เมื่อคุณเกิดความจำเป็นที่จะต้องกู้เงินกับใครสักคน สิ่งที่คุณต้องใช้เป็นหลักฐานในการกู้ยืมก็คือสัญญา ซึ่งระบุข้อตกลงระหว่างคุณกับผู้ให้กู้ไว้อย่างครบถ้วน ซึ่งหากคุณรู้ไม่เท่าทัน อ่านเพียงผ่านๆ คุณอาจตกเป็นเหยื่อของเจ้าหนี้ที่คิดไม่ซื่อกับคุณได้ และรับภาระดอกเบี้ยที่เกินขีดจำกัด จนส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางด้านการเงินได้ง่ายๆ
ดังนั้นก่อนจะกู้เงินทุกครั้ง ควรทำการกู้และอ่านรายละเอียดในสัญญาให้รอบคอบและที่สำคัญควรทำความเข้าใจกับการกูยืมเงินให้ลึกซึ้งก่อนด้วย เพื่อจะได้ไม่เสียรู้แล้วล้มละลายเพียงเพราะการกู้ยืมเงินนั่นเอง เรื่องควรรู้เกี่ยวกับการ กู้ยืมเงิน ทั้งหมด มีดังนี้
อ่านเพิ่ม ! >>> 6 ข้อคิดก่อนตัดสินใจ กู้เงิน <<<
1 . อัตราดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม
คุณควรอ่านให้ครบถ้วน ว่าอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระคืนคุณเป็นฝ่ายได้เปรียบ หรือเสียเปรียบ ซึ่งส่วนใหญ่ผู้ทำเอกสารสัญญาเป็นฝ่ายผู้กู้มักจะพลาดในส่วนนี้ ผู้ให้กู้บางราย นอกจากจะคิดดอกเบี้ยแล้ว ยังคิดค่าธรรมเนียมอื่นๆเพิ่มอีก จนส่งผลให้คุณชำระยอดเงินต้นคืนในอัตราที่น้อยมากต่อเดือน ทั้งๆที่จ่ายไปเยอะมาก เช่น ชำระรายเดือน เดือนละ 2,500 แต่ถูกหักเงินต้นคืน 1,400 บาท นอกนั้นเป็นค่าธรรมเนียมอื่นๆเป็นต้น แบบนี้ก้คงไม่ไหวเลยจริงไหม บางทีเมื่อคิดเทียบระหว่างเงินต้นกับดอกเบี้ยแล้ว ดอกเบี้ยอาจจะมากกว่าเงินต้นซะอีก
ตามกฎหมาย ผู้ให้กู้ไม่มีสิทธิ์คิดดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15/ปี หรือร้อยละ 1.25 /เดือน หากผู้ให้กู้คิดอัตราดอกเบี้ยที่เกินไปกว่านี้ คุณสามารถดำเนินการทางกฎหมายและขอจ่ายคืนเฉพาะยอดเงินต้นได้ เพราะดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมเหล่านั้นจะตกเป็นโมฆะทั้งหมด แต่ทั้งนี้จะต้องทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมายนะ เพราะหากไม่มีหลักฐานที่ชัวพอ ก็ไม่อาจจะเอาผิดหรือดำเนินคดีกับผู้ให้กู้ได้เช่นกัน
2 . รายละเอียดในหนังสือสัญญา
ถ้าผู้ให้กู้นำสัญญาเปล่ามาให้คุณเซ็นต์ คุณต้องปฏิเสธ เพราะเขามีสิทธิ์ที่จะเติมข้อมูลอะไรลงไปก็ได้ โดยเฉพาะข้อมูลที่ทำให้คุณเสียเปรียบ แต่ทำให้เขาได้ประโยชน์ ในอดีต มีหลายคนที่ต้องสูญเสียทรัพย์สินโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์เพราะการเซ็นต์กระดาษเปล่า หรืออ่านหนังสือไม่ออก บางคนต้องก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ตั้งแต่รุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูกเลยก็มี เพราะฉะนั้นในการกู้เงินสัญญาที่ถูกต้องจะต้องมีรายละเอียดครบถ้วน ถูกต้องตามกฏหมาย และหลังจากเซ็นต์เรียบร้อยแล้วจะต้องถ่ายเอกสารเก็บไว้ที่ผู้กู้อีกใบหนึ่งด้วย เพื่อความมั่นใจว่าผู้ให้กู้จะไม่นำไปเพิ่มเติมข้อมูลอีกนั่นเอง
