ประโยคง่าย ๆ สั้น ๆ “ใช้ชีวิตแบบคนจน แล้วคุณจะไม่มีวันจน!” เป็นคำพูดที่คนสมัยก่อนมักใช้สอนลูกหลาน คนสมัยก่อนจะประหยัดอาจจะเพราะเคยผ่านความลำบากมาก่อน แต่ที่จริงก็ไม่น่าจะแบ่งว่าเป็นคนสมัยก่อนหรือสมัยนี้ เพราะเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคลมากกว่า ผู้เขียนเชื่อว่าคนยุคใหม่เองก็มีไม่น้อยที่รู้จักใช้เงิน แบ่งเงินเก็บออม ไม่จำเป็นว่ามีมากต้องใช้มาก เพียงแต่ด้วยความที่โลกเราอยู่ในยุคของทุนนิยมที่เน้นเรื่องของการบริโภคนิยมเป็นที่ตั้ง ผู้คนเชื่อว่าความสุขจะเกิดขึ้นได้จากการใช้เงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกินหรือเที่ยวก็เลยจัดกันเต็ม ไม่มีแล้วสำหรับคำว่าลำบากก่อนสบายทีหลัง เพราะต้องการสบายตั้งแต่วันนี้เลย
ผู้คนในยุคนี้มีแนวโน้มที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อซื้อความสุขมากกว่าคนในอดีต นี่เป็นความจริงที่ทุกคนรู้ดี เพียงแต่บางครั้งเราต้องเหมือนหยุดคิด หรือมีเบรกตัวเองไว้บ้าง การไปอ่านเจอประโยคที่เป็นข้อคิดหรือคติทำให้เราหยุด หันมาทบทวนพฤติกรรมของตัวเองว่ามีอะไรที่มากหรือน้อยเกินไป แล้วก็ปรับเปลี่ยนเพื่อให้เกิดความสมดุลมากขึ้น เหมือนอย่างที่ชาวพุทธยึดเรื่องการเดินทางสายกลาง น่าจะเป็นความสุขที่แท้จริงมากกว่า
บางคนที่ยังเรียกตัวเองว่าไม่มีหรือจน อาจเถียงว่าไม่ต้องใช้ชีวิตแบบจนก็ถูกบังคับให้ต้องมีชีวิตแบบจน ๆ อยู่แล้วล่ะ ถ้าความคิดเริ่มต้นของคุณเป็นแบบนี้ แสดงว่าคุณไม่รู้ถึงความหมายเบื้องลึกเบื้องหลังของข้อความนี้ นำไปคิดและประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับชีวิต มีบางคนบอกว่าเห็นคนเก็บขยะ เขากินอาหารถูก ๆ ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ เขาก็ยังคงจนอยู่ ส่วนเจ้าของร้านทอง กินอาหารในภัตตาคาร ใส่เสื้อผ้าหรูราคาแพง ก็เห็นเขาก็ยังรวยอยู่ ถ้าคุณคิดแบบนี้ก็แสดงว่าข้อความนี้คงไม่มีประโยชน์อะไรที่คุณจะเอาไปคิดต่อได้ ชีวิตคนเราจะแตกต่างกันก็อยู่ที่ทัศนคติในการมองชีวิตที่แตกต่างนี้แหล่ะค่ะ การเปิดกว้าง ยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น มีทัศนคติในเชิงบวกเท่านั้นที่จะทำให้เราก้าวข้ามกำแพงที่มีอยู่ในใจของตัวเราเองได้
“ใช้ชีวิตแบบจน แล้วคุณจะไม่มีวันจน” การใช้ชีวิตแบบคนจนไม่ได้หมายถึงให้เราต้องไปตกระกำลำบาก กินอาหารราคาถูก ใส่เสื้อผ้าเก่า ๆ ขาด ๆ แต่หมายถึงเราต้องรู้จักเลือกกิน เลือกใช้ ไม่ฟุ่มเฟือย ไม่กินทิ้งกินขว้าง หรือมีข้าวของมากมายเกินความจำเป็น ยกตัวอย่างง่าย ๆ เด็กที่จนเขาไม่มีสิทธิ์เลือกอยู่แล้ว จานอาหารที่วางตรงหน้าก็คือสิ่งที่เขาต้องทาน แต่เด็กสมัยใหม่บางคนสั่งอาหารมาทานไม่หมด