ผ่านพ้นเทศกาลแห่งความรักกันไปได้ซักพัก คู่รักหลายๆคู่คงจะสวีทกันจนมดขึ้นเลยทีเดียว ส่วนหลายๆคู่ที่บ่มเพาะความรักจนสุกงอมได้ที่แล้ว คงจะเริ่มวางแผนอนาคตร่วมกันแล้วใช่ไหมครับ ทางทีมงาน Moneyhub เลยไม่รอช้า จัดทำบทความซีรี่ย์เอาใจคนมีคู่กันซักหน่อย คนโสดก็อย่างเพิ่งน้อยใจไปนะครับ เอาเป็นว่าถ้าใครยังโสดก็อ่านไว้เป็นการเตรียมพร้อมได้ครับ เพราะเราก็ไม่รู้ว่าเนื้อคู่จะมาตอนไหนใช่ไหมครับ
ซึ่งด่านแรกก่อนการจะใช้ชีวิตคู่ร่วมกันก็คือ “การแต่งงาน” นั่นเอง ซึ่งแน่นอนครับว่าทุกอย่างคงไม่ได้เซ็ตอัพมาให้เราแบบเว่อร์วังเหมือนตอนจบของละครแน่ๆ เพราะทุกอย่างคือค่าใช้จ่ายครับ !! แน่นอนว่าใช่แค่สินสอดที่เจ้าบ่าวอาบเหงื่อต่างน้ำแลกมาอย่างเดียวแน่ๆ ว่าที่คู่บ่าวสาวจะต้องปั๊มเงินกันขนาดไหน เดี๋ยวรู้เลย …
ค่าใช้จ่ายก่อนงานแต่งงาน
ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้หลักๆคือการเตรียมตัวก่อนงานแต่งงานนั่นเองครับ ได้แก่
- ค่าPre-wedding และ Presentation
บอกเลยว่าในส่วนนี้แทบจะเป็นแพทเทิร์นมาตรฐานของงานแต่งงานในอุดมคติเลยทีเดียว เชื่อว่าคู่บ่าวหลายๆคน ก็อยากจะมีรูปตั้งหน้างานเฟี้ยวๆ หรือ Presentation น่ารักๆเป็นสีสันให้แขกที่มางานได้ชมกัน หรือเก็บไว้ในอัลบั้มไว้ให้ลูกสาวลูกชายได้ดูในอนาคต ซึ่งในส่วนนี้นะครับค่าใช้จ่ายรวมๆจะเริ่มต้นที่ประมาณ 20,000 บาท แต่ถ้าใครอยากจัดหนักจัดเต็มแบบ once in the lifetime แล้วล่ะก็ เต็มที่เลยครับในราคาไม่เกิน 100,000 บาท ซึ่งในส่วนนี้ถ้าใครมี connection ดีๆ มีเพื่อนฝูงอยู่ในวงการนี้แล้วจะโชคดีมากครับ เพราะอย่างน้อยขอส่วนลดมันซักนิดก็ยังดีนะ
- ค่าลองชุดงานหมั้น งานแต่ง
จากที่ได้ไปสำรวจมาชุดแต่งงานของเจ้าสาวราคาจะอยู่ที่ 5,000-30,000 บาท ส่วนของเจ้าบ่าวจะอยู่ที่ราคา 2,000 – 10,000 บาท ส่วนค่าแต่งหน้าทำผมจะอยู่ที่ 1,000-3,500 ซึ่งในส่วนนี้หลายๆคนอาจจะมองว่าแพงไปหรือเปล่า แต่ผมว่างานสำคัญงานหนึ่งในชีวิตแบบนี้สวยหล่อกันให้สุดๆดีกว่าครับ แต่ถ้าใครคิดว่ายังแก้ตัวงานหน้าได้ก็แล้วแต่ครับ ตึ่งโป๊ะ !!
