การใช้ชีวิตคู่หรือการแต่งงานถือว่าเป็นความใฝ่ฝันของชายหญิงแทบจะทุกคน เพราะคนเราเกิดมาไม่สามารถที่จะใช้ชีวิตอยู่ได้ด้วยตัวคนเดียว การมีคู่ชีวิตหรือคู่ครองนั้นจึงเป็นเรื่องธรรมชาติเป็นสัจธรรมของโลกที่ถูกสร้างขึ้นมาให้เป็นไปตามครรลอง ทว่าการใช้ชีวิตคู่นั้นไม่ได้หมายความว่านี่คือจุดสูงสุดหรือจุดที่ประสบความสำเร็จในชีวิต หลาย ๆ คนมองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เริ่มใช้ชีวิตคู่นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่แท้จริงเท่านั้น ยังจะต้องมีการฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ กันอีกมากมายกว่าชีวิตจะลงตัว
การแต่งงานเป็นเพียงฉากหน้าฉากหนึ่งในชีวิตที่มีแต่ความรื่นเริง ความยินดีปรีดา ความสุข ความสนุกสนาน แต่หลังจากแต่งงานกันแล้วสิ่งที่จะต้องตามมาสำหรับคน 2 คนยังมีภารกิจอีกหลายอย่างจะต้องรับผิดชอบ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ เป็นเรื่องที่ไม่เข้าใครออกใครและมักจะเป็นเรื่องที่สร้างปัญหาให้กับคนเรามากที่สุดไม่เว้นแม้แต่คนภายในครอบครัวหรือสามีภรรยา การจัดการและพูดคุยเรื่องเงินทองให้ลงตัวถือว่าจะช่วยลดปัญหาการใช้ชีวิตคู่ไปได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว แต่ละครอบครัวย่อมมีการจัดการปัญหาและการรับผิดชอบเรื่องเงินทองแตกต่างกันออกไป
ลองมาดูวิธีการวางแผนการเงินแบบง่าย ๆ ฉบับที่ทุกคู่สามารถนำไปใช้ได้จริงและจะไม่สร้างปัญหาในอนาคตอย่างแน่นอน
-
ต้องมีการคำนวณรายรับ รายจ่ายของทั้ง 2 คนออกมา
– อย่างที่กล่าวไปว่าแต่ละครอบครัวนั้นมีวิถีทางการเงินและการใช้จ่ายเงินที่แตกต่างกันออกไป เพราะฉะนั้นสิ่งแรกที่ควรจะทำคือต้องรู้ก่อนว่ารายรับและรายจ่ายของทั้ง 2 คนนั้นมีอยู่เท่าไหร่ เพราะจะทำให้ไม่เกิดปัญหาสร้างหนี้สินขึ้นในภายหลังจากคำพูดที่ว่า “เงินไม่พอใช้” เพราะการกู้หนี้ยืมสินมาใช้จ่ายจะส่งผลต่อชีวิตครอบครัวอย่างไม่ต้องสงสัยเลยทีเดียว
-
แบ่งเป็นเงินออมบางส่วนสำหรับอนาคต
– เมื่อมีครอบครัวแล้วย่อมต้องมีการวางแผนเพื่ออนาคตเป็นเรื่องธรรมดาไม่ว่าจะเป็นเรื่องลูก ซื้อบ้าน ซื้อรถหรือสิ่งอื่น ๆ ตามแต่ว่าคู่ไหนต้องการอะไรซึ่งปัจจัยที่จะขาดไม่ได้ในการทำเรื่องเหล่านี้ก็คือเงิน หากเรามีโครงการที่จะทำในสิ่งต่างๆ ก็ต้องเริ่มต้นรู้จักเก็บออมเงินแต่แรก พยายามอย่าคิดว่าสามารถกู้ซื้อนั่นทำนี้ได้ เพราะการที่มีเงินเก็บสะสมเอาไว้กับตัวย่อมทำอะไรได้ง่ายและคล่องตัวกว่าอยู่แล้ว และที่สำคัญพยายามมองอนาคตให้ไกลเพื่อที่จะได้มีแรงจูงใจให้เก็บเงินได้มาก อาทิ หากต้องการมีลูกต้องมองไปเลยว่ากว่าที่ลูกจะโตโดยที่เราไม่ต้องส่งเสียอะไรอีกแล้วอย่างน้อยต้องใช้เวลา 20 ปี เพราะฉะนั้นการวางแผนเก็บเงินตรงนี้ก็ต้องรัดกุมแบบสุด ๆ ซึ่งวิธีการเก็บเงินออมก็มีมากมาย เช่น ฝากธนาคาร หรือลงทุนเล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อหวังดอกเบี้ย เป็นต้น
-
ไม่ใช้จ่ายจนเกินตัว
– การที่เราจะแต่งงานกับคน ๆ หนึ่งได้คิดว่าเราก็น่าจะรู้นิสัยใจคออะไรหลาย ๆ อย่างซึ่งกันและกันมามากพอสมควร ถ้าหากรู้ว่าคู่ของเราเป็นเงินที่ใช้จ่ายเก่งก็ควรที่จะมีการจำกัดเงินให้ใช้อาจจะเป็นต่อสัปดาห์ ต่อเดือน ก็ว่ากันไป เรียกว่าให้อีกคนเป็นคนคุมเงินไปเลยจะดีกว่า เพราะถ้าเมื่อไหร่ที่เริ่มมีค่าใช้จ่ายที่เกินตัวหรือเกินความจำเป็นเกิดขึ้นในครอบครัวจะยิ่งส่งผลกระทบในระยะยาวอย่างหลีกเลี่ยงไมได้ ส่วนคนที่รู้ตัวเองว่าเป็นคนใช้เงินเก่งเมื่อมีครอบครัวแล้วก็ต้องเข้าใจในความเป็นจริงว่าไม่ได้อยู่ตัวคนเดียวอีกต่อไป ถ้าไม่สามารถจะบังคับตัวเองในเรื่องการใช้เงินได้ก็ควรที่จะให้อีกคนเป็นคนดูแลเรื่องการเงิน
-
แบ่งส่วนสำหรับการให้รางวัลกับชีวิตคู่บ้าง
– การวางแผนทางการเงินสำหรับคนหลังแต่งงานก็ไม่ใช่ว่าจะต้องประหยัด อดออมจนชีวิตคู่กลายเป็นความน่าเบื่อเสมอไป มันเป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ที่จะต้องสร้างความสุขให้กับตัวเอง เพราะฉะนั้นถ้าหากว่าพอจะมีเงินเหลือหลังจากแบ่งสัดส่วนต่าง ๆ เอาไว้เรียบร้อยแล้วก็เอามาให้รางวัลกับชีวิตคู่ดูบ้าง อาจจะเป็นมื้ออาหารนอกบ้านเล็ก ๆ, การไปเที่ยวด้วยกัน, การทำกิจกรรมร่วมกัน เท่านี้นอกจากจะไม่กระทบต่อเงินแล้วยังไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตคู่ในอนาคตด้วย
-
หากมีโอกาสก็ให้ลองหารายได้พิเศษ
– การหาเงินเพิ่มสำหรับครอบครัวถือได้ว่าเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ดีที่จะช่วยให้เราวางแผนทางการเงินได้ง่ายมากขึ้น เพราะการมีรายรับที่มากขึ้นย่อมส่งผลดีต่อครอบครัวอยู่แล้ว และยังช่วยให้คน 2 คนมีโอกาสที่จะนำเงินไปใช้จ่ายในส่วนต่าง ๆ ได้มากขึ้นอีกด้วย แต่ก็อย่าลืมว่านอกจากหารายได้แล้วให้แบ่งเวลาให้กับครอบครัวบ้างจะทำให้ครอบครัวและชีวิตคู่มีความสุขขึ้นอีกหลายเท่าตัว
การสร้างชีวิตคู่นั้นแน่นอนว่าทุกคนย่อมอยากที่จะให้สมบูรณ์แบบมากที่สุด คงไม่มีใครที่คิดว่าพอแต่งงานแล้วจะต้องเลิกรากันไป การวางแผนทางการเงินถือว่าเป็นส่วนหนึ่งสำหรับคนที่ตัดสินใจเลือกมาใช้ชีวิตคู่ร่วมกันไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็แล้วแต่ หากมีการวางแผนการเงินที่ดีชีวิตครอบครัวก็จะมีความสุข ความสบายใจและเมื่อสามารถสร้างความสุขให้กับตัวเองและครอบครัวได้นี่จะเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกได้ว่ามันช่างคุ้มค่าและภาคภูมิใจที่สุดกับการได้ใช้ชิวิตอยู่ร่วมกับคนที่เรารักไปจนวันสุดท้ายของชีวิต