า ดีลร้านอาหาร รวมถึงบริการต่างๆที่มีคุณภาพ และตั้งใจมอบให้แก่ผู้ใช้ ส่วนคำว่า บาย สื่อถึงการจับจ่ายซื้อสินค้าและดีลต่างๆ ที่มาพร้อมส่วนลดสุดพิเศษ และรูปแบบการชำระแบบ Buy Now Pay Later ที่จะสนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่
ทุกท่านสามารถดาวน์โหลด LerdBuy (เลิศบาย) ได้แล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play
https://apps.apple.com/th/app/lerd-buy/id1558415939
https://play.google.com/
เกี่ยวกับผู้พัฒนา LerdBuy
LerdBuy เป็น Localized Lifestyle Platform ที่ถูกลงทุนและพัฒนาโดยกลุ่มบริษัท 9F group (JFU) ซึ่งจดทะเบียนอยู่ในตลาดหุ้น NASDAQ หนึ่งในผู้นำด้านฟินเทคในประเทศจีน ตั้งแต่ปี 2006 เป็นต้นมาทาง 9F ได้มีรากฐานการเติบโตและสั่งสมประสบการณ์ทางด้าน consumer finance โดยที่ประเทศจีนทาง 9F มีฐานลูกค้า consumer finance กว่า 100 ล้านราย จากประสบการณ์ดังกล่าวทำให้ทาง 9F มั่นใจที่จะนำเทคโนโลยีและองค์ความรู้ด้าน consumer finance และฟินเทคมาเพื่อพัฒนาระดับคุณภาพชีวิตคนไทยให้สูงขึ้นด้วยสินค้าคุณภาพและดีลคุ้มค่าที่ทาง LerdBuy มอบให้พร้อมบริการ Buy Now, Pay Later ภายใต้สโลแกนว่า Buy Now, Enjoy Now! More Discount, Pay later!
สำหรับทีมงานหลักในไทยขับเคลื่อนด้วยคนรุ่นใหม่ที่จบการศึกษาจากหลากหลายมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศ ทีมงานพวกเราจึงเต็มไปด้วยแนวคิดที่หลากหลายและนวัตกรรมใหม่ๆ รวมถึงเข้าใจไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่เป็นอย่างดี ดังนั้นพวกเราพร้อมที่จะนำเสนอบริการต่างๆภายใต้ LerdBuy ที่จะตอบโจทย์และช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตคนไทยทุกคน
#เลิศบาย #LerdBuy #BuyNowPayLater #Fintech #เทคโนโลยี #Startup #Ecommerce #Emarketplace