ถ้าพูดถึงแรงกดดันทางธุรกิจในสภาวะปัจจุบันคงหนีไม่พ้นไวรัสโคโรนา หรือที่รู้จักกันในนาม “โควิด – 19” ซึ่งทำให้หลาย ๆ กิจกรรม โดยเฉพาะการทำธุรกิจส่งออกได้รับผลกระทบและความเสียหายในระดับที่ประเมินค่าไม่ได้ สถานการณ์นี้ยังทำให้การค้าในหลาย ๆ ประเทศต้องหยุดชะงัก การผลิตสินค้าประเภทต่าง ๆ ต้องชะลอกำลังลง ลามไปถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคและกิจกรรมทางการท่องเที่ยวที่ลดน้อยถอยลง ซึ่งน่าเป็นห่วงอย่างยิ่งว่า “เมื่อไร? ที่เศรษฐกิจและการค้าของโลกจะกลับมาคึกคักอีกครั้ง”
เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการธุรกิจต้องอยู่ในภาวะวิตกจนเกินไป วันนี้ สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานจัดโครงการอบรมและสัมมนาเพื่อสร้างความเข้าใจให้การทำการค้าการส่งออกเป็นเรื่องง่าย จึงมีเทคนิคดี ๆ มาแชร์ให้กับผู้ทำธุรกิจพร้อมกับการตั้งรับสถานการณ์โควิด-19 และใช้เวลาในช่วงสถานการณ์นี้อย่างถูกวิธี ดังนี้
· เรียนรู้เทคนิคการทำการค้าผ่านช่องทางออนไลน์
โดย NEA มีหลักสูตรต่างๆ บนแพลตฟอร์ม NEA.ditp.go.th เพื่อให้ผู้ประกอบการได้เรียนรู้ทริคต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำการค้าในโลกธุรกิจยุคใหม่ แบ่งออกเป็นกลุ่มวิชา IT for SMEs เช่น วิชาวิดีโอมาร์เก็ตติ้ง เมื่อผู้ประกอบการได้เรียนรู้ในวิชา Video Marketing นี้แล้ว จะสามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการคิดคอนเซ็ปต์ ถ่ายทำวิดีโอ สามารถผลิตและสร้างสรรค์วิดีโอได้ด้วยตัวเอง เพื่อใช้ในการต่อยอดธุรกิจขได้อย่างมีประสิทธิภาพ วิชาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการส่งออก ซึ่งสอนรายละเอียดการขายสินค้าออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่เหมาะสม เกณฑ์ในการเลือกตลาด ตลอดจนการเตรียมความพร้อมก่อนขายของ อีคอมเมิร์ซ กลุ่มวิชา New Economy Foundation เช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการค้าระหว่างประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมในการพัฒนาศักยภาพให้กับผู้ประกอบการ ให้สามารถติดต่อสื่อสารกับคู่ค้า หรือลูกค้าต่างชาติ ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
วิชาการจัดทำแผนธุรกิจการค้ายุคใหม่เพื่อการส่งออก เพื่อรับความรู้ด้านการวางแผนธุรกิจเพื่อนำไปปรับปรุงหรือพัฒนากระบวนการทำงานโดยใช้หลักวิชาการด้านการตลาดมาใช้เพื่อพัฒนากลยุทธ์ในการแข่งขันกับคู่ค้าทั้งในและต่างประเทศ และจะได้เรียนรู้ในการวางแผนธุรกิจเพื่อการส่งออกเพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิผล และกลุ่มสุดท้ายคือ กลุ่มวิชา New Economy Driver เช่น วิชาการตลาดออนไลน์ในประเทศจีน เพื่อให้ผู้เรียนได้รู้จักกับการส่งออกสินค้าไปยังประเทศจีน เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการหาช่องทางขยายตลาดไปประเทศจีนในอนาคต และวิชาเจาะลึกตลาดการค้า CLMV ที่อธิบายถึงการลงทุนใน 4 ประเทศเพื่อนบ้านว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร และควรจะมองหาโอกาสทางการค้า สร้างธุรกิจในแต่ละประเทศอย่างไร
· ติดตามข่าวให้ทันกับสถานการณ์ปัจจุบัน
ถือเป็นเรื่องจำเป็นที่สุดสำหรับกลุ่มผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศเสี่ยง อาทิ จีน เอเชีย ยุโรป สหรัฐฯ และตะวันออกกลาง ที่ควรจะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด รวมถึงศึกษาเส้นทางการเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อประเมินสถานการณ์การแพร่ระบาดโดยรอบ และนำมาวิเคราะห์สถานการณ์และหลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าไปยังพื้นที่เสี่ยง
· ชะลอการผลิตสินค้าบางส่วน
เพื่อลดปัญหาการสต็อคสินค้าเกินจำเป็น เพื่อเป็นการไม่ผลิตสินค้ามากเกินความจำเป็นกว่าความต้องการของตลาดในกลุ่มประเทศเสี่ยง รวมถึงช่วยลดต้นทุนสินค้าฟุ่มเฟือยที่ไม่จำเป็น ในภาวะที่สถานการณ์การแพร่ระบาดดังกล่าว ทวีความรุนแรงและลุกลามไปยังประเทศใหม่ๆเพิ่มขึ้น แต่ยังคงต้องติดตามสถานการณ์แต่ละประเทศว่า มีสินค้าที่มีความต้องการในการตอบสนองความต้องการในประเทศได้อย่างเพียงพอมากน้อยเพียงใด เพื่อไม่เป็นการขาดดุลการส่งออกสินค้าในบางประเภท อาทิ สินค้าทางการแพทย์ ข้าว แป้ง น้ำตาล เนื้อไก่ เป็นต้น
· เร่งทำการตลาด
ส่งเสริมการขายผ่านช่องทางออนไลน์เพิ่มขึ้น หลายปีที่ผ่านมาหลังจากเทคโนโลยี นวัตกรรมต่างๆ ได้เข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของเรามากขึ้น ส่งผลให้เห็นว่า ภาพรวมของตลาดออนไลน์ของสินค้าต่างๆยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง และสินค้าบางประเภทที่กำลังเติบโตไม่หยุด และสามารถสั่งซื้อผ่านทางออนไลน์ได้นั้น เป็นสินค้าที่มีความต้องการจากตลาดสูง อาทิ เจลล้างมือ อาหารสำเร็จรูป ข้าวถุง สบู่ กระดาษทิชชู อาจสืบเนื่องจากปัจจัยการแพร่ระบาดดังกล่าว ทำให้สินค้าบางประเภทมียอดขายเพิ่มขึ้น แต่ก็ยังคงมีสินค้าบางประเภทที่ยอดขายลดลง และจำเป็นอย่างยิ่งในการประขาสัมพันธ์และสร้างช่องทางใหม่ๆ ด้านการขายให้เพิ่มขึ้น
· เรียนรู้ตลาดทางเลือกใหม่ๆด้วยระบบดิจิทัล
เพื่อเพิ่มโอกาสการส่งออกสินค้าไปยังกลุ่มประเทศทางเลือกเพิ่มขึ้น หลังจากวิกฤตดังกล่าวผ่านพ้นไปแล้วนั้น ผู้ประกอบการไทยจึงควรปรับตัวในช่วงสถานการณ์ที่ต้องเฝ้าระวังอย่างเต็มที่นั้นให้เป็นประโยชน์ ด้วยการศึกษาหาข้อมูลและเข้าร่วมอบรมและสัมมนาผ่านช่องทางออนไลน์ หรือการรับชมถ่ายทอดสดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียให้มากขึ้น รวมถึงศึกษาข้อมูลพื้นฐานและสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดการค้าทางเลือก อาทิ ตลาด CLMV อินเดีย ตลาดแอฟริกา เป็นต้น นอกจากนี้ NEA ยังได้มีแผนการจัดทำโครงการ Live Streaming หรือการถ่ายทอดสดโครงการอบรมและสัมมนาต่างในช่วงสถานการณ์ดังกล่าว ที่ผู้ประกอบการไทยจำเป็นต้องรู้ เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินทางไปร่วมงาน และถือเป็นการเฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าวอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังขอเชิญชวนผู้ประกอบการไทย เข้าร่วมอบรมและสัมมนากับ 5 โครงการ ได้แก่ โครงการความรู้เบื้องต้นในการประกอบธุรกิจส่งออก โครงการเทคนิคการเจรจาการค้าระหว่างประเทศ สู่ความสำเร็จ โครงการสัมมนา ติวเข้ม…เจาะตลาดเมียนมา โครงการครบเครื่องเรื่องการค้าออนไลน์ by NEA รุ่น 3 และโครงการสร้าง SMEs ไทยสู่เวทีการค้าสากล(ต้นกล้า ทู โกล) ที่กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ซึ่งทาง 5 โครงการดังกล่าวได้มีการจัดอบรมผ่านการถ่ายทอดสดไปยังระบบ Live Streaming และช่องทางออนไลน์ของสถาบันอีกด้วย
ท่านสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารของโครงการหรือกิจกรรมอื่นๆ ของสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) ได้ที่ nea.ditp.go.th หรือ www.ditp.go.th หรือ www.facebook.com/nea.ditp หรือ สายตรงการค้าระหว่างประเทศ 1169