ทันทีที่ฝ่ายชายเอ่ยปากขอฝ่ายหญิงแต่งงาน นั่นแสดงว่าเขารู้ตัวแล้วว่ามีความพร้อมที่จะดูแลฝ่ายหญิงไปตลอดชีวิต แต่ความพร้อมนั้นเกิดขึ้นเพียงฝ่ายเดียว สิ่งที่ควรตามมาหลังจากคำขอแต่งงานและการตอบรับก็คือ การวางแผนเรื่องการเงินนั่นเอง
คุณสองคนควรจับเข่าคุยกัน และทำการตกลงกันให้เรียบร้อยในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรายได้ เงินออม เงินค่าใช้จ่ายในส่วนต่างๆ เป็นต้น เพราะเรื่องเหล่านี้ ถือเป็นเรื่องที่จำเป็นอย่างมากในการใช้ชีวิตร่วมกัน และส่งผลถึงความราบรื่น รวมไปถึงความสุขในการอยู่ร่วมกันอีกด้วย ซึ่งวันนี้เราก็มีแนวทางในการ วางแผนค่าใช้จ่ายก่อนสมรส มาฝากกันด้วย ว่าแล้วไปดูกันเลย
-
แยกให้ออกระหว่าง เงินของฉัน,เงินของเขา,และเงินของเรา
ต่อให้คุณสองคนแต่งงานกันแล้วก็ตาม ช่องว่างส่วนตัวก็ยังมีอยู่ เพราะก่อนที่เขาจะมามีคุณ เขาก็มีสังคมมีเพื่อนฝูงของเขา คุณเองก็เช่นกัน นอกจากเพื่อนฝูงแล้วคุณยังมีอีกหลายๆกิจกรรมที่อยากทำ หากคุณสองคนไม่มีเงินส่วนตัวแล้วล่ะก็ ชีวิตคู่ของคุณคงเต็มไปด้วยปัญหาโดยไม่ต้องคาดเดาเสียให้ยาก ซึ่งแน่นอนว่าการจะนำเงินมารวมเป็นเงินกองกลางเพียงอย่างเดียวคงไม่ได้หรอก เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะมีเงินส่วนตัวและอิสระส่วนตัวจริงไหม
ก่อนอื่น คุณควรทำการตกลงกันให้แน่นอน เรื่องเงินส่วนตัวของคุณกับเขา ว่าจะแยกออกมาจากรายได้คนละเท่าไหร่ ไม่จำเป็นต้องเท่ากันเสมอไป เพียงแต่คุณต้องเคารพการตัดสินใจของคู่ชีวิตบ้างเพียงเท่านั้น อีกทั้งการตกลงก่อนล่วงหน้ายังลดปัญหาชีวิตคู่ไปได้มากเลยล่ะ
หลังจากนั้นก็มาคุยเรื่องเงินของเรา ซึ่งเงินกองกลางนี้แหละที่จะมีบทบาทมากที่สุดในชีวิตคู่ เพราะต้องใช้กับทุกเรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้าน อย่าลืมเลือกคนที่จะมาบริหารจัดการให้เรียบร้อย ว่าจะเป็นตัวคุณเอง หรือเป็นหน้าที่เขา โดยคำนึงถึงวินัยด้านการเงินของแต่ละคนเป็นหลัก
-
ตั้งเป้าหมายร่วมกันเป็นหนึ่งเดียว
ถ้าคุณสองคนมีความคิดที่ไปกันคนละทาง ชีวิตนี้ คุณสองคนก็จะไม่มีวันประสบความสำเร็จกับชีวิตคู่ได้ เพราะการตั้งเป้าหมายคนละทิศทางนั้น จะส่งผลให้คุณประสบแต่ความล้มเหลว ต้องล้มลุกคลุกคลานตลอดเวลา ตรงกันข้าม ถ้าคุณสองคนมีความเห็นที่ตรงกัน คุณก็จะร่วมมือกันลองผิดลองถูกจนเกิดความชำนาญ และก้าวหน้าในกิจการที่ร่วมกันสร้างตามที่หวังไว้
แนะนำให้คุณเปิดใจ รับฟังเหตุผลอย่างเป็นกลาง อย่าใช้ความอคติส่วนตัวมาเป็นประเด็นในการขัดแย้ง เพราะความคิดของคนๆเดียว อาจไม่ใช่เรื่องถูกต้องเสมอไป ทางที่ดีควรพูดคุยและตกลงตั้งเป้าหมายร่วมกันจะดีกว่า ซึ่งเป้าหมายนั้นจะต้องเป็นสิ่งที่คุณทั้งคู่คิดเห็นตรงกันด้วยนะ
