พ่อแม่หลาย ๆ คนในยุคปัจจุบันมักพาลูกไปเปิดประสบการณ์ข้างนอกบ้านเพื่อให้ได้เห็นโลกกว้าง วัยที่คุณพ่อคุณแม่จะพาออกไปนั้นควรรอให้เขาแข็งแรงซักหน่อย โดยส่วนใหญ่มักจะรอให้ครบ 1 เดือน พาไปโกนผมไฟกับพระสงฆ์ที่วัด หรือบางคนอาจจะรอให้ครบ 3 เดือนค่อยพานั่งรถออกไปนอกบ้าน แต่โดยปกติแล้วอาจจะพาไปหน้าบ้านรับแสงแดดยามเช้า เพื่อให้ร่างกายรับวิตามินดี กระดูกแข็งแรง แต่เป็นแดดอ่อน ๆ ในวันแม่ 12 สิงหาคม ปีนี้เป็นวันหยุดยาว ศุกร์เสาร์อาทิตย์ เรามาเตรียมตัวไปเที่ยวกันเถอะ โดยการเตรียมตัวออกนอกบ้านของเจ้าตัวน้อย เราต้องเตรียมการซื้อของดังนี้
กระเป๋าสัมภาระเด็ก
กระเป๋าใส่ของให้เด็กมีความพิเศษ ที่มีช่องเก็บของมากกว่ากระเป๋าทั่วไปเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่หยิบของแยกประเภทได้อย่างสะดวก เช่น ช่องด้านหน้าใส่ผ้าอ้อมเล็กเช็ดปาก ช่องด้านข้างใส่ขวดนม ช่องด้านหลังใส่แผ่นรองเปลี่ยนผ้าอ้อม พร้อมกับสายสะพายที่มีความแข็งแรง และพอพาดไหล่แล้วไม่เจ็บ ยี่ห้อของกระเป๋านั้นมีทั้งของไทย ของจีน และยี่ห้อดังจากฝั่งอเมริกาเช่น SkipHop โดยราคานั้นมีถูกและแพงตามยี่ห้อ ถ้าเป็นของไทยงบประมาณโดยประมาณอยู่หลัก 1,000 – 1,5000 บาท แต่ของจีนที่มีขายใน Facebook ราคาลงไปเหลือ 450 บาทแถมมีให้ถึง 3 ใบ ส่วนราคายี่ห้อจากฝั่งอเมริกาจะเป็นหลัก 3,400 บาทปลาย ๆ จนไปถึงใบละ 5,000 – 6,000 บาท ทั้งนี้หลังจากพิจารณาคุณภาพและความคงทนทานของทางฝั่งอเมริกามีมากกว่า จึงอาจจะคุ้มแก่การลงทุน เพราะต้องแบกของจำนวนมาก เช่น กระติกน้ำร้อน ผ้าอ้อมผ้า ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ขวดนม ขวดน้ำ กระดาษเปียก อาหารเด็ก แต่ถ้าคุณแม่มีเครื่องปั๊มนมก็ต้องซื้อกระเป๋าอีกใบใส่เพื่อเก็บความเย็นแยกกัน นอกจากนี้เพื่อความสะดวก กระเป๋าสัมภาระควรมีที่แขวนสำหรับแขวนไปกับรถเข็นเด็ก เพื่อความสะดวกสบาย
เสื้อกันหนาว
บางทีคุณพ่อคุณแม่พาน้องไปห้างสรรพสินค้าแอร์จะเย็นมาก บางทีอาจจะทำให้น้องป่วยหรือเป็นหวัดได้ ดังนั้นควรเตรียมเสื้อแจ๊คเก็ต หรือเสื้อที่มีหมวกในตัว (hood) โดยซื้อขนาดที่ใหญ่กว่าตัวนิดหน่อย เพราะต้องใส่คลุมทับเสื้อผ้า อาจจะหาซื้อในช่วยลดราคาเพื่อประหยัดเงิน ราคาอาจจะประมาณ 500 – 600 บาทก็เพียงพอแล้ว คุณพ่อคุณแม่รอช่วงลดกลางปี อาจจะได้ส่วนลดสูงถึง 50-70%
เสื้อผ้าสำรอง
ในกรณีพาน้องออกไปนอกบ้านอาจจะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ปัสสาวะเปื้อนเสื้อ หรืออาเจียน ดังนั้นควรเตรียมเสื้อและกางเกงที่ไม่ค่อยได้ใส่ แต่มีขนาดใหญ่เพียงพอสำรองไว้เปลี่ยนยามฉุกเฉิน การเตรียมไว้ได้ผลจริง ๆ ถึงแม้ไม่ได้ใช้บ่อยแต่มีไว้ทำให้อุ่นใจ
กระเป๋าเก็บความร้อนหรือเย็น
ถ้ากินนมแม่เตรียมไว้พร้อมกับแผ่นเจลน้ำแข็ง เพื่อรักษาความเย็นไม่ให้นมแม่ที่ปั๊มออกมาเสีย หรือถ้ากินอาหารแล้วก็เอาไว้ใส่ผลไม้หรือของว่างใส่กล่องพลาสติก อาหารหรือผลไม้ก็ไม่เสีย หรือเอาไว้เก็บนมผงที่ชงแล้วกินไม่หมด กินต่อได้ภายใน 2-3 ชั่วโมงก็ได้ กระเป๋าที่มีคุณภาพดี ราคาจะสูงไปด้วย ไม่ต่ำกว่า 1,000 บาท เพราะวัสดุเก็บความเย็นที่บุอยู่ภายในกระเป๋ามีราคาค่อนข้างสูง และเมื่อบวกกับชื่อยี่ห้อดัง ๆ ยิ่งแพงเข้าไปใหญ่ แต่ก็คุ้มค่าแก่การลงทุน
