กำลังสร้างครอบครัวอยู่ใช่หรือไม่ และกำลังเริ่มเจอะเจอกับปัญหามากมายที่ยังไม่อาจจะหาข้อลงตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการปรับตัวเข้าหากันหรือแม้กระทั่งการจัดการเรื่องรายได้ของกันและกัน ซึ่งเคยเป็นเรื่องส่วนบุคคลมาก่อนแต่ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องของกันและกันไปแล้ว แน่นอนว่าต้องมีปัญหาตามมามากมายแน่นอน ดังนั้นเรามาดูกันดีกว่าข้อคิด เรื่องเงินและชีวิตคู่ ที่หนูก้อยได้จากหนูแก้วนี่มีอะไรบ้างที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
หนูก้อย : เราเหนื่อยจังเลยหนูแก้ว ทำไมช่วงนี้เราเหนื่อยเรื่องแฟนเราขนาดนี้ก็ไม่รู้ รู้สึกว่ามีแต่ปัญหาตลอด
หนูแก้ว : เพิ่งจะเข้ามาอยู่ด้วยกันไม่ใช่หรอ ปัญหาก็เยอะอย่างนี้แหล่ะ ต้องค่อยๆปรับกันไป คนโตมาไม่เหมือนกันมาอยู่ด้วยกัน ไม่มีปัญหาเลยสิแปลก ว่าแต่มีเรื่องอยากเล่าหรือเปล่าถึงมาหาเราที่ทำงานเนี่ย
หนูก้อย : ก้ว่าจะมาถามเรื่องนี้นี่แหล่ะว่าทำอย่างไงดี เราไม่อยากทะเลาะกันถึงจะยังไม่ทะเลาะกันก็เถอะ เราไม่อยากให้ต้องมีปัญหาทั้งที่เพิ่งจะมาอยู่ด้วยกันได้ไม่นาน
หนูแก้ว : ก็ดีแล้ว มีอะไรก็คุยกันดีๆ แล้วจะไม่มีปัญหาแน่นอน ว่าแต่มีปัญหาเรื่องอะไรหรอ
หนูก้อย : ก็เราวางแผนว่าจะซื้อบ้านกับซื้อรถกันใช่ไหมล่ะ แต่ตกลงกันไม่ได้ว่าจะเอาเงินจากไหนมาซื้อ เงินก้อนที่เราเก็บไว้ทั้งคู่ก็ว่าจะเอาไปใช้ตอนแต่งงานมากกว่าน่ะ ถึงจะเหลือเวลาอีก 2 ปีก็เถอะเราไม่อยากดึงเงินนี้ออกใช้น่ะ
หนูแก้ว : ตอนนี้ยังอยู่คอนโดกันใช่ไหมล่ะ อยากได้บ้านหรือรถคงต้องเลือกแล้วล่ะ แต่ถ้ายังไม่ใช้เงินเราว่าจะซื้อรถก่อนก็ได้นะ ออกมาเอาเข้าไฟแนนซ์จะได้ส่งไม่มากต่อเดือน แล้วค่อยแบ่งพวกเงินเดือนมาจ่ายเอา เอาเป็นว่าหนูก้อยคิดว่าอะไรสำคัญกว่าก็เลือกอันนั้นแหละก่อนเลย
หนูก้อย : เราก็คิดแบบนั้นนะ แต่ว่าเราไม่มีเงินเหลือกันเลยน่ะสิ มีเหลือเท่าไหร่ก็เอาเก็บไว้ใช้ตอนแต่งงานหมดเลย
หนูแก้ว : งั้นเราว่าหนูก้อนกับแฟนต้องคุยกันแล้วหาทางทำให้เงินเหลือให้ได้แล้วล่ะ ไม่ต้องดึงเงินที่เก็บไว้มาใช้หรอก สร้างเงินขึ้นมาใหม่เลย เราก็ทำเหมือนกันตอนนั้น ในเมื่องานประจำมันได้เงินมาไม่พอใช้ ก็ต้องหารายได้เพิ่มมากขึ้นจากเดิม
หนูก้อย : ยังไงหรอ
หนูแก้ว : ไม่ยากเลย อันดับแรกเราก็ต้องหาปัญหาก่อนเลย เช่น
รายได้อันน้อยนิด
อันนี้คงต้องแก้ที่ตัวที่ทำรายได้ให้เราแล้วล่ะ ถ้าไม่อยากจะหางานใหม่ก็หางานพิเศษทำกัน แบบนี้เราก็จะมีเงินเพิ่มขึ้นมาได้นั่นเอง แต่ก็ต้องเลือกงานเสริมที่ไม่ส่งผลกระทบกับงานประจำด้วยนะ ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีอาชีพเสริมที่น่าสนใจเยอะเหมือนกัน แต่อย่าลืมเลือกอาชีพเสริมที่ตัวเองถนัดกันด้วยนะ
