ด้วยนโยบายการเงินของประเทศยักษ์ใหญ่ต่างๆ ของโลกมีผลทำให้ ค่าเงินสกุลต่างๆ มีความผันผวนอย่างมาก นักวิเคราะห์ก็คาดการณ์ลำบาก เพราะเห็นการเกิดสงครามค่าเงินรอบใหม่อย่างเห็นได้ชัดมากขึ้น เพราะแต่ประเทศต้องการให้ค่าเงินเพื่อเพิ่มรายได้ของการส่งออกสินค้าต่างๆ ให้มีมูลค่ามากขึ้น ด้วยเศรษฐกิจของโลกชะลดตัวลง ประกอบกับราคาพลังงานน้ำมันลดลงอย่างต่อเนื่อง เกิดภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศ ประเทศที่ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ต้องประสบกับภาวะรายได้ลดลงนำไปสู่งบประมาณขาดดุลอย่างประเทศซาอุดิอารเบีย เพราะส่วนหนึ่งก็มาจากเศรษฐกิจของประเทศจีนที่เริ่มสะดุด จากที่เคยมีอัตราการเจริญเติบโตของGDP มากถึง 10% ต่อปี ติดต่อกันถึง 10 ปี จากที่ประเทศจีนเศรษฐกิจเริ่มชะลอตัวลง จากที่เคยเป็นยักษ์ใหญ่ในการนำเข้าพลังงานน้ำมันของโลก ก็ลดการสั่งซื้อพลังงานน้ำมันลดลง ทำให้ราคาพลังงานน้ำมันปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่องมาตลอด
ด้านค่าเงินของประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ยุโรป ญี่ปุ่น และของเอเซียมีความสำคัญอย่างมากต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศต่างๆ เพราะทำให้การอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราในสกุลต่างๆ เพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ มีผลทำให้การส่งออก นำเข้าสินค้า ของประเทศ หรือนักธุรกิจที่ทำธุรกิจกับต่างประเทศมีกำไรมากขึ้นหรือน้อยลงได้ ดังนั้นนักลงทุน นักธุรกิจกับต่างประเทศจึงควรให้ความสนใจค่าของเงินสกุลต่างๆ เพื่อเป็นแนวทางในการทางธุรกิจการค้ากับต่างประเทศอย่างได้เปรียบ มีกำไรมาก และค่าของเงินต่างๆ นี่เองที่จะเป็นประโยชน์ต่อการลงทุน อย่าคาดไม่ถึงกันเลย
เงินสกุลหลักๆ ที่เราควรทราบ และติดตามแนวโน้นค่าเงินก็มี เงินดอลล่าร์ ที่มีแนวโน้มจะแข็งค่าขึ้น เพราะเนื่องจาก ข้อมูลทางด้านเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกามีแนวโน้นดีขึ้น นโยบายทางการเงินของสหรัฐ โดยธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ เฟดขึ้นดอกเบี้ย จึงทำให้นักลงทุนนำเงินจากตลาดเกิดใหม่ต่างๆ ไปลงทุนที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งไหลก่อนหน้าที่แล้ว และการฟี้นของเศรษฐกิจสหรัฐอเมริกา ทำให้การขาดดุลลดลงด้วย เพราะนำเข้าลดลง จากเปลี่ยนแปลงด้านพลังของสหรัฐอเมริกาที่นำเข้าเป็นอันดับหนึ่งของโลก พลังงานทีสำคัญของสหรัฐอเมริกาคือ ก๊าซธรรมชาติจากชั้นหิน Shale Gas ที่มีมากพอสำหรับใช้ภาพในประเทศ โดยในอนาคตสหรัฐอเมริกาอาจส่งออกพลังงานไปขายทั่วโลก