วิธีการ เพิ่มกำไร ให้กับธุรกิจของคุณในช่วงเศรษฐกิจขาลงนั้น อาจถูกมองเป็นเรื่องยากเกินกว่าที่จะทำได้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากวิกฤต Sub-Prime ที่มีต้นกำเนิดมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา หรือที่ทางกลุ่มนักลงทุนในประเทศไทยได้ขนานนามเอาไว้ว่า “วิกฤตแฮมเบอร์เกอร์” นั่นเอง
ซึ่งในปีล่าสุด ผลกระทบในประเทศไทยเริ่มกระจายตัวออกไปในวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ มีหลายกิจการที่ต้องปิดตัวลง และบางกิจการมีความจำเป็นต้องปลดพนักงาน หรือเลิกจ้างจนเป็นข่าวครึกโครมตามหน้าหนังสือพิมพ์ ในขณะที่บางบริษัทก็เริ่มส่งสัญญาณออกมาอย่างเห็นได้ชัด และเพื่อชะลอวิกฤตเศรษฐกิจภายในประเทศครั้งนี้ กลุ่มนักลงทุนไทยได้แนะนำกลยุทธ์ต่างๆเพื่อเพิ่มผลกำไรไว้ดังนี้
-
เดินหน้า หากลุ่มลูกค้าใหม่
หากกลุ่มลูกค้าเดิม ไม่ค่อยทำกำไรเข้าสู่บริษัทตามที่คุณคาดหวังไว้ คุณก็ต้องเดินหน้าหาลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้นมาเติมเต็มยอดขายตรงส่วนนั้น เช่น จากเดิมคุณมียอดขายจากร้านค้าที่เปิดตามห้างสรรพสินค้าต่างๆ แต่หลังจากหักค่าเช่าให้ทางห้างไปแล้วคุณก็แทบไม่เหลือผลกำไร หากเป็นแบบนี้ คุณก็ต้องเปิดพื้นที่ขายสินค้าออนไลน์เพื่อดึงลูกค้าใหม่มาเพิ่มยอดขายและผลกำไรต่อไป หรือไม่ก็พยายามสร้างแบรนด์ใหม่ให้กับสินค้าของคุณขึ้นมาเพื่อให้เป็นที่ต้องการของลูกค้ากลุ่มใหม่ด้วยนั่นเอง ทีนี้จากมีกลุ่มลูกค้าเพียงกลุ่มเดียว ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองกลุ่ม รายได้ก้ย่อมเพิ่มมากขึ้นจากเดิมอย่างแน่นอน
-
จัดการการเงินในบริษัทอย่างรอบคอบ
คุณไม่ควรปล่อยปละละเลยให้ฝ่ายบัญชีทำหน้าที่ควบคุมทรัพย์สินในบริษัทเพียงฝ่ายเดียว ควรลงไปมีบทบาทและคอยตรวจสอบเอกสารการเงินอย่างละเอียดอยู่บ่อยๆ เพื่ออุดรอยรั่วในองค์กร และป้องกันการทุจริตภายในที่อาจเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ ทั้งนี้ก็เพราะบริษัทส่วนใหญ่มักจะเกิดปัญหาทางการเงินอยู่เสมอเมื่อปล่อยให้ฝ่ายบัญชีทำหน้าที่เพียงฝ่ายเดียว เนื่องจากมักจะถูกยักยอกหรือทุจริตเงินไปนั่นเอง ดังนั้นจึงควรรอบคอบอยู่เสมอ และหมั่นตรวจสอบการเงินของบริษัทอยู่เสมอด้วย
อ่านเพิ่มเติม >> 5 เทคนิค ลดค่าใช้จ่าย เพื่อให้บริษัทอยู่รอด! <<
-
กำหนดเป้าหมายเพื่อดำเนินการ
คุณควรกำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน เพื่อที่จะได้กระจายเป้าหมายสู่ผู้ใต้บังคับบัญชาได้ง่ายขึ้น เช่น ครึ่งปีแรก คุณตั้งเป้าหมายไว้ที่จำนวนเงินเท่าไหร่ คุณก็ต้องทำการประชุมกับทีมผู้บริหาร เพื่อหาทางทำให้มันเป็นไปได้ต่อไป
หลังจากนั้น คุณก็นำเป้าหมายที่สรุปผลได้มาแยกย่อย แล้วส่งมอบหน้าที่งานให้กับผู้ที่อยู่ใต้บังคับบัญชา อย่าลืมชักชวนพวกเขาเข้าร่วมประชุมเพื่อซักซ้อมแผนดำเนินการ เพื่อให้ทิศทางการทำงานสอดคล้องซึ่งกันและกัน และสร้างผลกำไรได้ตามที่คุณตั้งเป้าไว้
-
ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เป็นเครื่องมือ
ปัจจุบัน ถือเป็นยุคของข้อมูลข่าวสารทางอินเตอร์เน็ต ที่สามารถส่งต่อได้อย่างรวดเร็ว หรือที่เราเรียกกันว่ากระแสไวรัล คุณสามารถใช้ช่องทางนี้ในการประชาสัมพันธ์ธุรกิจของคุณได้ และช่วยในเรื่องยอดขายได้จริง โดยไม่ต้องสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสำหรับพื้นที่หน้าร้านอีกต่อไป อีกทั้งยังทำให้สินค้าของคุณเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางและแพร่หลายมากขึ้น ภายในเวลารวดเร็ว โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากเลย
-
ปรับปรุงในด้านการให้บริการ
ลูกค้าคือผู้ที่กำเงินมาเป็นผลกำไรเข้าสู่บริษัทคุณ ดังนั้น ไม่ว่าพวกเขาจะมีพฤติกรรมเช่นไรก็ตาม คุณก็ต้องให้ในสิ่งที่เขาคาดหวังได้เต็มร้อยที่สุด เพราะนั่นหมายถึงผลกำไรมากมายที่จะผันเข้าสู่บริษัทของคุณแบบปากต่อปาก
ลูกค้าทุกคนคาดหวังการให้บริการที่เป็นเลิศ โดยสามารถวัดได้จากตัวคุณเอง เมื่อคุณตกอยู่ในสถานะลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นที่ไหนก็ตาม คุณเองยังคาดหวังให้พนักงานมาบริการคุณอย่างดีที่สุด ลูกค้าของคุณก็เช่นกัน พวกเขาต่างก็มีความคาดหวังเช่นนั้น
ดังนั้น คุณควรปรับปรุงการให้บริการโดยฟังความเห็นจากลูกค้าส่วนใหญ่เป็นหลัก และในขณะเดียวกัน คุณก็ต้องรับฟัง และมีความยุติธรรมกับทีมงานของคุณด้วย ซึ่งหากพบว่าตรงไหนควรปรับปรุง ก็ควรปรับปรุงแก้ไขซะ แล้วธุรกิจของคุณจะดีขึ้น พร้อมกำไรที่เพิ่มพูนอย่างแน่นอน
-
กระตุ้นยอดขายด้วยการฝึกอบรมพนักงาน
พนักงาน คือแรงขับเคลื่อนกลุ่มใหญ่ในองค์กรที่มีระดับความสำคัญค่อนข้างสูง คุณควรเพิ่มขวัญและกำลังใจให้แก่พวกเขาด้วยการตั้งรางวัลผลตอบแทน สำหรับผู้ที่ทำยอดขายได้ทะลุเป้าหมายในแต่ละเดือน รวมถึงการกระตุ้นพลังบวกในตัวพวกเขาด้วยการฝึกอบรมอยู่บ่อยๆ
การฝึกอบรมนั้นถือเป็นวิธีที่ง่าย และได้ผลจริง โดยวัดจากธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยหลายๆบริษัท ที่มีพนักงานมากกว่า 100คนขึ้นไป ซึ่งการกระตุ้นพนักงานด้วยการฝึกอบรมอยู่บ่อยนั้น จะช่วยให้ยอดขายและผลกำไรในบริษัทของคุณเพิ่มขึ้นจนคาดไม่ถึงเลยทีเดียว
-
จัดระบบผู้แทนขาย หรือตัวแทนจำหน่าย
การจัดระบบผู้แทนขาย หรือตัวแทนจำหน่ายสามารถเพิ่มฐานการผลิตและการจัดจำหน่ายที่เข้มแข็งให้กับธุรกิจของคุณมากยิ่งขึ้น โดยเปิดประมูลให้ผู้ที่สนใจมาร่วมลงทุน และกระจายยอดขายให้กว้างขึ้นกว่าเดิม ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ระหว่างระบบขายขาด หรือระบบขายฝาก ตามแต่จะทำการตกลงกัน
ซึ่งการพัฒนาเศรษฐกิจในช่วงขาลงนั้น ไม่ใช่เรื่องยาก และไม่ใช่เรื่องที่เป็นไปไม่ได้ เพราะยุทธวิธีเหล่านี้ที่กลุ่มนักลงทุนได้รวบรวมคำแนะนำมานั้น เป็นวิธีที่ใช้ได้ผลจริงมาแล้วในหลายๆธุรกิจ และที่สำคัญ ยังใช้ระยะเวลาในการเพิ่มผลกำไรที่ไม่นานจนเกินรออีกด้วย ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้กันดู