ถึงเวลาก็จะอ้อนสั่งอย่างอื่นใหม่ หากอยากสอนลูกด้วยวิธีที่ถูกต้องก็คือ ต้องทานให้หมดเท่านั้นถึงจะสั่งใหม่ได้ เราต้องรับผิดชอบกับอาหารที่เราสั่งมา เด็กยุคใหม่หลายคนที่นั่งกินข้าวร้านอาหารตามสั่งไม่ได้มีเยอะมากค่ะ เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็เหมือนกัน มีเท่าที่จำเป็นก็พอ แต่บางคนกลับมีรองเท้าตั้งหลายสิบคู่ในคราวเดียวกัน มันดูจะเยอะเกินไปไหม
การอยู่ในสังคมบางครั้งเราก็จำเป็นต้องเห็นเพื่อนร่วมงานคือคนร่วมสังคมที่มีฐานะแตกต่างกัน เขาใช้ของแบรนด์เนมราคาแพง เราไม่จำเป็นต้องไขว่คว้าหาของเหล่านี้มาเป็นเจ้าของให้ลำบาก เลือกที่จะเป็นและใช้ชีวิตในแบบของตัวเองที่เหมาะสมกับฐานะและรายได้ของเรา ไม่สร้างหนี้ แล้วเราก็จะไม่มีวันจนจริง ๆ ค่ะ ถึงเราจะไม่ได้มีมากเท่าคนอื่น แต่มั่นใจได้เลยว่าเราจะไม่จนแน่ ๆ
การใช้ชีวิตแบบพอเพียงหรือในความหมายแบบจน ๆ นี่แหละที่จะบ่มเพาะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวของเราไป เราจะไม่รู้สึกว่าขาดอะไร แต่เมื่อไหร่ที่เราได้อะไรมาเพิ่ม มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีมาก ๆ ตรงกันข้ามถ้าเราใช้ชีวิตเกิน ๆ อยู่ตลอด ถึงเวลาที่เราต้องขาด มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีได้อย่างไร เปรียบเทียบง่าย ๆ ถ้าเรากินอาหารในห้างทุกมื้อ กับเลือกกิน 2-3 มื้อต่อสัปดาห์ มื้อไหนที่จะสร้างความสุขและความประทับใจให้เราได้มากกว่ากัน แถมเงินยังเหลือติดกระเป๋ามากกว่าอีกด้วย ไม่จนกรอบก่อนสิ้นเดือนแน่ ถ้าวางแผนให้ดี ๆ นี่เป็นตัวอย่างง่าย ๆ
ใครไม่เคยจนมาก่อน ก็คงยากที่จะรู้ว่าความจนมันน่ากลัวขนาดไหน และนี่เองที่เป็นที่มาของสิ่งที่รุ่นพ่อแม่ปู่ย่าตายายเราพยายามสอนอยู่เสมอ แม้ว่าปัจจุบันหลายคนจะต่อสู้จนกลายมาเป็นคนร่ำรวยได้แล้วก็ตาม ให้ลูกหลานรู้จักประหยัด ไม่ฟุ่มเฟือยเป็นพื้นฐานไว้ก่อน จากนั้นที่สำคัญคือต้องรู้จักคิดเพื่อต่อยอดสร้างความก้าวหน้าขึ้นไปให้ได้
ถ้าเรารู้จักใช้ชีวิตแบบคนจน ในความหมายที่ว่า คือให้ใช้จ่ายน้อยกว่าที่หามาได้ แบบนี้ไม่มีวันจนแน่ ๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่ใช้เงินมากเกินกว่าที่หามาได้ เรียกว่าใช้เงินแบบคนรวยทั้งที่ไม่ใช่คนรวย คุณก็จะอยู่แบบจน ๆ แบบนี้และไม่มีวันเป็นคนรวยกับเขาได้
แม้ว่าเราจะเป็นคนยุคใหม่ที่หันไปทางไหนก็มีแต่เรื่องของบริโภคนิยม แต่อย่างไรก็ขอให้มีสติ รู้เท่าทันโลกที่หมุนเวียนเปลี่ยนไป รู้ว่าตัวเราเองกำลังทำอะไรอยู่ รู้ว่าเราอยู่ในฐานะไหน รู้ว่าการใช้จ่ายของเรามากหรือน้อยเกินจำเป็น ให้สิ่งนี้เป็นพื้นฐานที่ติดตัวเราไปไม่ว่าจะที่ไหน ๆ ในทุก ๆ วัน เชื่อสิคะ! ว่าคุณจะไม่มีวันจนค่ะ