เศรษฐกิจสหรัฐอเมริกาก็จะกลับมา จึงทำให้แนวโน้มค่าเงินดอลล่าร์จะแข็งค่าขึ้นไปเรื่อยๆ นักวิเคราะห์ให้ความเห็นว่าอาจแข็งค่าในระยะยาวก็ว่าได้ ส่วนค่าเงินยุโรปเริ่มอ่อนค่าลง เพราะธนาคารพาณิชย์ยุโรปมีปัญหาเรื่องหนี้ และเศรษฐกิจในกลุ่มยุโรปยังไม่ฟื้นตัว จึงทำให้แนวโน้มอ่อนค่าลงไปเรื่อยๆ ตรงข้ามเงินเยน ของญี่ปุ่นกลับแข็งค่ามากเรื่อยๆ
วิกฤตการณ์การเงินของโลกยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มข้น เพราะประเทศยักษ์ใหญ่ในแถบต่างๆ ของภูมิภาคของโลก ยังคงดำเนินนโยบายเศรษฐกิจแบบผ่อนคลายทางการเงินต่อเนื่องเพื่อทำให้เกิดการกระตุนเศรษฐกิจที่ยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจของประเทศเหล่านั้นจะกลับมาดีได้ รวมไปถึงเศรษฐกิจของโลกด้วยอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนอะไรก็ตาม จึงควรติดตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจโลกสักนิด รวมถึงค่าสกุลเงินของประเทศนั้นๆ โดยเฉพาะค่าสกุลเงินของประเทศที่จำเป็นต้องติดต่อทำธุรกรรมด้วยมากที่สุด เพื่อศึกษาแนวโน้ม การได้เปรียบเสียเปรียบ การได้กำไรหรือการขาดทุนนั่นเอง อีกทั้งยังเป็นการวางแผนการลงทุนที่ดีอีกด้วย
อ่านเพิ่มเติม : สรุป สถานการณ์ค่าเงินบาท ช่วงเดือนมกราคม 2559
ค่าเงินบาทของไทยเราก็อ่อนตัวมาเป็นระยะ ก็เนื่องมาจากค่าเงินดอลล่าร์ที่แข็งค่าขึ้น ตามเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาที่ฟื้นตัว อาจทำให้เป็นโอกาสของประเทศไทยที่ส่งออกสินค้าเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐอเมริกา นั้นมีมูลค่ามากขึ้นจากการอ่อนตัวของค่าเงินบาท แต่สหรัฐอเมริกาก็นำเข้าลดลง จึงทำให้โอกาสของไทยมีไม่มากนับ เพราะประเทศต้องพึ่งพาการส่งออกสินค้าต่างๆ เป็นหลักรายได้ส่วนใหญ่ของประเทศเลยทีเดียว ถ้าการส่งออกสินค้าของไทยมีสถานการณ์อย่างนี้ต่อไป ไทยเราคงเศรษฐกิจแย่อย่างไม่มีโอกาสมากนับ เพราะประเทศจีนคู่ค้าหลักสำคัญของไทยเราอีกหนึ่งประเทศ เศรษฐกิจยังชะลอตัวอยู่ ดูจากสภาวะภายในของประเทศจีนแล้ว คงต้องชะลอตัวไปอีกซักระยะหนึ่ง โดยนักวิเคราะห์ทั่วโลกยังจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่าเศรษฐกิจประเทศจีนจะกลับมาดีอย่างที่เคยเป็นหรือไม่ เหตุผลดังกล่าวจึงทำให้ประเทศไทยเราได้รับผลกระทบอีกด้านหนึ่งไปด้วย ซึ่งก็แสดงให้เห็นได้ว่าเศรษฐกิจโลก มักส่งผลกระทบต่อประเทศไทยของเราเป็นอย่างมากเสมอ ดังนั้นในการจะลงทุนอะไร จึงควรสังเกตุการณ์ให้ดี และเลือกการลงทุนที่มีความถนัดและมีความเสี่ยงน้อยที่สุด ผลประโยชน์ก็จะตกกับคุณล้วนๆ อย่างแน่นอน