เป้อุ้มเด็ก
ในกรณีที่เด็กที่นั่งได้แล้ว คอแข็งแล้ว แต่ติดอุ้ม คุณพ่อคุณแม่มีวิธีผ่อนแรงลดความเหนื่อยของข้อมือ โดยการใช้เป้อุ้ม ซึ่งมีหลากหลายราคาตั้งแต่ 890 ถึง 1,290 บาท โดยเป็นยี่ห้อจากจีน แต่ถ้าเป็นยี่ห้อเกาหลีหรืออเมริกาจะมีราคาสูงขึ้นไป 4,500 – 6,000 บาท เนื่องจากวัสดุที่อ้างว่าเป็นผ้าออแกนิค หรือยี่ห้อที่ผลิตจากวัตถุดิบที่ปลอดภัยต่อเด็กน้อย แต่อุ้มนาน ๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะปวดหลังได้เนื่องจากน้ำหนักถ่วงบริเวณหลังของคุณแม่มาก ส่วนใหญ่การรับน้ำหนักของเป้อุ้มเด็กสามารถรับน้ำหนักเด็กได้ตั้งแต่ 3 – 20 กิโลกรัม
รถเข็นเด็ก
มีให้เลือกหลากหลาย เอาไว้ให้เด็ก ๆ นั่งยามไปเดินห้างสรรพสินค้า หรือในสวนสาธารณะ ช่วยผ่อนแรงคุณแม่ทำให้ไม่ต้องอุ้มตลอดเวลา ถ้ายี่ห้อดัง ๆ ราคาสูงตั้งแต่ 10,000 – 40,000 บาท ขึ้นอยู่กับ function การใช้งาน เช่น สามารถนั่งทานข้าวได้ หรือบางยี่ห้อมีรุ่นที่น้ำหนักเบา พกพาสะดวก (รถเข็นมีน้ำหนักต่ำกว่า 3.6 กิโลกรัม) คุณพ่อคุณแม่อาจจะซื้อในงานแฟร์ เช่น Baby Best Buy (BBB) เป็นต้น ซึ่งจะได้ส่วนลดพิเศษ ส่วนมากจะอยู่ที่ 30-50% แต่ถ้าซื้อภายในห้างสรรพสินค้า อาจจะได้รับโปรโมชั่นเสริมจากการตัดแต้มบัตรเครดิตตามราคาสินค้า โดยสามารถลดเพิ่มได้อีก 11% หรือ 13% ในวันศุกร์ (โดยเป็นบัตรเครดิตของค่ายสีเขียว)
นอกจากเราต้องเสียเงินให้รถเข็นเด็กแล้ว คุณพ่อคุณแม่ต้องเตรียมเงินในกระเป๋าเพิ่มเติมอีก เพราะมันจะมีอุปกรณ์เสริม อาทิเช่น
- ที่แขวนกระเป๋า 2 ชิ้นบริเวณที่จับรถเข็นซ้ายขวา : เอาไว้แขวนกระเป๋าสัมภาระของเด็ก ๆ หรือถุงช็อปปิ้งของคุณพ่อคุณแม่ ราคาเฉลี่ย ประมาณ 300 บาท
- พัดลมเล็ก : ใช้แบตเตอรี่ เอาไว้เปิดให้ลูกยามร้อนเมื่อเข็นไปในสวนสาธารณะ ราคาเฉลี่ยประมาณ 400 บาท
- มุ้งกันยุง : ไว้สำหรับครอบรถเข็น ขณะที่ลูกนั่งอยู่ หรือนอนหลับ เพื่อป้องกันยุงมากัดซึ่งยุงนำโรคไข้เลือดออก จึงควรป้องกันให้ดี ราคาเฉลี่ย ประมาณ 200 บาท
- ปลอกคลอบที่จับรถเข็น 2 ชื้น : นำไว้ครอบบริเวณมือจับของรถเข็นซ้ายขวา เพราะถ้าไม่มีก็ไม่สามาถทำความสะอาดได้ เพื่อความสะอาดของลูกน้อย จึงควรถอดปลอกไปซักทำความสะอาด ราคาเฉลี่ยประมาณ 300 บาท
จะเห็นว่าอุปกรณ์เสริมราคาไม่ถูกและมีหลายชิ้น ดังนั้นบนรถเข็น 1 คันมีมูลค่าและรายละเอียดมากกว่าที่คิดมากมาย แต่การที่ให้ลูกได้เปิดหูเปิดตา พบเจอผู้คนบ้างทำให้เกิดการกระตุ้นสมองของเขาเสริมพัฒนาการการมองเห็น การปฎิสัมพันธ์กับคน ไม่กลัวคน สมองได้พัฒนา จึงมีข้อดีอยู่มาก แต่ออกไปข้างนอกต้องระวังเรื่องความสะอาดเช่นกัน เพราะเชื้อโรคเยอะ เราไม่รู้ว่าใครป่วยบ้าง กลับบ้านมาจึงต้องล้างมือทั้งเราและลูกให้สะอาด
ผู้เขียน:
