ค่านิยมของสังคมเมืองในปัจจุบัน ทุกอย่างต้องดูดี ดูแพง ดูหรูหราอลังการเว่อร์วัง จะรวยจะจนก็ขอไฮโซไว้ก่อน ทำไมถึงมีค่านิยมที่ผิดๆกันแบบนี้ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่หรือที่เรียกกันว่า Gen-Y คือกลุ่มคนหนุ่มสาวในวัยมหาวิทยาลัย วัยทำงานที่กำลังก่อร่างสร้างตัวจากการทำงาน
ซึ่งกลุ่มคนวัยที่กล่าวมานี้มักมีค่านิยมไปในทิศทางเดียวกันคือ กินหรู เที่ยวหรู นิยมสินค้าแบรนด์เนม อะไรที่เป็นเทรนด์กลุ่มคนเหล่านี้เกือบ 70% จะทำตามทำให้ปัจจุบันค่านิยมของสังคมเปลี่ยนไปกลายเป็น ไฮโซแค่เปลือกนอก ด้วยการประโคมเสื้อผ้าราคาแพง กระเป๋ารองเท้าต้องแบรนด์หรู ทานข้าวตามร้านดัง ใช้เงินเหมือนผลิตแบงค์ได้เอง ด้วยค่านิยมนี้เองทำให้หลายๆคนเป็นหนี้เพราะต้องหาสิ่งเหล่านี้เพื่อให้ทัดเทียมคนอื่นๆ จะว่าไปมันก็เหมือนวงจรอุบาทว์ที่สร้างคนให้เป็นหนี้ และคนยุคนี้อาจหลงลืมกลอนสอนใจบทนี้กันแล้ว
มีสลึงพึงบรรจบให้ครบบาท อย่าให้ขาดสิ่งของต้องประสงค์
มีน้อยใช้น้อยค่อยบรรจง อย่าจ่ายลงให้มากจะยากนาน
ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไรซื้อ ให้เป็นมื้อเป็นคราวทั้งคาวหวาน
เมื่อพ่อแม่แก่เฒ่าชรากาล จงเลี้ยงท่านอย่าให้อดรันทดใจ
ซึ่งแต่งโดยบรมครูสุนทรภู่ที่เราเรียนเราท่องกันสมัยเด็กๆ แต่เชื่อว่าพอโตขึ้นมาก็หลงลืมกันไป เพราะกระแสความนิยม และหลายคนแปลงบทกวีสอนใจอันนี้เป็น
มีสลึง จึงต้องกู้ ให้ครบบาท
เก็บทั้งชาติก็ไม่รวยขึ้นมาได้
ถึงมีน้อย อยากใช้มาก ไม่เป็นไร
เพราะยังไง เงินในบัตร ก็ยังมี
เห็นไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องตลกขบขันกับการแปลงบทกวีที่มีคำสอนใจดีๆกลายเป็นอีกเรื่องอีกแบบอีกความหมายตามกระแสสังคมยุคปัจจุบัน ซึ่งเราคงต้องยอมรับว่าการสวนกระแสนั้นเป็นเรื่องที่ยาก แต่ก็มีคนจำนวนไม่น้อยที่รู้จักการใช้เงิน และตามกระแสอย่างมีสติ มีวิธีคิด และรู้จักการประมาณตน ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่นสังคมคนที่ทำงานตามออฟฟิศ แน่นอนว่าต้องมีการอัพเดทเทรนด์ต่างๆเช่น การแต่งกาย , ร้านอาหาร , แหล่งช้อปปิ้ง และ ไอเทมส์ต่างๆเพื่อความทันสมัยและดูดีจากมุมมองของคนภายนอก ซึ่งคนที่มีสติในการตามกระแสเขาจะดูว่าเขาสามารถจ่ายได้แค่ไหน และ ควรใช้แบบไหน ซึ่งไม่จำเป็นต้องแพง แต่ใช้แล้วดูดีดูเหมาะสม หรือ เลือกของแพงแบรนด์เนมเพียงบางอย่างเช่น นาฬิกา หรือ กระเป๋า แต่ก็ไม่เกินความสามารถที่จะจ่าย หรือบางคนนิยมเทรนด์เรื่องร้านอาหารดังๆหรูๆ ก็มีไปทานบ้างแต่ไม่บ่อยไม่จำ ไปบางโอกาส บางวาระ หรือ แค่ไปทดลองว่ามันอร่อยจริงไหม แต่ไม่ทำเป็นนิสัยว่าต้องทานของแพง ของหรู
ซึ่งจะต่างจากคนที่เสพติดกระแสแบบไม่ลืมหูลืมตาจนกลายเป็นคนที่ ไฮโซแค่เปลือกนอก เพราะจริงๆแล้วเงินในกระเป๋าแทบไม่เหลือเพราะใช้แต่บัตรรูดใช้จ่ายสิ้นเดือนมาทีเงินเดือนก็มาจ่ายหนี้หมดเช่น เทรนด์สมาร์ทโฟน อะไรใหม่ อะไรดังต้องผ่อนเพื่อให้มีเหมือนคนอื่นๆ เสื้อผ้าแพงแค่ไหนก็ไม่หวั่นขอให้ใส่แล้วคนชมว่าเริ่ดหรูดูดี กระเป๋าต้องมีแพงเท่าไหร่ก็ทุ่ม ซึ่งบอกเลยว่ามีเยอะมากสำหรับคนกลุ่มนี้ซึ่งอยากจะบอกว่าหากใครเป็นแบบนี้ ทั้งชีวิตจะมีแต่ ติดหนี้ หากรวยไม่จริงและนิยมใช้ของเกินตัวเพื่อสร้างภาพให้ตัวเองดูดี ดูหรู ดูแพง เพราะกระแสสังคมที่นิยมคนแต่เพียงเปลือกนอก จึงทำให้เกิดวงจรการสร้างหนี้ และ ติดหนี้ ด้วยเหตุนี้
อ่านเพิ่มเติม >>> ไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ทำให้เป็นหนี้ ! <<<
เมื่อคุณรู้แล้วว่าต้นเหตุของการเป็นหนี้มาจากไหน คุณก็ควรลดละเลิก การตามกระแสโดยไม่มีสติ ไม่ดูฐานะของตัวเอง เพราะหากคุณยังไม่เลิกที่จะเป็นไฮโซแค่เปลือกนอก รับรองว่าอีก 10 ปี ก็ไม่มีเงินเก็บหรือทำงานจนแก่ก็ไม่มีเงินเก็บเพราะจ่ายแต่หนี้ทุกเดือน ความรวยสมัยนี้บอกตรงๆว่าไม่จำเป็นต้องมีเงินเป็นล้านๆ
คนที่รวยจริงๆคือ คนที่ไม่มีหนี้ มีน้อยใช้น้อย มีเยอะใช้พอดี และไม่มีหนี้คุณจะเป็นคนรวย คุณจะเป็นคนที่มีแต่ความสุข ลองนึกภาพตัวเองตอนแก่ดูนะ มีเงินไม่มากแต่เลี้ยงตัวเองได้ทุกเดือน มีประกันสังคม หรือ 30 บาทไว้หาหมอ มีเงินออมไว้เลี้ยงตัวเอง และไม่มีหนี้สิน คุณจะมีความสุขแค่ไหน ที่ไม่เป็นภาระให้ใครเลย