ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันการสมัครงาน หรือจะเป็นที่สนใจจากบริษัทชั้นนำต่าง ๆ นั้นจะต้องอาศัย CV หรือประวัติส่วนตัวที่มีความดึงดูด สามารถแสดงถึงทั้งทักษะ ความสามารถ และตัวตนของเจ้าของ CV นั้นได้เป็นอย่างดี หากเป็นสมัยก่อน การเขียน CV นั้นก็คงใช้วิธีการพิมพ์ลงบนหน้ากระดาษทั่ว ๆ ไป แต่ในสมัยนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นเสียแล้ว เพราะปัจจุบันการใช้งานด้านอินเตอร์เน็ตได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนทั่วไปแล้ว ดังนั้นการสมัครงานก็เช่นกัน มักจะใช้การสมัครผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ก่อนที่จะได้รับคัดเลือกเพื่อเข้าไปสัมภาษณ์งานอีกด่านหนึ่ง และอีกหนึ่งเว็บไซต์ซึ่งเป็นเหมือนสถานที่รวบรวมบุคลากรมากมายจากทั่วโลก และได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่องค์กร บริษัทชั้นนำ และตัวผู้สมัครงานเองก็คือ LinkedIn หากใครไม่มีโปรไฟล์อยู่ในเว็บไซต์แห่งนี้ ถือว่าล้าหลังมาก iPrice แนะนำว่าควรจะต้องรีบไปอัพเดตประวัติส่วนตัวของตนขึ้นบนเว็บไซต์แห่งนี้ให้ตามทันเทรนด์ซะแล้ว
LinkedIn คืออะไร
หากใครยังมือใหม่และไม่ค่อยเข้าใจนักว่า LinkedIn คืออะไร คำตอบก็คือ เว็บไซต์ที่สร้าง connection ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อง เพื่อนร่วมงานกับเพื่อนร่วมงาน ทั้งในอดีตและปัจจุบัน โดยปกติแล้วองค์กร บริษัทต่าง ๆ นั้น เมื่อต้องการหาบุคลากรมาทำงานในตำแหน่งต่าง ๆ ก็มักจะไปค้นหาประวัติส่วนตัวของบุคคลที่น่าสนใจในเว็บไซต์ LinkedIn เช่นกัน และใครที่มี CV โปรไฟล์โดดเด่นก็จะเป็นที่ต้องตาต้องใจบริษัทเหล่านี้ และแถมยังอาจได้รับการติดต่อเสนองานทั้ง ๆ ที่ตัวเจ้าของ CV เองไม่จำเป็นต้องไปร้องขอสมัครงานใด ๆ เลยด้วยซ้ำ
และสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับการสร้างโอกาสด้านอาชีพโดยใช้ LinkedIn นั้นก็คือการสร้างโปรไฟล์ให้เป็นที่น่าสนใจ สะดุดตา และโดดเด่น แต่จะทำได้อย่างไรนั้น เราได้รวบรวมเอาจุดหลักสำคัญ ๆ ที่เหล่า headhunters จากบริษัทชั้นแนวหน้าจะมองหาในโปรไฟล์ของคุณมาแบ่งปันกันดังนี้
- โปรไฟล์อ่านง่าย ชัดเจน เข้าใจได้ทันที
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือการสร้างโปรไฟล์ที่มีความชัดเจน สามารถอ่านได้เข้าใจในทันที ดังนั้นสิ่งสำคัญที่จะต้องจดจำไว้เสมอเมื่อจะสร้างโปรไฟล์ใน LinkedIn ก็คือ ต้องสามารถบ่งบอกตัวตนของเราได้เป็นอย่างดีภายในข้อความสั้น ๆ อย่างเช่นคุณอาจจะใช้คำนิยามที่แสดงความเป็นตัวเองเพียงหนึ่งคำเขียนไว้ใต้รูปภาพของคุณก็ได้ ซึ่งคำเพียงหนึ่งคำนั้นจะต้องสามารถบอกรวมทั้งทักษะที่คุณมี ประสบการณ์การทำงาน และสิ่งที่สนใจ เพื่อเป็นการดึงดูดให้คนสนใจอยากจะรู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับตัวคุณ
- ประสบการณ์การทำงานสำคัญที่สุด
อย่าลืมว่าสิ่งที่สำคัญที่บริษัทและองค์กรต่าง ๆ มักจะมองหาในบุคคลหนึ่งนั้นไม่ได้อยู่ที่ว่าเป็นคนนิสัยอย่างไร อาศัยอยู่ที่ไหน มีการศึกษาด้านใดบ้างเท่านั้น แต่พวกเขาจะมองหาประสบการณ์การทำงานที่คุณเคยผ่านมาเป็นหลักด้วย ดังนั้นคุณจะต้องไม่ลืมสรุปประสบการณ์การทำงานที่คุณมีอย่างย่อ ๆ เพื่อให้ง่ายต่อ headhunters หรือบริษัทและองค์กรต่าง ๆ ในการเก็บข้อมูลที่สำคัญนี้อย่างสะดวก นับเป็นอีกส่วนหนึ่งที่สามารถทำให้พวกเขาเหล่านั้นประทับใจในตัวคุณได้ด้วยเช่นกัน
- รายละเอียดต้องครบ
นอกจากในส่วนแรกที่อธิบายตัวตนและการทำงานของคุณแบบย่อ ๆ แล้ว หากสามารถทำให้บริษัทและองค์กรต่าง ๆ สนใจในตัวคุณได้แล้ว รายละเอียดส่วนตัวของคุณที่อยู่ภายในก็ต้องครบพร้อมให้พวกเขาเหล่านั้นได้เข้าไปดูได้จริง ๆ สิ่งจำเป็นที่จะขาดไปไม่ได้เลยก็อย่างเช่น รายละเอียดประสบการณ์การทำงาน, ทักษะพิเศษต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเทคนิค หรือด้านภาษา, การศึกษาโดยละเอียด เป็นต้น
- ข้อมูลการติดต่อไม่ชัดเจน
จากข้อข้างต้นนั้น กว่า 90% ของผู้ใช้ Linkedin พลาดที่จะให้ข้อมูลสำหรับติดต่อ กล่าวคือพวกเขาไม่ใส่เบอร์โทรศัพท์หรือแม้กระทั่งอีเมล ซึ่งถ้าหากได้รับการติดต่อผ่านทาง Linkedin Message ก็จะทำให้โอกาสในการถูกมองเห็นของคุณนั้นช้าไปเสียแล้ว ดังนั้นจงทำโปรไฟล์ของคุณให้ง่ายต่อการติดต่องานต่างๆ แล้วคุณจะไม่พลาดโอกาสดีๆอย่างแน่นอน
- คีย์เวิร์ดหรือคำค้นช่วยคุณได้
อย่าลืมใส่คีย์เวิร์ดหรือคำค้นที่มีความเกี่ยวข้องกับงานที่คุณกำลังหา หรือกำลังทำอยู่ลงไปในโปรไฟล์ของคุณด้วย รู้ไหมว่าการที่คุณจะถูกค้นเจอจากบริษัทชั้นนำหรือองค์กรต่าง ๆ ที่น่าสนใจก็โดยคำค้นเหล่านี้นั่นเอง เนื่องจากตามกระบวนการทำงานของเหล่า headhunters หรือ recruiters ทั้งหลายนั้นก็คือการเข้าไปในเว็บไซต์อย่าง LinkedIn และใช้เจ้าคีย์เวิร์ดหรือคำค้นที่เกี่ยวข้องกับตำแหน่งงานที่ต้องการเข้าไปค้นหาบุคคลที่น่าสนใจและเหมาะสมกับตำแหน่งนั้น ๆ นั่นเอง แล้วพวกเขาเหล่านั้นจะค้นเจอคุณได้อย่างไร ถ้าคุณไม่ได้ใส่คำค้นหรือคีย์เวิร์ดสำคัญลงในโปรไฟล์ LinkedIn ของคุณ
- เครือข่ายเพิ่มความน่าเชื่อถือ