รายละเอียดในหนังสือสัญญา จะระบุถึงจำนวนเงินต้น อัตราดอกเบี้ย และเงื่อนไขต่างๆที่ผู้กู้และผู้ให้กู้ตกลงทำสัญญาไว้ร่วมกัน รวมไปถึงรายละเอียดของบทลงโทษ กรณีที่ผู้กู้ชำระคืนไม่ตรงเวลา หรือไม่หนีหนี้ โดยจงใจหลบหน้าผู้ให้กู้ และมีเจตนาที่จะไม่ใช้คืน ซึ่งรายละเอียดเหล่านี้ สามารถนำไปดำเนินการในชั้นศาลได้
3 . กำหนดเวลาที่ต้องชำระคืน
รวมถึงรายละเอียดยอดแบ่งชำระต่อเดือน หรือต่อวัน ว่าต้องชำระเป็นเงินจำนวนเท่าไหร่ และสิ้นสุดกำหนดชำระ พร้อมปิดยอดเงินครั้งสุดท้ายวันไหน เพราะผู้ให้กู้บางคนหัวหมอ นำสัญญาที่ผู้กู้ชำระหมดไปแล้วมาฟ้องร้องเพื่อเรียกเงินต้นอีกรอบ หรือที่เราเคยได้ยินกันว่าเวียนเทียนนั่นและค่ะ สาเหตุเพราะในเอกสารสัญญา ระบุ พ.ศ.ไว้ล่วงหน้าอีก 1 ปี คิดเป็นยอดเงินค่อนข้างมหาศาล จึงทำให้ผู้ให้กู้มีช่องทางที่จะโกงเงินเราได้ ดังนั้นในส่วนนี้ห้ามมองข้ามเป็นอันขาดเลยนะ จะต้องตรวจสอบสัญญาให้เรียบร้อยทุกจุด เพราะพลาดเพียงจุดเดียวเราก้มีโอกาสที่จะโดนโกงได้สูงเลยทีเดียว
ดังนั้นก่อนทำสัญญา นอกจากจะดูยอดเงินกู้ว่าตรงกับที่ตกลงกันไว้หรือไม่ ควรมองเลยไปถึงวัน เดือน ปี มองให้ละเอียด อ่านให้ครบทุกตัวอักษร ถ้าเจอตัวไหนที่ส่อความหมายแปลกๆหรือทำให้คุณเสียเปรียบ คุณควรท้วงติงทุกครั้งให้เขาพิมพ์ใบใหม่ ไม่อนุญาตให้ขีด ลบ ขูด ฆ่า บนเอกสารสำคัญทุกกรณี
4 . เอกสารสำคัญ เซ็นต์ให้ครบและรอบคอบ
เซ็นต์ให้ถูกรูปแบบ และฟอร์มของกฎหมาย อย่าลืมระบุรายละเอียดเอาไว้ด้วยว่าคุณใช้เอกสารใบนี้เพื่อทำสัญญากับใคร บางเอกสารสัญญามักจะระบุว่าพวกเขามีสิทธิ์เผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของเราให้หน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องได้ นั่นหมายความว่า เขามีสิทธิ์จำหน่ายจ่ายแจกข้อมูลส่วนตัวของคุณให้แก่บริษัทห้างร้านอื่นๆ เช่นประกันชีวิตรูปแบบต่างๆของหลายๆบริษัท เป็นต้น ดังนั้นต้องรอบคอบอยู่เสมอ เพื่อจะได้ไม่เกิดความผิดพลาดขึ้นจ้า
อย่าลืมถ่ายวีดีโอระหว่างการทำสัญญา เพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานช่วยเหลือตัวคุณเอง หากเกิดเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดขึ้นมา เช่นการฟ้องร้อง,และขัดแย้งในแง่มุมต่างๆ คำพูดมนุษย์มักไหลลื่นไปเรื่อยตามสถานการณ์และสัญชาติญาณการเอาตัวรอด
ดังนั้น ถ้าคุณมีหลักฐานตรงส่วนนี้ คุณจะเป็นฝ่ายชนะคดีได้อย่างสวยงาม แต่ถ้าไม่เกิดอะไรขึ้น ก็เก็บมันเอาไว้อย่างนั้นแหละค่ะ ไม่เสียหายอะไร อย่าลืมว่าหากเกิดการโกงขึ้นมาจริงๆ ถ้าคุณไม่มีหลักฐานอะไรไปสู้คดีเลยก็จะทำให้คุณแพ้ได้ง่ายดายมาก เพราะฝ่ายเจ้าหนี้เขายังมีหลักฐานการกู้เงินเป็นสัญญา แม้ว่าสัญญาฉบับนั้นจะถูกแก้ไขโดยเจ้าหนี้ไปแล้วก็ตาม ดังนั้นอย่าลืมเก็บหลักฐานให้ได้สักอย่าง ซึ่งการถ่ายวิดีโอไว้ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจเช่นกัน
จำเป็นต้องใช้เงิน จะขอสินเชื่อ ศึกษาข้อมูลให้พร้อม ถ้าเตรียมตัวดีแล้ว >> สมัครเลย!