กลับมาพบกันอีกแล้วกับตอนที่สองของบทความซีรี่ย์เอาใจคู่ข้าวใหม่ปลามัน หลังจากตอนที่แล้วที่เราพูดถึงค่าใช้จ่ายของการแต่งงานกันไปแล้ว แน่นอนครับว่างานวิวาห์หวานชื่นได้จบลง สิ่งที่เพิ่งจะเริ่มต้นนั่นก็คือความเป็นครอบครัว โดยครอบครัวที่สมบูรณ์นั้นก็คือครอบครัวที่มี “เจ้าตัวเล็ก” นั่นเอง แต่ขอบอกไว้เลยว่าการจะมีเจ้าตัวเล็กหรือลูกที่น่ารักๆสักคนเนี่ย ไม่ใช่เรื่องเล็กๆเลย เพราะตลอดการเจริญเติบโตของพวกเขา ก็เติบโตไปพร้อมๆกับค่าใช้จ่ายที่พ่อแม่ป้ายแดงอย่างเราต้องเตรียมเมคมันนี่รอเช่นกัน เพื่อการเติบโตที่มีคุณภาพของลูกน้อยของเรานั่นเอง วันนี้ทาง Moneyhub จึงได้รวบรวมค่าใช้ตลอดช่วงวัยของการมีลูก ไว้ให้ผู้อ่านที่น่ารักได้เตรียมตัวกัน
อ่านตอนแรก : ชีวิต(คู่)ดี๊ดี The series : จะแต่งงาน วางแผนค่าใช้จ่าย หรือยัง ?
มาถึงตรงนี้หลายๆคนอาจจะ งง ว่า “เห้ย !! เรายังไม่เคยมีลูกเลยนะ จะเข้าใจไหมเนี่ย” เอาเป็นว่าเพื่อให้เห็นภาพกันง่ายๆและเข้าใจตรงกัน ผมของแบ่งเป็นสองช่วงเวลานั่นคือ ค่าใช้จ่ายช่วงแรกเกิด กับ ค่าใช้จ่ายช่วงก่อนวัยเรียนแล้วกันนะครับ
ค่าใช้จ่ายช่วงแรกเกิด
โดยระยะเวลาช่วงนี้ผมจะเริ่มต้นตั้งแต่ตั้งครรภ์เลยนะครับ
- ฝากครรภ์
เมื่อว่าที่หม่าม๊ารู้ว่ากำลังมีเบบี๋อยู่ในท้องแล้ว หลังจากนี้จนกระทั่งคลอดก็จะเป็นหน้าที่ของหมสูตินารีแพทย์เป็นผู้ดูแลแล้วครับ หรือเรียกกันว่า “การฝากครรภ์” นั่นเอง ซึ่งก็จะมีการตรวจละเอียดตั้งแต่ซักประวัติ ตรวจสุขภาพโดยรวม ตรวจเลือด และปัสสาวะ อัลตร้าซาวนด์ ตรวจเจาะน้ำคร่ำ และเจาะตรวจรก ฯลฯ โดยจะมีค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ที่ 10,000-30,000 บาท ถ้าหากว่าที่คุณแม่คนไหนยังอายุเยอะซักนิดนึง หรือเรียกแบบเฟี้ยวฟ้าวซักหน่อยว่าสามสิบยังแจ๋ว ก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายในส่วนนี้มากสักหน่อย เพราะจะต้องมีการตรวจดาวน์ซินโดรม ตรวจหลายๆอย่างเพิ่ม ซึ่งถือว่าคุ้มค่าครับเพื่อแลกกับสุขภาพที่ดีของเจ้าตัวเล็กของเรา
- การคลอด
ในส่วนนี้ผมจะขอพูดถึงค่าใช้จ่ายของ รพ.รัฐบาลนะครับ ส่วนของเอกชนนั้นราคาก็มีทั้งสูงลิบลิ่วแตกต่างกันไปตามนโยบายแต่ละที่ด้วยการบริการที่สะดวกสบายกว่าตามราคาครับ โดยค่าใช้จ่ายทำคลอดของ รพ.รัฐบาลนั้นจะเริ่มต้นที่ 6,000 บาท (ไม่รวมค่าห้องพิเศษ) ถ้าเป็นการคลอดธรรมชาติจะอยู่ที่ 20,000 – 30,000 บาท แต่ถ้าเป็นการผ่าคลอดก็จะอยู่ที่ 40,000-45,000 บาท
