ปี 2559 กำลังจะผ่านพ้นไปในอีกไม่กี่วันนี้แล้ว ปีใหม่ 2560 กำลังจะก้าวเข้ามา เมื่อถึงเวลาที่เวียนบรรจบครบรอบปีแบบนี้ ก็เป็นช่วงเวลาดี ๆ ที่เราจะได้ตั้งเป้าหมายชีวิตใหม่เพื่อรับกับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงด้วย ใคร ๆ ก็อยากให้มีแต่สิ่งที่ดีเกิดขึ้นกับชีวิตของเราตลอดปีใหม่นี้ คนส่วนใหญ่วางแผนไปไหว้พระทำบุญในช่วงปีใหม่เพื่อขอพรจากพระให้คุ้มครองให้ชีวิตของตัวเองและครอบครัวประสบแต่สิ่งที่ดี มีการงานมั่นคง มีเงินทองไหลมาเทมา ร่ำรวยทั้งเงิน ความสุขและสุขภาพแข็งแรง
บางคนพอใกล้จะถึงปีใหม่รู้แล้วว่าเป็นปีชงก็รีบทำบุญทำทานเสียยกใหญ่ สูตรไหนที่คนเขาว่าดีว่าจะสามารถช่วงแก้ปีชงได้ก็พยายามทำอย่างเต็มที่ หากทำแล้วช่วยให้เกิดความสบายใจ จิตใจปลอดโปร่งผ่องใสก็เป็นเรื่องที่ดี สิ่งใดที่ดีทำแล้วมีความสุข ทำแล้วมีแรงกายแรงใจที่จะดำเนินชีวิตที่ดีต่อไป ก็เป็นเรื่องที่ดีทั้งนั้น
ช่วงเวลาของการส่งท้ายปีเก่าแบบนี้ นอกจากวางแผนท่องเที่ยวพักผ่อนเตรียมต้อนรับปีใหม่แล้ว ยังเป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้หันมาทบทวนตัวเองกันว่าปีที่ผ่านมานั้นเป้าหมายทางการเงินที่เราได้ตั้งไว้เราทำสำเร็จหรือไม่ และก็เป็นช่วงเวลาที่ดีที่เราจะได้กำหนดเป้าหมายทางการเงินใหม่ ๆ สำหรับปีต่อไปด้วยว่าเราอยากจะทำอะไรให้สำเร็จหรือดียิ่งขึ้นไปอีกบ้างหรือไม่
- ทบทวนเรื่องราวของปีที่ผ่านมา ลองดูซิว่าที่เราเคยตั้งเป้าไว้ว่าจะเก็บเงินให้ได้เท่าไหร่ จะใช้หนี้ให้หมดหรือจะใช้จ่ายน้อยลง ปีที่ผ่านมาเราทำอะไรสำเร็จไปบ้างหรือไม่ ถ้าสำเร็จก็เป็นสิ่งที่น่าภูมิใจเพราะนั่นก็จะเป็นบันไดอีกขั้นที่เราจะกำหนดเป้าหมายที่สูงขึ้นในปีต่อไป อย่างเช่น ถ้าเราออมได้ 10% ตามเป้าหมาย ปีใหม่นี้เราก็ลองตั้งเป้าที่ท้าทายขึ้น เช่น ออมเพิ่มเป็น 20% หรือถ้าเราใช้หนี้หมดตามเป้าหมายที่วางไว้ ปีใหม่นี้ก็จะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้เริ่มเก็บออมเสียที แต่ถ้าไม่สำเร็จ ลองทบทวนดูว่าเป็นเพราะอะไรเราถึงทำไม่สำเร็จ ลองลิสต์ออกมาดู แล้วตั้งเป้าใหม่ว่าปีใหม่นี้จะต้องทำให้สำเร็จจงได้ บางคนพอหันไปมองพบว่าที่จริงแล้วเราขยันมากขึ้นกว่านี้ได้อีกนะ เราน่าจะทำอาชีพเสริมรายได้จะได้มากขึ้น แต่ปีที่แล้วไม่ได้ทำ ก็ไม่เป็นไรค่ะ อะไรที่พลาดหรือไม่ได้ทำในปีที่ผ่านมาก็เริ่มทำในปีใหม่นี้กันเลยค่ะ
- ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ท้าทายขึ้น ไม่ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นอย่างไรก็ตาม มันก็ได้ผ่านไปแล้ว เป็นสิ่งที่เรากลับไปแก้ไขอะไรไม่ได้ แต่ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี่สิที่เราควรจะต้องให้ความสำคัญมากกว่า ใช้เวลาช่วงปีใหม่นี้แหละค่ะ ไม่ต้องรอช่วงเวลาอื่น ตั้งเป้าหมายทางการเงินใหม่ ๆ ให้กับชีวิตของเรา เขียนไว้เลยว่าเราจะต้องออมเงินให้ได้ 20% ของรายได้ ถ้ากลัวพลาดเป้าเหมือนปีที่ผ่านมา เลือกเก็บออมแบบอัตโนมัติ หักบัญชีเข้ากองทุนสำรองเลี้ยงชีพให้มากขึ้น เปิดบัญชีฝากประจำ 12 เดือน หรือ 24 เดือน จะเลือกออมโดยซื้อประกันชีวิตหรือซื้อหุ้นแบบเฉลี่ยเป็นรายเดือน DCA โดยให้หักบัญชีอัตโนมัติก็ได้ ยิ่งคนที่ได้ปรับเงินเดือนเพิ่ม ก็อย่ามัวแต่คิดว่าสบายแล้วเราจะมีเงินใช้มากขึ้น หลังจากให้รางวัลกับตัวเองสำหรับงานหนักตลอดปีที่ผ่านมาแล้ว ก็อย่าลืมกำหนดสัดส่วนในการออมให้เหมาะสมกับรายได้ที่เพิ่มขึ้นของเราด้วย
- ซื้อสมุดบันทึกรายรับ-รายจ่ายเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง ไม่มีเวลาไหนจะเหมาะไปมากกว่าช่วงปีใหม่แบบนี้อีกแล้วล่ะค่ะ ไหน ๆ ก็เริ่มปีใหม่แล้ว ก็เริ่มพฤติกรรมใหม่กันด้วยดีกว่าค่ะ ว่าจะ หลายครั้งแล้ว ไม่ได้เริ่มเสียทีกับการจดบันทึกรายรับ-รายจ่ายของตัวเอง บางอย่างมันก็ยากตอนเริ่มนี่แหละค่ะ ขอเพียงเริ่มและลงมือทำพอครบเดือนเราจะเห็นเลยว่าเราใช้จ่ายไปกับเรื่องอะไรบ้าง เราจะตอบตัวเองได้ว่าค่าอาหาร ค่าเสื้อผ้า ค่าขนม ค่าของใช้ส่วนตัว ของเราในแต่ละเดือนเป็นเท่าไหร่ และมีค่าใช้จ่ายฟุ่มเฟือยอะไรที่เราใช้มากเกินไปหรือไม่ เรื่องนี้ไม่มีใครทำแทนเราได้ เราต้องทำด้วยตัวเองเท่านั้นค่ะ ถ้าทำได้ปีใหม่นี้เราจะมีชีวิตที่เป็นระเบียบแบบแผนเรื่องการเงินมากขึ้นค่ะ