- ค่าใช้จ่ายในการเชิญแขกและที่ต้องสำรองจ่าย
ค่าใช้จ่ายในการเชิญแขกนั่นก็คือ การ์ดเชิญ และ ของชำร่วยนั่นเองครับ ซึ่งโดยทั่วไปๆของชำร่วยราคาจะเริ่มต้นที่ 4,000 บาทขึ้นไป ส่วนการ์ดเชิญจะอยู่ที่ 1,000-20,000 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสเกลงานของแต่ละคู่แล้วครับว่าเชิญแขกกันมาขนาดไหน ก็อาจจะมากหรือน้อยกว่านี้ได้ครับ ส่วนค่าใช้จ่ายที่เราต้องสำรองจ่ายก่อนนั้นในกรณีที่เราจัดในโรงแรม ก็จะมีค่าสถานที่และค่าอาหารบางส่วน
ค่าใช้จ่ายระหว่างงานแต่งงาน
- ค่าอาหารและค่าโรงแรม
ถึงจะเป็นค่าใช้จ่ายที่ได้สำรองจ่ายไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมีค่าตกแต่ง โดยรวมราคาจะเริ่มต้นที่ 100,000 บาทครับ ซึ่งถ้าใครที่มีพิธีการที่สามารถจัดที่บ้านได้ก็จะประหยัดไปได้มากเลยครับ
- ค่าดนตรีสดเล่นในงานและค่าตากล้อง
งานแต่งทั้งทีก็ต้องมีดนตรีบิ้วท์ๆบรรยากาศให้ดูโรแมนติกกันซักหน่อยใช่ไหมครับ จากที่เราไปสำรวจมาราคาจะอยู่ที่ 7,000 บาทขึ้นไปครับ และที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตากล้องผู้บันทึกความทรงจำครั้งหนึ่งในชีวิตของเรานั่นเอง แต่งงานทั้งทีก็เก็บทั้งภาพนิ่งและวิดีโอสิครับ แต่คงไม่ต้องถึงขนาดเป็น 3D ก็ได้ครับ โดยราคาจะอยู่ที่ 10,000 บาทครับ ถ้าใครมีเพื่อนสนิทมิตรสหายอยู่ในสายติสต์ สายนักดนตรี ที่ไหว้วานกันได้ก็อาจจะสบายหน่อย
ค่าใช้จ่ายหลังแต่งงาน
ในส่วนนี้อาจจะไม่เกี่ยวกับงานแต่งงานโดยตรงซักเท่าไร หลายๆคู่ก็อาจจะมีไป Honeymoon กัน ซึ่งค่าใช้จ่ายก็แล้วแต่คู่บ่าวสาวแล้วครับว่าจะเล่นใหญ่กันขนาดไหน จะเที่ยวไทยช่วยไทย หรือไปสวีทกันแบบโกอินเตอร์ที่เมืองนอก แต่อย่าลืมครับว่าหลังจากที่เราทั้งคู่ได้ประกาศให้โลกรู้แล้วว่าจะเป็นสามีและภรรยากัน ชีวิตเราก็ไม่ใช่ตัวคนเดียวอีกต่อไปครับ ภาระค่าใช้จ่าย ในชีวิตประจำวันต้องเพิ่มขึ้นจากเดิมเกือบๆเท่าตัวแน่นอน ทั้งนี้ก็แล้วแต่ข้อตกลงของคนสองคนแล้วล่ะครับ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับสำหรับคนที่ จะแต่งงาน วางแผนค่าใช้จ่าย แบบนี้ คงเห็นแล้วว่างานแต่งงานนี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆเลยนะครับ ถ้าเรามีการวางแผนทางการเงินที่ดีแล้วบอกเลยว่าไม่มีปัญหาอย่างแน่นอน แต่ทั้งหมดที่เรามาฝากในวันนี้เป็นแค่ค่าใช่จ่ายหลักๆบางส่วนเท่านั้นสำหรับงานแต่งงาน จริงๆแล้วยังมีค่าใช้จ่ายหยุมหยิมอีกมากมาย ทั้งนี้ทั้งนั้นคงไม่มีคงใครทราบดีเท่าผู้ที่อาบน้ำร้อนมาก่อนอย่างพ่อกับแม่ของเราหรือญาติผู้ใหญ่แน่ๆ ซึ่งอาจจะเป็นที่ปรึกษาชั้นดีของเราได้เลยครับ แม้ว่ายุคสมัยอาจจะเปลี่ยนไปซักหน่อยก็ตาม
หากใครชอบบทความนี้ก็อย่าลืมแชร์ผ่านทาง FB หรือ แบ่งปันเพื่อนๆกันบ้างก็ดีนะครับ และในตอนหน้าเราจะกลับมาพบกันเหมือนเดิมกับตอนต่อไปของซีรี่ย์สุดฟรุ้งฟริ้งชุดนี้ สปอยล์กันซักหน่อยแล้วกันว่าใครกำลังวางแผนอยากมีเจ้าตัวเล็กไว้เป็นโซ่ทองคล้องใจแล้วล่ะก็ห้ามพลาดเลยครับ สำหรับวันนี้ Moneyhub สวัสดีครับ.