- ค่าใช้จ่ายของลูกน้อย
ค่าใช้จ่ายก็จะได้แก่ค่ารักษาพยาบาล ค่าข้าวของเครื่องใช้ เช่น นมผง เสื้อผ้า ผ้าอ้อม ในส่วนนี้อาจจะไม่สามารถสรุปได้ตายตัว เอาเป็นว่าให้รู้จักจ่าย รู้จักเลือก โดยไม่ต้องคำนึงถึงยี่ห้อดังไฮโซเว่อวัง แต่เน้นไปที่คุณภาพในสิ่งที่จำเป็น เลือกที่เป็นประโยชน์สูงสุดสำหรับลูกน้อยของเราดีที่สุดครับ
ค่าใช้จ่ายช่วงก่อนวัยเรียน
เมื่อเจ้าตัวเล็กเติบโตมาได้ระดับหนึ่งที่สามารถออกจากอกปะป๊าหม่าม๊าได้แล้ว ทีนี่ต้องมีผู้ช่วยมารับช่วงต่อแล้ว
- เลี้ยงเอง
สำหรับใครที่เป็นแม่บ้านหรืออยู่เป็นครอบครัวใหญ่มีปู่ ย่า ตา ยาย พี่ ป้า น้า อา เต็มบ้านแล้วล่ะก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ไปได้มากเลยครับ อาจจะมีแค่ค่าใช้จ่ายในส่วนของเครื่องใช้ส่วนตัวเจ้าตัวเล็กเท่านั้นเอง อีกทั้งยังเป็นการดูแลด้วยตัวเราเองหรือโดยญาติพี่น้อง ซึ่งสร้างความอุ่นใจให้ว่าที่คุณพ่อคุณแม่ได้มากกว่าที่จะฝากไว้ที่ใครอื่นแน่ๆ รวมถึงเจ้าตัวเล็กยังได้เติบโตท่ามกลางความอบอุ่นของครอบครัวอีกด้วยครับ
- เนอสเซอรี่และพี่เลี้ยงเด็ก
อีกทางเลือกสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่คงไม่พ้นเนอสเซอรี่อย่างแน่นอน เพราะมีความพร้อมทั้งสุขอนามัย ผู้ดูแล ที่ครบครัน อีกทั้งลูกน้อยยังได้พัฒนาการจากการอยู่ร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ซึ่งจ่ายเป็นเทอมเหมือนโรงเรียนเลยครับ โดยจะอยู่ที่เทอมละ 3,000-5,000 บาท แต่ถ้าหากใครอยากให้ลูกน้อยสปีคอิงลิชตั้งแต่ยังละอ่อน ต้อนรับประชาคมอาเซียนแล้วล่ะก็ อาจจะค่าใช้จ่ายสูงซักนิดถึงเทอมละ 20,000-25,000 บาทเลยครับ หรือถ้าใครอยากไพรเวทกว่านี้ โดยจ้างพี่เลี้ยงเด็กส่วนตัวไปเลย ก็จะจ่ายเป็นเดือนครับ เฉลี่ยเดือนละ 8,000-18,000 บาทครับ
แหม่.. เห็นอย่างนี้แล้วอย่าเพิ่งถอดใจกันไปนะครับคุณพ่อคุณแม่ป้ายแดงทุกท่าน ค่าใช้จ่ายทั้งหมดทั้งมวลนี้ก็เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีสำหรับเจ้าตัวน้อยของเราทั้งนั้นเลย ยังไงก็ดูไว้เป็นแนวทางและวางแผนการเงินกันให้ดีๆ อย่ามัวแต่สวีทหวานดื่มน้ำผึ้งกันอยู่นะครับ สำหรับบทความครั้งต่อไปเราก็ยังอยู่ที่เจ้าตัวเล็กเหมือนเดิม แต่เพิ่มคือ !! เมื่อเจ้าตัวเล็กเข้าโรงเรียน
พ่อแม่มือใหม่อย่างพวกเราต้องเตรียมรับมือกับค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง ต้องรอติดตามในบทความหน้าครับ สำหรับวันนี้ Moneyhub สวัสดีครับ