- วางแผนลงทุนตั้งแต่ต้นปี คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยคิดถึงเรื่องลงทุนในช่วงต้น ๆ ปีกันค่ะ เพราะยังไม่หายเหนื่อยกับการซื้อประกันชีวิต ซื้อกองทุน LTF/RMF ไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมาเพื่อลดหย่อนภาษี เรียกว่ามาวางแผนกันเอานาทีสุดท้าย ทั้งที่จริงแล้วเราควรวางแผนลงทุนตั้งแต่ช่วงต้นปีแบบนี้แหละค่ะ การทยอยลงทุนมีข้อดีตรงที่เราจะไม่รู้สึกหนักและเหนื่อยในช่วงปลายปีและยังได้ต้นทุนแบบค่าเฉลี่ยอีกด้วย
- ตั้งใจใช้หนี้ให้หมด แรงฮึดในการใช้หนี้ก็ต้องบิวท์กันตั้งแต่ต้นปีแบบนี้ค่ะ ตั้งเป้าไว้เลยว่าเราต้องใช้หนี้ให้หมดโดยเร็วที่สุด ถ้าคนที่มีหนี้เยอะอยู่แล้วก็ให้ตั้งเป้าหมายไว้เลยว่าปีหน้านี้เราจะไม่ก่อหนี้เพิ่มอีกเด็ดขาดและจะตั้งหน้าตั้งทำงานหาเงินเพื่อให้หนี้หมดเร็วที่สุดให้ได้ ส่วนคนที่ผ่อนบ้านอยู่เมื่อได้เงินเดือนเพิ่ม ได้เงินพิเศษหรือโบนัสมาก็ให้แบ่งไปโปะหนี้บ้าน ภาระหนี้ในอนาคตจะได้ค่อย ๆ ลดลงไป
- เริ่มมองการวางแผนสำหรับเกษียณ บางคนทำงานมาตั้งหลายปีแล้วแต่ยังไม่ได้วางแผนเรื่องเกษียณของตัวเองเลย เรื่องเงินหลังเกษียณถ้าเราวางแผนและเริ่มต้นได้เร็วเท่าไหร่ เราก็จะเหนื่อยน้อยลง ถ้ารอจนตัวเองรู้สึกแก่หรือหมดแรงเมื่อไหร่ก็แปลว่าไม่ค่อยจะทันแล้วล่ะค่ะ ลองทบทวนการลงทุนในพอร์ตของเราดูบ้าง ว่ามีการลงทุนระยะยาวเพื่อเกษียณเพียงพอหรือยัง กำหนดสัดส่วนเงินออมเพื่อนำไปลงทุนซื้อ RMF บ้าง เวลาแต่ละปีผ่านไปเร็วนะคะ บางคนคิดแต่ว่ายังอีกไกล ยังอีกนาน ไม่อยากซื้อเพราะต้องซื้อต่อเนื่องและรอจนอายุ 55 ปี ตอนนี้เรามีแรงทำงานหาเงินได้ การแบ่งเงินไปซื้อ RMF บ้างเมื่อถึงเวลาเกษียณเราก็จะมีเงินก้อนแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายของเราในช่วงนั้นที่เราอาจหารายได้ได้ไม่เท่าในวันนี้ สำหรับคนที่อยู่ในวัยประมาณ 45-50 ปี การเลือกลงทุนอย่างออมหุ้น ซื้อ LTF หรือซื้อประกันชีวิตแบบออมทรัพย์ที่เป็นการลงทุนระยะยาวก็ถือเป็นการลงทุนเพื่อเกษียณของเราได้เช่นกันค่ะ
ผู้เขียนขอให้ปีใหม่ที่กำลังจะมาถึงนี้เป็นปีที่ดีของทุก ๆ คนค่ะ เป็นปีที่ทุกคนได้เริ่มต้นวางแผนการเงินกัน ได้ตั้งเป้าหมายทางการเงินที่ท้าทายมากขึ้น เป็นปีที่พอร์ตการลงทุนของทุก ๆ คนเพิ่มมูลค่าขึ้น เป็นปีที่ภาระหนี้น้อยลง มีเงินเก็บออมและลงทุนได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ เป็นปีที่ทุกคนร่ำรวยเงินทองและความสุข เป็นปีที่ทุกคนมีสุขภาพที่ดีและแข็งแรงค่ะ