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ ก็คือการเพิ่มเครือข่ายของตนเองหรือที่เรียกว่า Connection ใน LinkedIn เพราะส่วนนี้จะเป็นตัวเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับคุณได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้รับการเขียนแนะนำจากบุคคลที่อยู่เหนือคุณอย่างเช่นผู้จัดการ หรือแม้แต่ลูกค้า เพื่อนร่วมงานก็ได้เช่นกัน ซึ่งมันจะทำให้โปรไฟล์ของคุณดูน่าสนใจ และบ่งบอกความเป็นตัวคุณได้มากขึ้นเยอะเลยทีเดียว แต่ต้องไม่ลืมว่าคุณควรรับแอดหรือเพิ่มรายชื่อคนติดต่อที่ตัวคุณรู้จักจริง ๆ เท่านั้น นอกจากนั้นแล้วการเพิ่มหรือเปิดให้คนที่รู้จักเท่านั้นเข้ามาอยู่ในเครือข่ายของคุณก็จะสร้างความปลอดภัยให้กับตัวคุณได้ด้วย
- Endorsement ต้องมี
หนึ่งสิ่งที่สามารถสร้างความน่าเชื่อถือของคุณได้นั่นก็คือการได้รับการยอมรับหรือ Endorsement ในทักษะต่าง ๆ ที่คุณใส่เอาไว้ในโปรไฟล์ของคุณ ถ้าหากเพื่อนร่วมงานของคุณสามารถช่วยกดบวกให้กับสกิลของคุณ ก็จะทำให้คุณน่าสนใจต่อสายตาของ Headhunters อย่างแน่นอน
- อย่าปล่อยให้ไทม์ไลน์ว่างเปล่า
ถึงแม้ว่าคุณจะมีหน้า LinkedIn แต่ถ้าหากคุณปล่อยให้หน้าโปรไฟล์ของคุณว่างเปล่า ก็คงไม่ต่างอะไรกับการที่คุณได้รับการสัมภาษณ์แต่กลับไม่มีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจเกี่ยวกับตัวคุณเลย หนึ่งสิ่งที่คุณสามารถทำได้คือการโพสต์เนื้อหางานที่คุณเคยทำมาก่อน หรือข่าวที่น่าสนใจและให้คอมเมนต์ต่อข่าวนั้น ๆ แล้วแชร์ การทำแบบนี้จะเป็นการเพิ่มความน่าสนใจให้กับตัวคุณ ทำให้คุณดูเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานที่คุณทำและที่สำคัญมันยังโชว์ให้เห็นว่าคุณรักและมี Passion ในงานของคุณอีกด้วย
- รูปภาพดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
รูปภาพคือสิ่งแรกที่คนมองเห็นบนโปรไฟล์ของคุณ ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ง่ายสำหรับการเลือกโปรไฟล์ที่ดูมีความน่าเชื่อถือและโปรเฟสชั่นนัล แต่หลายคนก็พลาดที่จะเลือกรูปภาพที่ไม่เหมาะสมสำหรับ LinkedIn เช่น การใช้รูปภาพจากการไปเที่ยว, การใส่เสื้อผ้าที่ดูเซ็กซี่เกินพอดี, หรือภาพถ่ายที่ไม่ชัดเอาซะเลย ถ้าหากคุณมีรูปภาพแบบนี้ คุณควรออกไปถ่ายรูปซะใหม่ ใส่สูทและเสื้อผ้าที่เป็นทางการให้ภาพลักษณ์มีความน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น จะช่วยให้คุณเป็นที่สนใจต่อบุคคลภายนอกมากยิ่งขึ้น
ลองเข้าไปเช็คดูโปรไฟล์ LinkedIn ของตัวเองสักนิดว่าสามารถทำตามข้อแนะนำเหล่านี้หรือไม่ หากยังก็ลองปรับดูเสียหน่อย รับรองว่าไม่นานจะต้องมีหลากหลายโอกาสทางอาชีพผ่านเข้ามาให้คุณได้มากกว่าเดิมอย่างแน่นอน
โดย สุรภา เดชนราพันธุ์ iPrice