การกู้สินเชื่อบ้านส่วนมากแล้วระยะเวลาในการกู้ก็จะยาวกว่าสินเชื่อประเภทอื่น เหตุผลก็เนื่องจากว่าสินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อที่มีมูลค่ามาก อนุมัติให้กับการซื้อบ้านหรือคอนโดที่มีมูลค่าเป็นล้านบาท ทำให้เมื่อต้องผ่อนระยะเวลาก็จะยาวออกไป แต่อย่างไรโดยมากธนาคารก็จะมีระยะเวลาผ่อนให้ผู้ขอสินเชื่อเลือกตามความสามารถของแต่ละคน ผ่อนสั้น หรือ ผ่อนยาว ตั้งแต่ 3 ปี 5 ปี 7 ปี หรือ 10 ปีก็มี
สำหรับหลักการของระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนนี้ แน่นอนว่ายิ่งยาวดอกเบี้ยก็จะยิ่งมากกว่า จำนวนดอกเบี้ยที่มากกว่าก็เป็นเพราะเราผ่อนนานเป็นผลมาจากเรื่องของระยะเวลาที่นานขึ้นนั่นเอง ยกตัวอย่างเช่น หากกู้ซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท ถ้าผ่อนคืน 5 ปี จะต้องผ่อนเดือนละ 19,500 บาท แต่หากผ่อน 10 ปีต้องผ่อนเดือนละ 11,300 บาท ระยะเวลาต่างกันเท่าหนึ่ง แต่จำนวนเงินที่ต้องผ่อนรายเดือนไม่ได้ลดลงครึ่งหนึ่ง นั่นก็เป็นเพราะการจ่ายคืนที่นานขึ้น ทั้งที่อัตราดอกเบี้ยเท่ากัน
การเลือกระยะเวลาในการผ่อนชำระคืนสำหรับสินเชื่อบ้านตั้งแต่ขั้นตอนที่ขอสินเชื่อ ควรขึ้นอยู่ปัจจัยที่สำคัญมากนั่นก็คือ เรื่องของความสามารถในการชำระคืนในแต่ละเดือน ก็คือ ค่างวดบ้านรายเดือน จริงที่สุดที่ทุกคนต้องอยากจ่ายหนี้คืนให้เร็วเพื่อที่เราจะได้ปลอดหนี้เร็วที่สุด ทำให้บางครั้งเมื่อคำนวณรายได้ในช่วงที่ขอสินเชื่อ จึงเลือกโปรแกรมผ่อนคืนในระยะเวลาที่ค่อนข้างสั้นจะได้หมดเร็ว
แต่อย่างที่บอกไว้ข้างต้นว่าสินเชื่อบ้านเป็นสินเชื่อระยะยาวที่ต้องผ่อนนาน แม้จะเลือกแบบสั้นที่สุดแล้วก็ยังถือว่านานเมื่อเทียบกับสินเชื่อประเภทอื่น จำนวนเงินที่ขอกู้ก็เป็นจำนวนเงินที่มาก ระยะเวลาที่ยาวอาจทำให้เรามั่นใจไม่ได้ 100% ว่าเราจะสามารถชำระหนี้คืนด้วยค่างวดที่เราวางแผนไว้ในตอนแรกหรือไม่ ดังนั้น เมื่อต้องเลือกแผนในการคืนเงินกู้บ้าน ควรเลือกระยะเวลาที่ยาวออกไปหน่อย เพื่อให้สามารถผ่อนได้แบบสบายใจมากขึ้น เช่น จากตัวอย่างที่ว่ากู้ซื้อบ้านราคา 1 ล้านบาท หากผ่อนคืน 5 ปี ต้องผ่อนเดือนละ 19,500 บาท แต่ถ้าผ่อนคืน 10 ปี ต้องผ่อนเดือนละ 11,300 บาท การเลือกผ่อนคืนแบบ 10 ปี อาจทำให้ผ่อนสบายขึ้น
ที่สำคัญของการเลือกผ่อนคืนให้ยาวไว้ก่อน ก็คือ ความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตที่ไม่มีใครรู้ได้ ไม่ว่าเราจะทำงานประจำหรือทำงานอิสระ เป็นเจ้าของกิจการหรือเจ้าของธุรกิจอะไรก็แล้วแต่ หากเศรษฐกิจไม่ดีแล้วมีผลกระทบกับรายได้ของเรา ก็จะมีผลกระทบต่อเนื่องไปยังความสามารถในการจ่ายหนี้เงินกู้บ้านของเราด้วย หากเราเลือกแบบผ่อนนานไว้ก่อน เงินค่างวดที่เราต้องผ่อนรายเดือนก็จะไม่มากจนเป็นภาระกับรายได้ของเรามากนัก แม้ในช่วงที่เราต้องเผชิญกับปัญหารายได้ไม่เพียงพอ เราก็อาจจะยังสามารถผ่านเวลาช่วงนั้นไปได้ แต่หากเราเลือกจ่ายคืนเร็ว ผ่อนเร็วจ่ายมาก จริงอยู่ที่ตอนนี้เรามีความสามารถจ่ายได้แบบสบาย แต่หากมีอะไรเกิดขึ้นในอนาคตเราไม่สามารถจ่ายได้ไหว ธนาคารก็จะไม่สามารถอนุโลมอะไรให้กับเราได้ในตอนนั้น
นอกจากนั้นหากเราเลือกผ่อนนานหน่อย ค่างวดน้อยผ่อนสบายใจ หากเรามีเงินเหลือก็ยังสามารถจ่ายคืนมากกว่าค่างวดได้ หากมีเงินเหลือจ่ายคืนมากกว่าแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เงินกู้ก็จะหมดเร็วกว่ากำหนด ก็ใช้เวลาคืนไม่ถึง 10 ปี เพราะดอกเบี้ยของสินเชื่อบ้านเป็นแบบลดต้นลดดอก เมื่อจ่ายคืนเงินต้นมากขึ้น ดอกเบี้ยก็จะลดลง พูดง่าย ๆ ว่า สัญญา 10 ปี จ่ายหมดภายใน 5 ปี ได้ ในขณะที่สัญญา 5 ปี จะจ่ายคืนใน 10 ปี ไม่ได้ เพราะจะมีปัญหากับธนาคารบ้านอาจโดนยึดได้
ยิ่งหากเป็นคนที่มีรายได้ไม่แน่นอนหรือทำงานอิสระ มีค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนที่ต้องรับผิดชอบอยู่มากและไม่ค่อยแน่นอน หรือมีภาระหนี้อย่างอื่นด้วย ยิ่งควรจะเลือกผ่อนบ้านให้ยาวที่สุดเพื่อให้ค่างวดที่ต้องจ่ายในแต่ละเดือนอยู่ในระดับที่เราสามารถวางแผนจัดการได้ หรือบางคนอยากให้การผ่อนเป็นแบบค่อยเป็นค่อยไปจะได้ไม่เครียด วันนี้มีเหลือไม่เป็นไร ก็จ่ายเกิน แต่เมื่อไหร่ที่มีไม่พอก็จะได้ไม่มีปัญหาต้องมีเผื่อเหลือเผื่อขาดสำหรับรายได้ของเราที่ต้องนำไปใช้กับอย่างอื่นด้วย
แต่ก็เห็นมีหลายคนเหมือนกันที่อยากผ่อนบ้านให้หมดเร็ว ๆ แล้วก็กัดฟันทำจนสำเร็จ คนที่จะทำได้แบบนี้ต้องมีวินัยทางการเงินที่สูงมาก ต้องมีรายได้ที่ค่อนข้างแน่นอน มั่นคง มีค่าใช้จ่ายไม่มากนักและไม่มีภาระเงินกู้อื่น ๆ ก็สามารถทำได้ และหากทำได้ตามนั้นจริงก็ถือว่าดีมาก เพราะจะทำให้ดอกเบี้ยโดยรวมที่ต้องเสียตลอดระยะเวลาที่เป็นหนี้ไม่มากจนเกินไป แต่อย่างไรหากคิดจะเลือกผ่อนบ้านระยะสั้น ก็ควรต้องเผื่ออย่าถึงกับต้องจำกัดตัวเองมากทำให้บางครั้งขาดโอกาสที่จะนำเงินไปทำอะไรอย่างอื่น เช่น การลงทุนหรือการทำธุรกิจที่อาจสร้างรายได้ที่มากกว่าให้กับเราในอนาคตได้ด้วย