จำได้ว่าตอนเป็นเด็กโตที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากนัก สังเกตเห็นบนธนบัตรจะมีรูปของกษัตริย์ 2 พระองค์ คือ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระปิยมหาราชเจ้า รัชกาลที่ 5 และพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่เป็นพระเจ้าแผ่นดินองค์ปัจจุบันขณะนั้น ก็นึกสงสัยตามประสาเด็กว่าทำไมถึงเจาะจงนำรูปกษัตริย์ 2 พระองค์นี้มาพิมพ์ลงบนธนบัตร …และนี่เองเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้อยากเรียนรู้และศึกษาประวัติของราชวงศ์ของกษัตริย์ไทย
ถึงวันนี้ได้รู้แล้วว่าเหตุผลที่มีการนำเอารูปของรัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 9 มาพิมพ์คู่กันไว้บนธนบัตรเป็นเพราะอะไร จากจุดเริ่มต้นนั้นทำให้ต่อมาสนใจและศึกษาเรื่องราวเกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ในราชวงศ์จักรีตั้งแต่รัชกาลที่ 1 จนถึงรัชกาลที่ 9 ตู้หนังสือที่บ้านเต็มไปด้วยหนังสือพระราชประวัติและเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับแต่ละรัชกาล หลังจากที่ได้อ่านก็มีความรู้สึกว่าโชคดีมากที่ได้เกิดบนผืนแผ่นดินไทย ประเทศที่มีพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ที่ยึดถือความสุขและร่มเย็นของราษฎรเป็นที่ตั้ง
“ฉันเกิดในรัชกาลที่ 9” พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ทรงเป็นกษัตริย์ที่ครองราชย์ยาวนานที่สุด ตั้งแต่ลืมตาดูโลก จำความได้ จนถึงวันที่ 13 ตุลาคม 2560 ภาพที่พระองค์ท่านทรงงานอย่างหนักโดยไม่เห็นแก่ความยากลำบากและเหน็ดเหนื่อย สิ่งนี้เราได้เห็นมาตลอดชีวิต พ่อแม่จะชอบเปิดข่าวทิ้งไว้ จำได้ว่ากับพี่น้องเฝ้ารอดูข่าวในพระราชสำนักตอน 2 ทุ่มทุกวัน ดูเสร็จค่อยเข้านอน อยากรู้ว่าวันนี้พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปที่ใดบ้าง แม้จะไม่มีโอกาสได้เข้าเฝ้าใกล้ชิดพระองค์ท่านเหมือนกับหลาย ๆ คน แต่ก็รู้สึกตลอดเวลาว่าพระองค์ไม่ได้อยู่ไกล แต่ทรงอยู่ใกล้ ๆ เสมอ
ทุกปี วันที่ 5 ธันวาคม วันพ่อแห่งชาติ พวกเราจะเปิดทีวีรอที่จะเข้าเฝ้าพระองค์ผ่านหน้าจอ รอฟังว่าพระองค์จะมีพระราชดำรัสอะไรกับพวกเรา ทุกสิ้นปีเช่นกัน เปิดทีวีรอเพื่อเข้าเฝ้ารอรับพรปีใหม่ที่เป็นพรอันสูงสุดจากพระองค์ท่าน สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นกิจวัตรที่ต้องทำเป็นประจำของครอบครัว ทั้งติดตามข่าวพระราชสำนัก เฝ้ารอฟังพระราชดำรัส พระบรมราโชวาท เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว นำคำสอนของพระองค์มาเป็นหลักยึดเหนี่ยวในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน
ถึงวันนี้แม้เราจะต้องเจอกับความสูญเสียอย่างใหญ่หลวง บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้าอาลัย แต่สิ่งที่ได้เห็นพระองค์ท่านทำมาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ คำสอน พระราชดำรัส พระบรมราโชวาท ที่ทั้งได้ฟังเอง หรืออ่านจากแหล่งต่าง ๆ จะเป็นเหมือนคู่มือที่ดีที่สุดที่เราจะยึดถือเพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตต่อไป แม้ท่านจะจากไปแล้ว แต่ด้วยความรัก เคารพ และเทิดทูนพระองค์ท่านอย่างที่ไม่อาจพรรณนาได้ เราจึงขอสัญญากับตัวเองว่า เราจะเป็นคนดีและจะยึดคำสอนของท่านเป็นที่ตั้ง ย้ำกับตัวเองอีกครั้ง ถึงสิ่งต่อไปนี้
- พอเพียง ท่านสอนและทำให้เราเห็นว่าสิ่งสำคัญของชีวิตคืออะไร ความสุขความพอดีของชีวิตอยู่ที่ตรงไหน ทางสายกลาง รู้จักประมาณตน พึ่งตัวเองให้ได้ ไม่เบียดเบียนคนอื่น เราเชื่อแล้วว่าสิ่งเหล่านี้จะนำมาซึ่งความสุขและความมั่นคงที่ยั่งยืนให้กับชีวิตได้จริง ๆ
- ซื่อสัตย์ ไม่ว่าชีวิตที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไร เราอาจเคยทำอะไรที่ผิดพลาด ไม่ซื่อสัตย์มาบ้าง แต่ต่อจากนี้ไป เราจะตั้งใจว่าเราจะซื่อสัตย์กับตัวเองและคนรอบข้าง มีจรรยาบรรณและซื่อสัตย์ต่ออาชีพ
- ประหยัด เห็นชีวิตของพระองค์แล้วก็อดไม่ได้ที่จะหันมามองตัวเอง คำสอนที่ดีที่สุดเรื่องความประหยัดก็คือพระจริยวัตร เรื่องหลอดสีพระทนต์ เรื่องดินสอ เรื่องรองเท้า เรื่องฉลองพระองค์ และเรื่องอื่น ๆ อีกมากมาย เราได้ยินได้ฟังกันมามาก เรารู้แล้วว่าพระเจ้าแผ่นดินเป็นตัวอย่างที่ดีในเรื่องความประหยัด คราวนี้ถึงเวลาที่เราควรนำมาใช้กับชีวิตของเราจริง ๆ เสียที
- รับผิดชอบต่อหน้าที่ ทุกคนมีบทบาทและหน้าที่ที่แตกต่างกันไป เรามีลูกดังนั้นเราจะเป็นแม่ที่ดี เรามีพ่อแม่ดังนั้นเราจะเป็นลูกที่ดี เรามีสามีดังนั้นเราจะเป็นภรรยาที่ดี เรามีเจ้านายดังนั้นเราจะเป็นลูกน้องที่ดี เรามีลูกน้องดังนั้นเราจะเป็นเจ้านายที่ดี
- ไม่เลือกงานและเรียนรู้ตลอดชีวิต ท่านเคยสอนไว้ว่าคนเราไม่ควรเลือกงาน มีงานอะไรก็ให้ทำไป ถ้าเราตั้งใจไม่ว่างานอะไรก็ทำให้สำเร็จได้ ประโยคนี้จะเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานทุก ๆ อย่างต่อไปในอนาคต ท่านยังสอนเรื่องความสามัคคีว่าจะทำให้การงานต่าง ๆ สำเร็จลงได้
- ทำงานเพื่อส่วนรวม ที่ผ่านเราคิดถึงแต่ตัวเอง คิดถึงแต่ครอบครัวเรา โดยลืมไปว่าที่จริงแล้วเรายังสามารถทำอะไรเพื่อส่วนรวมได้อีกมาก แม้จะเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ถ้าร่วมแรงร่วมใจกัน มันก็กลายเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมาได้ เราตั้งใจไว้ว่าตั้งแต่นี้ต่อไปจะทำอะไรเพื่อส่วนรวมมากขึ้นให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้