จากข่าวนี้ ที่เอไอเอส ภายใต้บริการ mPay, ดีแทค ภายใต้บริการ Jeaw Wallet และกลุ่มทรูภายใต้บริการ True Money Wallet จะทำการเชื่อมต่อระบบอีวอลเล็ตเข้าด้วยกัน เพื่อให้บริการโอนเงินข้ามวอลเล็ตกันได้ จากเดิมที่การโอนเงินจะทำได้เพียงในอีวอลเล็ตของผู้ให้บริการแต่ละรายเท่านั้น
ซึ่งหลายคนคงรู้ดีว่าปัจจุบันคนใช้รายเดือนเติมเงินให้คนใช้เติมเงินได้แต่ต้องในเครือข่ายเดียวกัน แต่ตอนนี้แคมเปญนี้เปิดใช้บริการแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่สะดวกเพราะเชื่อว่าในแต่ละครอบครัวต้องมีบางครอบครัวที่ใช้ซิมการ์ดต่างแบบต่างค่ายกันและการเติมเงินให้กันจะเป็นเรื่องสะดวกที่นอกจากการใช้บริการเติมผ่าน เคาน์เตอร์เซอร์วิส บัตรเติมเงิน ตู้เติมเงิน หรือแม้แต่เติมผ่านอินเตอร์เน็ตแบงค์กิ้ง
ซึ่งที่มาของการให้บริการ โอนเงินข้ามค่าย โอนเงินข้ามวอลเล็ตกันได้นั้นเป็นเพราะ มีแนวคิดในการให้บริการลูกค้าเพื่อความรวดเร็วและทันสมัยสมกับเป็นยุคดิจตอลที่หลายคนนิยมใช้การโอนเงินผ่านช่องทางต่างของซิมโทรศัพท์อาทิ mPay , Jeaw Wallet , True Money ทีรองรับการทำธุรกรรมอื่นๆยกตัวอย่างเช่น บริการ mPay ที่สามารถชำระค่าบริการต่างๆได้และตอนนี้รองรับการใช้งานข้ามเติมเงินข้ามค่ายแล้วโดยดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น มาติดตั้งสามารถใช้งานได้หลากหลายเช่น จ่ายค่าสินค้า เติมเงิน จ่ายบิล ส่วน Jeaw Wallet เน้นที่การโอนเงิน จ่ายบิล แต่ยังต้องทำผ่านตัวแทนอย่าง paysbuy หรือร้านตัวแทน และ True Money ที่มีบริการหลากหลายสามารถใช้บริการผ่านซิมการ์ด และ แอพพลิเคชั่น แต่มีค่าธรรมเนียมที่แพงในการให้บริการบางอย่าง
จากการร่วมมือกันระหว่างค่ายมือถือในการให้บริการต่างค่ายแบบนี้ทำให้ผู้บริโภคได้ประโยชน์มากขึ้น ได้รับความสะดวกสบายมากขึ้น แต่ส่วนใหญ่ยังกังวลกับค่าธรรมเนียมกับการโอนข้ามเครือข่ายว่าจะแพงกว่าการใช้บริการผ่านช่องทางอื่นๆหรือไม่ นอกจากนี้ในแง่ของความสะดวกสบายแล้วเรื่องของความปลอดภัยก็เป็นอีกเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญเพราะส่วนใหญ่สามารถทำได้หลากหลายช่องทางทั้งผ่านสมาร์ทโฟน ผ่านอินเตอร์เน็ต ซึ่งต้องมีการลงทะเบียนข้อมูลต่างๆซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยได้หากมีการรั่วไหลของข้อมูล และที่สำคัญอีกอย่างคือค่าบริการที่ต้องเช็คกันให้ดีๆเพราะทุกค่ายขึนชื่อเรื่องหมกเหม็ดค่าบริการทั้งบิลมั่ว เน็ตไหล เงินหายกลางอากาศ ซึ่งหลายๆคนโดนมากับตัวกันแล้ว แม้ว่าจะสะสะดวกสบายแต่ไม่มีอะไรทีให้บริการฟรีๆ แน่นอนเพราะอย่างเติมเงินในค่ายเดียวกันค่าบริการคิดที่ 2 บาทต่อครั้งไม่ว่าจะเติมเท่าไหร่ อันนี้ไม่ต่างจากเติมตู้เติมเงิน แต่หากเป็นการบริการข้ามค่ายละจะเสียครั้งละเท่าไหร่ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่ที่แน่ๆคือควรศึกษารายละเอียดก่อนใช้บริการทุกบริการให้ละเอียดเพราะค่าบริการแต่ละค่ายไม่เหมือนกันค่าบริการแต่ละอย่างไม่เท่ากันด้วย และกติกาอื่นๆที่ต้องใส่ใจและรอบคอบก่อนเปิดใช้บริการ
แม้ว่าการร่วมมือกันครั้งนี้จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้ดีในจุดที่เน้นสะดวกรวดเร็วเข้าถึงได้ง่าย แต่เชื่อว่าหลายๆคนยังไม่ค่อยกล้าใช้บริการเหล่านี้นักเพราะด้วยเหตุผลที่กล่าวมาข้างต้น และความไม่เข้าใจของผู้ใช้เองที่กลายเป็นจุดบอดและความความสะดวกสบายจะกลายเป็นดาบสองคมเพราะหากทำผิดขั้นตอนหรือมีความผิดพลาดการตรวจสอบต่างๆจะค่อนข้างวุ่นวายและใช้เวลานานพอสมควร
ซึ่งใครที่เคยมีปัญหากับค่ายมือถือต่างๆคงพอจะรู้กันดีว่ามันชวนให้หงุดหงิดแค่ไหน แต่ไม่ว่าจะบริการนี้หรือบริการไหนๆที่มีการเงินเข้ามาเกี่ยวกับการทำธุรกรรมบนโลกออนไลน์ก็ควรระวังด้วยเช่นกันเพราะปัจจุบันการป้องกันข้อมูลยังไม่แน่นหนาพอแม้ว่าจะมีระบบต่างๆรองรับเพื่อความปลอดภัยแต่อาชญากรรมทางอินเตอร์เน็ตก็ยังคงเป็นปัญหาใหญ่ของสังคมออนไลน์ที่แก้ได้ยาก
อ่านเพิ่มเติม >> รู้ทัน โปรค่าโทรค่าเน็ต ผิดที่ใคร คนใช้หรือระบบ ? <<