อ่านเพิ่มเติม >>> คู่มือหนุ่มสาวยุคใหม่ วางแผนการเงิน ก่อนแต่งงาน <<<
-
ร่วมกันลงทุนในเรื่องที่คิดเห็นตรงกัน
เมื่อได้เป้าหมายร่วมกันแล้ว ขั้นต่อไปก็คือขั้นตอนของการลงทุน ตามที่คุณตกลงกันไว้แล้วก่อนหน้านี้ หน้าที่ของคุณสองคนคือร่วมกันประคับประคองและพัฒนาการลงทุนในครั้งนี้ให้เจริญเติบโต และก้าวหน้ายิ่งขึ้นไปเรื่อยๆจนเกิดผลกำไรตามที่คาดหวัง
-
หารายได้เสริมมาเติมเต็มเพื่ออนาคต
รายได้เสริมสามารถเติมเต็มได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนขั้นต่ำกับธุรกิจหยอดเหรียญประเภทต่างๆ โดยหาทำเลที่ตั้งในแหล่งชุมชน หรือถ้าคุณมีสินทรัพย์ คุณก็สามารถเปิดให้บุคคลทั่วไปมาเช่าอยู่เพื่อเพิ่มรายได้ได้อีกทางหนึ่ง แถมยังเป็นรายได้ระยะยาวที่เก็บกินได้ตลอดชีวิตอีกด้วย
หรือคุณอาจใช้ความถนัด หรือความสามารถพิเศษ มาใช้เป็นอาชีพเสริม เช่น เปิดเว็ปไซต์รับถ่ายรูปนอกสถานที่ บริการตัดต่อภาพ ,หรือตกแต่งภาพ ตามความถนัด หรือใครที่ถนัดงานฝีมืออย่างการเย็บ ปัก ถัก ร้อย ก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เพราะงานแฮนด์เมดแบบนี้ก็ราคาสูงพอสมควรเลยล่ะ
-
ถ้าไม่ไหว ก็หยุด และปรับหาวิธีใหม่ต่อไป
ถ้าลองหมดทุกวิถีทางแล้วรู้สึกว่ามันไม่รุ่งเรือง ไม่ประสบความสำเร็จ หรือไม่ไหวอีกแล้ว ก็ควรหยุดทุกอย่าง แล้วหาเวลาไปพักผ่อนเพื่อเติมเต็มไอเดีย และปรับอารมณ์ที่ขุ่นมัวของคุณทั้งคู่ ก่อนที่จะมาเริ่มวางแผนกันใหม่ และสู้ต่อไปด้วยกันอีกครั้งหนึ่ง
คงไม่ดี หากคุณจะฝืนดึงดัน ยืนกรานที่จะทำตามแผนการเงินฉบับเดิมที่ไม่เคยได้ผล จนต้องทะเลาะกันในที่สุด หากเป็นแบบนี้แล้ว คุณจะยิ่งเบื่อหน่ายชีวิตคู่มากขึ้นเรื่อยๆ และอาจพัฒนาไปถึงจุดแตกหักได้ในที่สุด
ทั้งหมดนี้ หากคุณทำได้ก็ถือว่าถึงเส้นชัยในการใช้ชีวิตคู่โดยไม่ต้องคาดเดาอะไรอีกแล้ว เพราะความคิดเห็นที่ตรงกัน ย่อมนำมาซึ่งความสำเร็จและอนาคตที่ดีของทุกชีวิตในครอบครัว และที่สำคัญ ครอบครัวของคุณก็จะเป็นครอบครัวที่เต็มไปด้วยความสุข และมีสุขภาพจิตดี เพราะปลอดปัญหาเรื่องการเงินไปตลอดชีวิตนั่นเอง
วางแผนค่าใช้จ่ายก่อนสมรส จะช่วยลดปัญหาการเงินในช่วงชีวิตหลังแต่งงานไปได้มากทีเดียว อีกทั้งยังทำให้ชีวิตคู่มีความสุขมากขึ้นอีกด้วย เพราะฉะนั้นก่อนแต่งงานหรือจะใช้ชีวิตร่วมกัน ลองมาวางแผนการเงินร่วมกันดู โดยเฉพาะการแบ่งเงินส่วนตัวและเงินกองกลาง เมื่อตกลงกันได้ ปัญหาการเงินระหว่างคู่ชีวิตก็จะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน