มาตรการช่วยลูกหนี้ ล่าสุด ปรับอัตราผ่อน พร้อมขยายเวลาให้
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นเรื่อย ๆ หลายคนต้องเผชิญกับปัญหาหนี้สินที่พอกพูน ไม่ว่าจะเป็นหนี้บัตรเครดิต หนี้บ้าน หรือหนี้บัตรกดเงินสด แต่วันนี้มีข่าวดีสำหรับลูกหนี้ทุกคน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออก มาตรการช่วยลูกหนี้ ล่าสุด ปรับอัตราผ่อน พร้อมขยายเวลาให้ ที่จะช่วยให้ประชาชนอย่างเรา ๆ บริหารจัดการ แก้หนี้ได้ง่ายขึ้น มาดูกันว่ามีอะไรบ้าง และคุณมีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลืออะไรบ้าง
มาตรการช่วยลูกหนี้ ล่าสุด คืออะไร?
ธปท. เล็งเห็นว่าปัญหาหนี้ครัวเรือนเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย จึงออกมาตรการใหม่เพื่อช่วยให้ประชาชนสามารถจัดการหนี้ได้ดีขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประเด็นหลัก
-
- ลดภาระดอกเบี้ย
- ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้
- เพิ่มโอกาสในการรักษาวงเงินสินเชื่อ
มาตรการช่วยเหลือสำหรับหนี้บัตรเครดิต
- คงอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำที่ 8% แต่เดิม อัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำจะเพิ่มเป็น 10% ในวันที่ 1 มกราคม 2568 มาตรการใหม่คงอัตราไว้ที่ 8% เพื่อช่วยลดภาระการผ่อนชำระ
- เครดิตเงินคืนสำหรับผู้ชำระตรงเวลา ชำระขั้นต่ำ 8% หรือมากกว่า จะได้รับเครดิตเงินคืน ครึ่งปีแรก เทียบเท่าลดดอกเบี้ย 0.5% ครึ่งปีหลัง เทียบเท่าลดดอกเบี้ย 0.25% เครดิตเงินคืนจะถูกนำไปหักลดยอดหนี้ทุก 3 เดือน เริ่มใช้ 1 มกราคม 2568
- โอกาสคงวงเงินบัตรเครดิต สำหรับลูกหนี้ที่ชำระขั้นต่ำ 5-8% และเข้าร่วมปรับโครงสร้างหนี้ มีโอกาสคงวงเงินบัตรเครดิตส่วนที่เหลือ (เดิมวงเงินจะถูกปิดหลังปรับโครงสร้างหนี้) เริ่มใช้ภายในกันยายน 2567
มาตรการช่วยเหลือสำหรับหนี้บ้าน และสินเชื่อส่วนบุคคล
- ผ่อนปรนเกณฑ์ LTV สำหรับการรวมหนี้ สามารถรวมหนี้บ้าน และสินเชื่อส่วนบุคคลได้เกินเพดานที่กำหนด ช่วยให้ลูกหนี้จัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น โดยรวมหนี้เป็นก้อนเดียว เริ่มใช้กันยายน 2567 ถึงธันวาคม 2568
- โอกาสคงวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคล ลูกหนี้มีโอกาสคงวงเงินสินเชื่อส่วนบุคคลที่เหลือหลังรวมหนี้ ช่วยให้ยังมีวงเงินสำรองไว้ใช้ในยามจำเป็น เริ่มใช้กันยายน 2567 – ธันวาคม 2568
มาตรการช่วยเหลือสำหรับหนี้บัตรกดเงินสด
- ขยายระยะเวลาการปิดจบหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่มีสถานะหนี้เรื้อรัง (Persistent Debt: PD) ขยายเวลาปิดบัญชีจาก 5 ปี เป็น 7 ปี อัตราดอกเบี้ยยังคงไม่เกิน 15% ต่อปีช่วยลดภาระค่างวดต่อเดือน ทำให้จัดการหนี้ได้ง่ายขึ้น เริ่มใช้ 1 มกราคม 2568
- โอกาสคงวงเงินสินเชื่อหมุนเวียน ลูกหนี้มีโอกาสคงวงเงินสินเชื่อหมุนเวียนส่วนที่ยังไม่ได้ใช้ช่วยให้มีเงินสำรองไว้ใช้ในยามฉุกเฉิน เริ่มใช้ 1 มกราคม 2568
ใครบ้างที่มีสิทธิ์ได้รับความช่วยเหลือ
มาตรการช่วยเหลือนี้ครอบคลุมลูกหนี้ทุกประเภท ทั้งลูกหนี้บัตรเครดิต ลูกหนี้สินเชื่อบ้าน และลูกหนี้บัตรกดเงินสด แต่ละมาตรการอาจมีเงื่อนไขเฉพาะ เช่น:
- ลูกหนี้บัตรเครดิตที่ชำระขั้นต่ำ 8% หรือมากกว่า มีสิทธิ์ได้รับเครดิตเงินคืน
- ลูกหนี้ที่มีหนี้บ้าน และสินเชื่อส่วนบุคคล สามารถขอรวมหนี้ได้
- ลูกหนี้บัตรกดเงินสดที่มีสถานะหนี้เรื้อรัง มีสิทธิ์ขยายเวลาปิดบัญชี
ขั้นตอนการขอรับความช่วยเหลือ
- ตรวจสอบประเภทหนี้ และสถานะของคุณ
- ศึกษามาตรการที่ตรงกับประเภทหนี้ของคุณ
- ติดต่อสถาบันการเงินที่คุณมีหนี้อยู่
- แจ้งความประสงค์ขอรับความช่วยเหลือตามมาตรการที่เกี่ยวข้อง
- เตรียมเอกสารที่จำเป็น เช่น บัตรประชาชน สลิปเงินเดือน หลักฐานแสดงรายได้
- รอการพิจารณา และติดตามผล
มาตรการช่วยลูกหนี้ ล่าสุดนี้ เป็นโอกาสดีสำหรับผู้ที่กำลังมีปัญหาหนี้สิน ไม่ว่าจะเป็น การลดภาระดอกเบี้ย การผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือการเพิ่มโอกาสในการรักษาวงเงินสินเชื่อ ล้วนแล้วแต่เป็นประโยชน์ต่อลูกหนี้ทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืนนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับมาตรการช่วยเหลือเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องอาศัยความรับผิดชอบ และวินัยทางการเงินของตัวลูกหนี้เองด้วย