เมื่อการใช้ชีวิตในแต่ละช่วงเวลา แต่ละช่วงของเรายังไม่เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นวัยเรียน วัยทำงาน หรือจะเป็นวัยกลางคนที่มีครอบครัว จนไปถึงวัยเกษียณ จึงทำให้การใช้เงินในแต่ละช่วงชีวิตก็จะต้องไม่เหมือนกันแน่นอน ดังนั้นเรามีวางแผนการเงินตามช่วงอายุกันดีกว่า
เริ่มจากวัยเรียนกันก่อน
ซึ่งเดี๋ยวนี้เด็กป.1 ก็เริ่มพกเงินไปโรงเรียนกันแล้ว เพราะฉะนั้นการวางแผนการเงินสำหรับวัยเรียนนั้นมักไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไร เพราะส่วนใหญ่คือการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันเพียงอย่างเดียว เช่น ซื้อน้ำ ขนม อาหาร อาจจะมีของเล่นบ้างนิดหน่อยสำหรับเด็กเล็ก แต่ถ้าเป็นเด็กในช่วงวัยรุ่นก็อาจจะมีเสื้อผ้า รองเท้า ของประดับได้บ้าง เพราะฉะนั้นสิ่งที่ควรจะต้องสอนกันตั้งแต่เด็กๆ ก็คือ เมื่อได้เงินมาแล้วจะต้องแบ่งใส่กระปุกก่อนที่จะเอาเงินออกไปใช้ และเวลาที่จะใช้เราจะต้องคิดให้ดีก่อนว่าสิ่งนั้นจำเป็นจริงๆ หรือเปล่า และเราไม่จำเป็นต้องใช้เงินให้หมดในทุกๆ วัน
วัยเพิ่งเริ่มทำงาน
ก็คือ เด็กจบใหม่ที่เริ่มทำงาน เป็นช่วงที่เริ่มหาเงินใช้ได้เองโดยที่ไม่ต้องขอจากพ่อและแม่ เป็นช่วงที่ยังไม่มีภาระค่าใช้จ่าย ทำให้มีอิสระในการใช้จ่ายเงินมากขึ้นจากวัยเรียน เพราะฉะนั้นจะต้องเริ่มวางแผนทางการเงินกันตั้งแต่เนิ่นๆ ของชีวิตการทำงาน คือ ควรจะแบ่งเงินออกเป็นส่วนๆ เช่น เงินออม เงินสำหรับใช้จ่ายประจำวัน เงินสำหรับให้พ่อและแม่ ที่สำคัญคือจะต้องแบ่งเงินมาเก็บออมก่อนที่จะนำไปใช้จ่าย เพราะในช่วงนี้สามารถถูกชักจูงให้ใช้จ่ายเงินตามกระแสสังคมได้ง่ายมากทั้งการกิน เที่ยว ซื้อของใช้ฟุ่มเฟือย ดังนั้นถ้าเริ่มวางแผนการเงินดีๆ ชีวิตในอนาคตก็จะดีตามไปด้วย
วัยสร้างครอบครัว
เมื่อทำงานได้สักระยะหนึ่งก็เริ่มรู้สึกว่ามีความมั่นคงในชีวิตระดับหนึ่ง การสร้างครอบครัวก็เป็นเรื่องที่หลายๆ คนต้องการมาเติมเต็มให้กับชีวิต เพราะฉะนั้นการสร้างครอบครัวก็ถือได้ว่าเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร เพราะนอกจากจะต้องดูแลตัวเองแล้วยังจะมีคนอื่นๆ มาให้ร่วมดูแลด้วยไม่ว่าจะเป็นคู่สมรสและลูกน้อยของครอบครัว ดังนั้นการวางแผนทางการเงินนั้นมีความเป็นอย่างมากที่จะต้องทำอย่างรัดกุม นอกจากจะจัดสรรเงินให้เพียงพอต่อการใช้จ่ายประจำวันและประจำเดือนกันแล้ว เช่น ค่ากินค่าใช้ภายในบ้าน ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าขนมและค่านมของลูก ฯลฯ เรายังจะมีค่าเทอม ค่าเรียนพิเศษที่ปัจจุบันราคาก็สูงอยู่ไม่ใช่น้อย อีกทั้งยังจะมีค่าใช้จ่ายที่ไม่ประจำเกิดขึ้นอีก เช่น ค่าประกันภัย ค่าประกันชีวิต ค่าซ่อมรถ ค่าซ่อมบ้าน ค่ารักษาพยาบาล และยังจะมีค่าอื่นๆ อีกมากมาย เพราะฉะนั้นจะต้องวางแผนการใช้เงินให้ดีและรัดกุมมาก ไม่เช่นนั้นแล้วอาจจะกระทบต่อการใช้ชีวิตของครอบครัว และสุดท้ายอาจจะต้องขอกู้ยืมเงินทั้งในระบบและนอกระบบกันเลย
วัยเกษียณอายุ
สำหรับกลุ่มคนเกษียณอายุนี้ถ้าไม่ได้ทำงานในหน่วยงานของราชการหรือรัฐวิสาหกิจก็อาจจะต้องวางแผนล่วงหน้ากันยาวๆ สักนิดหนึ่ง เพราะถึงแม้ว่าในช่วงวัยนี้ภาระต่างๆ อาจจเหลือไม่มาก เช่น ลูกๆ ที่เลี้ยงดูกันมาก็เติบโตจนทำงานกันหมดแล้ว บ้านและรถยนต์ก็ผ่อนหมดแล้ว แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่จะตามมาเป็นภาระให้กับตัวเราเองในวัยเกษียณอายุนี้ก็คือ สุขภาพที่เสื่อมโทรมลงตามอายุที่มากขึ้น มีโรคประจำตัวมากขึ้น และแต่ละโรคที่เป็นสำหรับคนในวัยนี้ก็มักจะเป็นโรคเรื้อรัง ต้องรักษากันไปตลอดชีวิต ถ้าหากเป็นข้าราชการบำนาญก็ไม่ต้องห่วงเรื่องค่ารักษาพยาบาลแถมยังได้เงินเดือนไว้ใช้ทุกเดือนอีกต่างหาก แต่ถ้าเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ไม่ได้มีเงินบำนาญเหมือนข้าราชการแล้วล่ะก็ การวางแผนทางการเงินให้ครอบคลุมถึงการมีเงินใช้ชีวิตในแต่ละวันและการรักษาโรคภัยไข้เจ็บของตัวเองนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