นิสัย การใช้เงิน ที่ไม่ถูกต้อง เปรียบได้กับการทำความผิดพลาดที่ทำให้คนส่วนใหญ่ก้าวไปไม่ถึงบันไดแห่งความมั่งคั่ง แม้ว่าหลาย ๆ คนจะใฝ่ฝันถึงการมีชีวิตที่ดีกว่า ต้องการมีฐานะที่มั่นคง แต่บางครั้ง ลักษณะนิสัยส่วนตัวก็เป็นกับดักที่ทำให้ก้าวไม่พ้นความยากจนได้ แม้ว่าจะมีรายรับมากเพียงใด แต่หากยังมีนิสัยในการใช้จ่ายเงินแบบผิด ๆ ก็ไม่มีเงินออม ซึ่งการสำรวจตนเองว่าความผิดพลาดจากการใช้เงินของตนคืออะไรเป็นสิ่งสำคัญที่หลาย ๆ คนไม่ควรมองข้าม โดยความผิดพลาดที่เกิดขึ้นได้บ่อยจากการใช้เงินมีดังต่อไปนี้
1.ใช้เงินอย่างไร้สติ
การใช้เงินอย่างขาดสติ ไม่คิดหน้าคิดหลังก่อนใช้เงินเป็นนิสัยการใช้เงินที่ผิดพลาดอย่างยิ่ง บ่อยครั้งที่การเลือกซื้อสินค้านั้น ผู้ซื้อทราบว่าเป็นสินค้าที่ไม่จำเป็นสำหรับชีวิต แต่ทว่าหลายคนก็ไม่อาจห้ามใจได้ ปล่อยให้กิเลสเข้าครอบงำความยับยั้งชั่งใจ จนในที่สุดก็เสียเงินซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นนั่นเอง
2.ไม่วางแผนการใช้เงิน
การวางแผนการใช้เงินคือสิ่งจำเป็นที่สุดสำหรับมนุษย์เงินเดือน โดยการเริ่มต้นวางแผนการเงิน ควรเริ่มต้นเมื่อได้รับเงินเดือนแต่ละเดือน ซึ่งผู้ที่ได้รับเงินเดือนควรหักเงินออมเข้าสู่บัญชีทันทีที่เงินเดือนเข้า หลังจากนั้นจึงวางแผนการเงินเพื่อใช้จ่ายสำหรับค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน แต่ส่วนใหญ่แล้วผู้ที่ทำความผิดพลาดเกี่ยวกับการใช้เงินนั้นมักขาดการวางแผนการใช้จ่ายจนทำให้ไม่มีเงินเก็บออมในแต่ละเดือน
3.ใช้เงินซื้อความสุข
หลาย ๆ คนที่เครียดจากภาระการงานในแต่ละวัน เลือกใช้เงินซื้อความสุข ซึ่งวิธีการเหล่านี้อาจไม่ใช่วิธีการที่ถูกต้องเท่าใดนัก นอกจากนี้ผู้ที่เหงาหรือเศร้า มักจะเลือกใช้เงินเป็นวิธีแก้เหงาหรือความผิดหวัง ไม่ว่าจะเป็นการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย กินอาหารหรูหรา ซึ่งความสุขเหล่านี้มักไม่จีรังเพราะเมื่อความตื่นเต้นจากการได้รับประทานอาหารราคาแพง หรือความสุขจากการได้สินค้าใหม่ ๆ หมดลงไป ความเครียดก็กลับมาอีกครั้งได้อย่างง่ายดาย
4.ผัดวันประกันพรุ่งในการเก็บเงิน
หลาย ๆ คนไม่นิยมการเก็บออมเงิน ด้วยความคิดที่ว่ามีเงินเดือนเป็นประจำทุกเดือน เดือนหน้าสามารถเก็บได้ แต่เมื่อเดือนถัดมาก็มักใช้เงินไปกับการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย แต่สิ่งที่หลาย ๆ คนอาจไม่เคยคำนึงถึงคือ การไม่มีเงินเก็บสำรองจะทำให้ชีวิตประสบความยากลำบากในอนาคตอย่างแน่นอน เนื่องจากว่าเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดสามารถเกิดขึ้นได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นการเจ็บป่วยกะทันหันของตนเองหรือของบุพการี หากไม่มีเงินสำรองสิ่งเดียวที่ทำได้คือการกู้ยืมเงิน ซึ่งทำให้เป็นภาระและก่อให้เกิดความเครียดในภายหลังได้
5.ละเลยการลงทุน
มนุษย์เงินเดือนส่วนมากมักละเลยการลงทุน เนื่องจากว่ามองไม่เห็นผลตอบแทนเป็นรูปธรรม ทั้งที่การลงทุนในกองทุนเป็นการลงทุนที่ค่อนข้างปลอดภัยและให้ผลกำไรที่ดีอย่างไม่น่าเชื่อ ยิ่งหากผู้ที่มีนิสัยไม่ชอบการเก็บออมเงินด้วยตนเองการซื้อกองทุนเป็นประจำทุกเดือนในอัตราที่มีกำลังพอซื้อได้จะทำให้การออมเงินเป็นเรื่องง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น การทยอยซื้อกองทุนรวมทีละเดือน เดือนละ 2,000 บาท เท่านี้ก็จะสามารถเก็บเงินได้และสามารถขายทำกำไรได้อีกด้วย แม้ว่าการลงทุนในกองทุนอาจไม่เห็นผลชิงบวกในระยะเวลาอันใกล้ แต่เชื่อได้ว่าในอนาคตการลงทุนในกองทุนจะสร้างประโยชน์และผลตอบแทนให้กับเจ้าของเงินอย่างแน่นอน
6.นิยมของมียี่ห้อ
แม้ของมียี่ห้อจะเป็นสินค้าที่มีคุณภาพดีกว่าสินค้าธรรมดา แต่สินค้าแบรนด์เนมก็เป็นสินค้าที่มีราคาสูง และเป็นการลงทุนในสิ่งที่ไม่มีมูลค่าเพิ่มในอนาคตได้ ทางเลือกที่ดีสำหรับการเก็บออมเงินควรเลือกซื้อสินค้าคุณภาพดี ราคาสมเหตุสมผล ดีกว่าจะเลือกสินค้าแบรนด์เนมราคาสูง เพียงเพื่อจะมาถ่ายรูปอวดสินค้าและความมั่งคั่งลงใน Social Network
7.ใช้เงินกับการซื้อหนังสือ
เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า การอ่านหนังสือคือการติดอาวุธให้ปัญญา แต่การซื้อหนังสือในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เจ้าของหนังสือพลาดโอกาสสำคัญในการเก็บเงินได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหนังสือที่สามารถอ่านซ้ำได้เพียงครั้งเดียว เช่น แม็กกาซีน นิตยสาร วิธีแก้สำหรับผู้ที่นิยมอ่านหนังสือ แต่ต้องการประหยัดเงินคือเปลี่ยนเป็นการเช่าหนังสือทำให้ได้อ่านหนังสือในราคาที่ย่อมเยากว่า หรือการยืมหนังสือที่ห้องสมุดโดยเสียค่าใช้จ่ายเพียงแค่ค่าสมาชิกรายปีเท่านั้น
8.ตามเทคโนโลยีมากเกินไป
สินค้าที่มีราคาแพงมากที่สุดคือสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิ่งโทรศัพท์มือถือสมาร์ทโฟน ซึ่งหากผู้ใดมีนิสัยชอบวิ่งตามเทคโนโลยีอาจพลาดโอกาสในการเก็บเงินได้ เนื่องจากว่าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีนั้นค่อนข้างราคาแพง หากต้องการตามให้ทันกระแสอยู่เสมอ ผู้ซื้อจะต้องลงทุนด้วยเงินหลักหมื่น ซึ่งเงินเหล่านี้หากนำไปเก็บออมหรือลงทุนอาจให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้นก็เป็นได้
อย่างไรก็ตามหากพิจารณาแล้วว่าตนเองมีนิสัยต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้นนี้ สิ่งที่ควรทำในลำดับแรกคือการแก้ไขนิสัยตนเองเพื่อให้พ้นกับดักของความยากจน ซึ่งการพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้งจะทำให้ชีวิตมีความมั่งคั่ง ร่ำรวยและสุขสบายในอนาคตได้อย่างแน่นอน