มีคำกล่าวของชาวยิวเกี่ยวกับการหาเงินและใช้เงินว่า ผู้ชายเป็นคนหาเงิน แต่ผู้หญิงเป็นคนใช้เงิน เป็นคำสอนเกี่ยวกับการทำการค้าของชาวยิว ดังนั้นผู้ชายชาวยิวจึงเชื่อว่า การจะหาเงินจากผู้ชายด้วยกันเป็นเรื่องยาก แต่การหาเงินจากผู้หญิงเป็นสิ่งที่ทำได้ง่ายกว่า ชาวยิวเชื่อว่า ผู้หญิงเป็นผู้ที่มีเงินอย่างแท้จริง มีเรื่องเล่าว่า เมื่อชายคนหนึ่งไปกินข้าวกับผู้หญิง และทั้งสองจ่ายเงินค่าข้าวคนละครึ่ง แสดงว่าชายและหญิงนั้นเป็นเพื่อนกัน หากผู้ชายเป็นคนจ่ายเงิน แสดงว่าชายและหญิงนั้นเป็นแฟนหรือเป็นคู่รักกัน แต่ถ้าฝ่ายหญิงเป็นคนจ่ายค่าข้าวมื้อนั้นแสดงว่า เขาทั้งสองเป็นสามีภรรยากัน เป็นเรืองเล่าที่แฝงไว้ด้วยความขบขัน แต่ก็เป็นเรื่องจริงอย่างที่สุด
เรื่องเล่าของชาวยิวนี้ สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจได้ ด้วยความที่ผู้หญิงเป็นเพศที่ชอบใช้เงิน ชอบจับจ่ายมากกว่าผู้ชาย หากเราคิดจะทำธุรกิจหรือขายสินค้า ก็ควรจะเลือกขายสินค้าที่เกี่ยวกับผู้หญิง จะทำให้ค้าง่าย ขายคล่องกว่า ผู้ชายชอบให้ผู้หญิงของตัวเองแต่งตัวสวย ส่วนผู้หญิงก็เชื่อว่า ถ้าตนเองแต่งตัวสวย ก็จะทำให้สามีหรือคู่รักของตนมีหน้ามีตา ธุรกิจใดที่ทำให้ผู้หญิงหวั่นไหวได้ ธุรกิจนั้นย่อมมีโอกาสประสบความสำเร็จ ด้วยความยึดถือหลักการเช่นนี้ ทำให้เจ้าของธุรกิจท่านหนึ่ง พลิกจากกิจการอันย่ำแย่มาสู่กิจการที่ร่ำรวยได้ ชายคนนี้ชื่อว่า Emerdon
Emerdon มีห้างสรรพสินค้าอยู่ที่ลอนดอน มีผู้คนสัญจรไปมามากมายในแต่ละวัน แต่ห้างเขาซบเซา ขายสินค้าไม่ค่อยได้ หลังจากนั้นเขาสังเกตพบว่า ลูกค้าส่วนใหญ่ของเขาเป็นผู้หญิงมากกว่า 80% นานๆถึงจะมีผู้ชายผ่านเข้ามาบ้าง
เมื่อรู้ว่า ผู้หญิงเป็นลูกค้าหลัก เขาจึงเปลี่ยนสินค้าให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ากลุ่มใหญ่ คือผู้หญิงมากยิ่งขึ้น และปรับพื้นที่ของห้างทั้งหมด เพื่อจัดวางสินค้าสำหรับผู้หญิง นอกจากนี้ เขายังสังเกตว่าช่วงกลางวัน จะมีกลุ่มแม่บ้านมาห้างของเขามากกว่าช่วงเย็นหรือค่ำ ส่วนช่วงเย็น ก็จะมีลูกค้าผู้หญิงวัยทำงานหรือสาวออฟฟิศ เข้ามาห้างมากกว่าช่วงกลางวัน เขาจึงจัดสินค้าเอาใจกลุ่มเป้าให้ถูกต้องตามช่วงเวลาอีกด้วย หลังจากเปลี่ยนแปลงเรื่องของสินค้าได้ไม่นาน ห้างของเขาก็ประสบความสำเร็จ ธุรกิจเจริญรุ่งเรืองต่อเนื่องตลอดมา เพราะเขาเห็นว่า ผู้หญิงชอบใช้เงินและอำนาจในการซื้อส่วนใหญ่อยู่ในมือผู้หญิง
สำหรับผู้อ่านที่กำลังสนใจทำมาค้าขาย แต่ไม่รู้จะขายสินค้าอะไรดี ลองนำไอเดียเรื่องการขายสินค้าให้กับผู้หญิงไปยุกต์ใช้ดู เช่น เสื้อผ้า เครื่องแต่งตัว เครื่องประดับ เพราะธรรมชาติของผู้หญิงรักสวยรักงามและชอบแต่งตัว ลองค้าขายสิ่งของเหล่านี้ดู จะพบว่าขายง่าย ขายคล่องกว่าสินค้าของผู้ชายเยอะเลย สิ่งสำคัญต้องจับความสนใจของผู้หญิงให้ได้ และหาสินค้ามาตอบสนองความต้องการของเธอ เคล็ดลับอีกประการหนึ่งคือ ผู้หญิงชอบการสัมผัส เวลาซื้อของจะต้องลองหยิบ ลองจับ ก่อนตัดสินใจซื้อ ดังนั้นต้องจัดวางสินค้าให้เธอเข้าถึงง่าย และสัมผัสได้ แม้กระทั่งของกิน เช่น คุกกี้หรือลูกอม พวกเธอชอบชิมและชอบที่จะสัมผัสของกินนั้นด้วย
เมื่อรู้ความลับของผู้หญิงแล้ว หากคุณผู้อ่านเป็นผู้ชาย ก็จงยอมรับเถอะว่า เมื่อเป็นสามีภรรยากันแล้ว ผู้มีอำนาจในการใช้เงินจริงๆก็คือผู้หญิง หากคุณผู้ชายจะจัดการเงินของครอบครัว ได้โปรดเข้าใจในธรรมชาติและความต้องการของพวกเธอด้วย เพราะไม่อย่างนั้น ถ้าขัดใจเธอบ่อยๆ ความรักอาจร้าวฉานได้ แต่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะชอบแต่งตัว และชอบซื้อข้าวซื้อของกันทุกคน สิ่งที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเกร็ดความรู้ที่ชาวยิวใช้ในการทำการค้ามาอย่างยาวนาน แต่ปัจจุบัน ยุคสมัยเปลี่ยนไป วิถีชีวิตของผู้หญิงสมัยนี้ก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกัน หลายๆคนอาจมีวิธีคิดเรื่องเงินแตกต่างไปจากนี้ หรือถึงขั้นตรงกันข้ามเลยก็ได้ แต่เชื่อว่าเกร็ดความรู้ในบทความนี้จะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจเรื่องการเงินของผู้หญิงและผู้ชายได้บ้างไม่มากก็น้อย