3 ค่ายยักษ์ใหญ่ของเครื่องใช้ไฟฟ้าส่อเค้าจะไม่ส่งสินค้าเข้า เทสโก้ โลตัสเนื่องจากรายการลดราคาสินค้าที่ลดต่ำกว่าทุน หั่นราคาเกินเหตุ จากกรณีแคมเปญ “ศุกร์สุดสุด หลุดโลก” ลดทั้งแผนกเครื่องใช้ไฟฟ้า 30% จากราคาปกติ เมื่อวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งทั้ง 3 บริษัทเห็นตรงกันว่ามันลดราคาเกินไปและทางบริษัทไม่สนับสนุนแคมเปญนี้ ซึ่งจริงๆแล้วนั้นทั้ง LG , โตชิบา , ฮิตาชิ เข้าร่วมรายการลดราคาประจำอยู่แล้วแต่ให้การสนับสนุนส่วนลดที่ 10% เท่านั้นซึ่งตอนนี้มีแนวโน้มที่ทั้ง 3 แห่งจะหยุดส่งสินค้าให้กับเทสโก้ โลตัส
ซึ่งทางด้านเทสโก้โลตัสกล่าวว่า แคมเปญนี้เป็นการลดราคาสินค้าช่วยผู้บริโภคและกระตุ้นยอดการซื้อขายปลายปี ซึ่งทางโลตัสมีจัดแบบนี้เป็นประจำ ซึ่งจริงๆแล้วอยากให้ทั้ง 3 บริษัทมองไปยังกลุ่มผู้ซื้อที่จะได้ประโยชน์มากกว่าทางเทสโก้โลตัสและกิจกรรมแบบนี้ทางโลตัสก็จัดประจำทั้งปีมีหมุนเวียนไปตามแผนกสินค้าต่างๆเพื่อให้ผู้บริโภคลดภาระรายจ่ายและได้ของตามที่ต้องการ
ข่าวจาก http://www.posttoday.com/biz/news/402516
แหม ออกมาโวยกันแบบนี้ผู้บริโภคอย่างเราก็คงบอก อะไรแว้ เซ็งจังเลย แค่ลดราคาแค่นี้โวยวายทำไม ซึ่งในแง่ของการค้าเราไม่อาจรู้ว่าทางเทสโก้โลตัสนั้นดีลเรื่องราคาสินค้ากับผู้ผลิตไว้อย่างไร ในเรื่องของการลดราคาเพราะส่วนใหญ่สินค้าที่นำมาวางขายจะมีราคาส่งที่ต่ำกว่าท้องตลาดหรือเป็นการฝากวางขายซึ่งจะมีเรื่องของการร่วมจัดโปรโมชั่นและการจ่ายเงินค่าสินค้าที่ขายได้ตามตกลง ซึ่งเราไม่รู้ถึงข้อตกลงส่วนนี้ แต่จากข่าวหากมองในมุมของผู้บริโภคคือ การที่โลตัสจัดแคมเปญลดราคากระหน่ำแบบนี้มองแล้วน่าจะวินๆกันทั้งหมดคือ ผู้ผลิตขายสินค้าได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคซื้อของได้ในราคาถูก และโลตัสได้ยอดขายรวมเพิ่มขึ้นจาการจัดรายการ มองแล้วน่าจะแฮปปี้มากว่าจะมีดราม่าเรื่องลดราคาสินค้า เพราะช่วงนี้สินค้าต่างมีกำลังซื้อลดลงคนส่วนใหญ่ไม่กล้าใช้เงิน สินค้าบางอย่างกลายของสต๊อกเพราะขายไม่ออกต้องรอการลดราคาจากโรงงานหรือจัดงานขายสินค้าราคาถูกๆเหมือนที่เราเห็นกันบ่อยๆ
ถึงแม้ว่าจะลดราคาถึง 30% แต่ไม่ใช่ว่าผู้ผลิตจะไม่มีกำไรจากสินค้าเพราะเรื่องของกลไกตลาดการตั้งราคามักจะบวกเผื่อสำหรับการลดราคาไว้แล้วเป็นส่วนใหญ่ทำให้มองได้ว่าไม่น่าจะขาดทุนกับสินค้าตัวนั้นๆ และน่าจะได้ยอดขายเพิ่มขึ้น อีกทั้งสินค้าที่น่าจะขายได้คือสินค้าในกลุ่มราคาไม่สูงมากนักแม้จะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าซึ่งมองแล้วตอนนี้กำลังซื้อจริงๆน่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ราคาเริ่มต้น 2,000 – 20,000 บาท(รวมเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด) ซึ่งกลุ่มผู้บริโภคส่วนใหญ่ฐานรายได้ปานกลางและการซื้อจะเป็นการผ่อนชำระกว่า 70% ทำให้มองว่าจำนวนสินค้าของทั้ง 3 ค่ายที่มีปัญหาน่าจะมีจำนวนไม่มากนัก เพราะมีสินค้าแบรนด์อื่นๆมาแชร์ส่วนแบ่งออกไปมองแล้วก็ไม่น่าจะได้รับผลกระทบมากนัก ซึ่งในมุมของคนซื้ออย่างเราๆแน่นอนว่าการจัดรายการลดราคามันดึงดูดใจให้เข้าไปซื้อ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นสินค้ารุ่นเก่านำมาลดราคากันมากกว่าจะเป็นสินค้ารุ่นใหม่ๆและคนที่ต้องการจะซื้อจริงเขาก็จะมีการเปรียบเทียบยี่ห้อ ฟังก์ชั่นการใช้งาน และราคา นั่นหมายความว่าหากมีสเปคเดียวกันสัก 5 ยี่ห้อขาก็ต้องเลือกที่ดีที่สุดคุณภาพดีที่สุดและราคาถูกที่สุด จึงไม่จำเป็นว่าสินค้าที่จะขายได้จะเป็นของ 3 ค่ายยักษ์ที่มีปัญหาในเรื่องนี้เลยก็ได้
แน่นอนว่าตอนนี้เทสโก้โลตัสดูจะเป็นพระเอกในสายตาของคนที่อ่านข่าวและผู้บริโภคที่ได้ซื้อของในราคาถูกๆจากแคมเปญนี้ ซึ่งหากผลสรุปออกมาว่าทั้ง 3 ค่ายนี้ไม่ส่งสินค้าไปวางขายตามระยะเวลาที่คาดไว้คือ 1 เดือนหรืออาจจะมากกว่านั้น ทางเทสโก้โลตัสอาจจะได้รับผลกระทบบ้างจากการมีสินค้าให้ลูกค้าเลือกน้อยลง แต่ยอดขายรวมไม่น่าจะได้รับผลอะไร ส่วนค่ายสินค้าทั้ง 3 แบรนด์อาจจะได้รับผลกระทบนิดหน่อยคือสินค้าค้างสต๊อกบางส่วนเพราะหยุดการกระจายสินค้าไปหนึ่งแห่ง ยอดขายอาจจะมีผลกระทบบ้างแต่เชื่อว่าคงจะไม่กี่เปอร์เซ็นต์แต่ในภาพรวมของคนที่อ่านข่าวในตอนนี้คือ 3 แบรนด์นี้ดูจะเป็นผู้ร้ายนิดๆไปแล้วเพราะตอนนี้ผู้บริโภคส่วนใหญ่เน้นซื้อสินค้าที่ลดราคาหรือราคาถูก มากกว่าจะมองชื่อชั้นของแบรนด์ หากคุณภาพและฟังก์ชั่นการใช้งานเปรียบเทียบแล้วพอๆกับแบรนด์อื่นๆที่มีราคาถูกกว่าแน่นอนว่าส่วนใหญ่ซื้อของถูกกันทั้งนั้นจริงไหมล่ะ
อ่านเพิ่มเติม >> ของถูก ของแพง อะไรคือปัจจัยราคาเปลี่ยน ? <<