รายจ่ายมากเกินไป
นี่แบบนี้ก็แก้อะไรไม่ได้นอกจากจัดการกับการใช้เงินของตัวเองซะ อะไรที่ไม่มีหรือเกินจำเป็นก็ต้องลดลงมาบ้าง ตอนนั้นเราเริ่มจากจดลงสมุดทุกวันว่าวันหนึ่งๆเราใช้เงินกับอะไรบ้างทั้งเราทั้งแฟนเลย แล้วมาคุยกันว่าอะไรที่มันลดได้บ้าง ตอนนั้นที่เราทำคือทำกับข้าวกินเอง 3 มื้อเลยทำจากที่บ้านตอนเช้าเผื่อเอาไปกินทำงานกลางวันด้วยอะไรพวกนี้ก็ช่วยประหยัดได้เยอะเหมือนกัน ไม่ก็เปลี่ยนพวกรายจ่ายที่จ่ายถูกกว่าได้อย่างพวกค่าโทรศัพท์ อินเทอร์เน็ตอะไรพวกนี้เราก็ลดลงหมดเลย ซึ่งก็ช่วยจัดการการเงินในครอบครัวไปได้มากเลยล่ะ
หนี้สินท่วมตัว
อันนี้เราว่ามี 2 ทางคือ ขอจ่ายตามขั้นต่ำไปก่อนแต่อย่าเพิ่มหนี้สินขึ้นมาอีกล่ั เพราะจะทำให้เราเสียเครดิตเปล่าๆ แต่ถ้าไม่ไหวจริงแบบว่ามีหมายศาลมาถึงหน้าบ้านแล้วก็อาจรอคำสั่งสาลสิ้นสุดไปเลย เพราะเขาจะปรับหนี้ลงมาให้อยู่ระดับที่เราจ่ายได้ แต่แน่นอนว่าเราก็ต้องพยายามจ่ายด้วยเช่นกัน ตอนกู้ซื้อบ้านซื้อรถยนต์จะได้ไม่มีปัญหานั่นเอง อย่าลืมนะว่าคนที่เคยติดแบล็คลิสเรื่องการกู้ยืมเงินมาก่อน จะทำธุรกรรมการเงินได้ยากมากทีเดียว หรืออาจทำไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นอย่าให้ชื่อของตัวเองต้องติดแบล็คลิสจะดีกว่านะ
แบ่งความรับผิดชอบในการใช้จ่ายเงินกันให้ดี
ว่าใครจ่ายอะไร แบ่งให้ชัดเจนไปเลย จะได้ไม่มีปัญหาว่าใช้เงินของคนไหนแค่คนเดียว เดี๋ยวจะกลายเป้นปัญหาได้ในอนาคตตอนที่คนที่จ่ายไม่อยากรับผิดชอบตรงส่วนนี้แล้ว ซึ่งเดี๋ยวนี้ก็มีตัวอย่างให้เห็นเยอะอยู่เหมือนกัน กับปัญหาครอบครัวที่เกิดจากการรับผิดชอบอะไรร่วมกัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักจะมีปัญหาเมื่อหย่าร้างกันไปนั่นเอง
ความซื่อสัตย์และความเข้าใจกัน
เราว่าเรื่องนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเราจะใช้ชีวิตร่วมกันแต่ไม่มี 2 สิ่งนี้นี่ยากมาก ไอ้ที่เราพูดมาทั้งหมดหรือที่หนูก้อยวางแผนครอบครัวมาทั้งหมดก็อาจจะล่มได้ ดังนั้นเราแนะนำให้ไปคุยกันให้เข้าใจอย่าใช้อารมณ์เด็ดขาด เพราะเรื่องพวกนี้อ่อนไหวอยู่บ้าง อย่างที่บอกแหล่ะคนเพิ่งอยู่ร่วมกันต้องปรับตัวกันอีกเยอะ ดังนั้นใจเย็นๆไว้เป็นดี และควรสร้างความซื่อสัตย์และความไว้วางใจต่อกัน เป็นอันดับแรกเลยล่ะ
หนูก้อย : เราว่าทางนี้ก็ดี เดี๋ยวเราลองกลับไปคุยกับแฟนอีกทีแล้วกัน ได้ความว่าไงเดี๋ยวเราโทรบอกนะ
หนูแก้ว : จ้า