สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หรือ คุณแม่มีลูกวัยทารก นั้นเชื่อเถอะว่าเกือบทุกคนมี ช่วงเห่อลูก เห็นอะไรที่เป็นสินค้าเด็กเล็กๆก็อยากซื้อกันไปหมดยิ่งซื้อออนไลน์ได้ยิ่งสนุกกันใหญ่ สั่งกันเพลินจนโอนเงินกันเกือบหมดบัญชีก็มี หรือซื้อผ่านบัตรเครดิตพอสิ้นเดือนยอดบิลมาแทบหงายท้องแต่ทุกคนก็ยังตั้งตาตั้งตาซื้อกันต่อไปมีแล้วก็ยังซื้อ อยากจะแนะนำสักนิดว่าของเด็กอ่อนนั้นซื้อเท่าที่จำเป็นก็พอ ไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง หรือซื้อตามใครเพราะหากฐานะเราไม่ได้ร่ำรวยของเหล่านั้นที่ซื้อมาใช้ได้ไม่นานก็ต้องเก็บ ทีนี่เรามาดูกันว่าจะประหยัดกับการมีลูกอ่อนได้อย่างไร
1. ซื้อของแค่ที่จำเป็นต้องใช้
สิ่งของหลักๆที่ต้องเตรียมไว้สำหรับทารกนั้นไม่มีอะไรมากมายเลย ของใช้จำเป็นจริงๆเช่น ผ้าอ้อม , เสื้อผ้าเด็กอ่อน , กะละมังอาบน้ำเด็ก , สบู่ แป้ง , ผ้าขนหนู , ผ้าห่อเด็ก , ถุงมือ ถุงเท้า , เปล , ขวดนม, ที่นอนเด็ก ของที่ใช้จริงๆมีแค่นี้เองซึ่งสามารถเลือกซื้อให้ประหยัดเงินหรือประหยัดงบประมาณได้ เช่น ผ้าอ้อม และเสื้อผ้าเด็กอ่อนนั้นสามารถซื้อแบบยกโหลดได้ ซึ่งแหล่งจำหน่ายก็มีหลายแห่ง ซึ่งเลือกให้เหมาะกับเงินที่เรามีไม่จำเป็นต้องซื้อของแพง การเลือกซื้อของเด็กอ่อนควรเลือกจากความจำเป็นในการใช้งานจริงๆ และเลือกจากคุณภาพและราคาที่จ่ายได้ การซื้อเพราะความชอบ ความอยากได้ หรือซื้อตามคนอื่นๆรวมถึงการซื้อเกินฐานะจะทำให้สิ้นเปลือง เพราะของใช้เด็กอ่อนตามที่กล่าวมานั้นราคาในปัจจุบันไม่ถูกเลย บางคนหมดเงินกับของใช้เหล่านี้หลักหมื่นกันเลยทีเดียว
2. การรับของที่ส่งต่อกันมาไม่ใช่เรื่องน่ารังเกียจ
บางครอบครัวเป็นครอบครัวใหญ่มีญาติเยอะและอาจมีลูกเล็กๆในเวลาไล่เลี่ยกัน บางบ้านส่งต่อของใช้ให้กับอีกบ้าน เช่น ที่นอน เปล รถเข็น หรือแต่เสื้อผ้า การรับน้ำใจรับของใช้เหล่านี้มาไม่ใช่เรื่องน่าอายอะไรเลย เพราะมันช่วยประหยัดเงินได้เยอะพอสมควรเลย รวมถึงการรับของจากเพื่อนๆที่ส่งต่อกันมาด้วย อย่าลืมว่าของบางอย่างนั้นสามารถใช้ได้หลายครั้งหากมีการเก็บรักษาดีๆเช่น เปล รถเข็น ที่นอน และอื่นๆ หรือบางบ้านมีลูกคนแรกเมื่อโตขึ้นของบางอย่างไม่ได้ใช้แต่ก็เก็บไว้เพื่อให้ลูกคนที่สองหรือสามได้ใช้ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะแม้ว่าจะเก็บไว้และไม่ได้ใช้เอง แต่ก็ส่งต่อให้คนอื่นๆได้เช่นกัน
อ่านเพิ่มเติม >> วางแผนทางการเงิน สำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ <<
3. กำหนดวงเงินซื้อของใช้เด็กในแต่ละเดือน
ของบางอย่างที่ต้องซื้อบ่อยๆเช่น นมผง ผ้าอ้อมสำเร็จรูป แป้ง น้ำยาอาบน้ำ หรือน้ำยาล้างขวดนม และอื่นๆ ของเหล่านี้แนะนำให้ซื้อขนาดใหญ่ๆจะประหยัดกว่าการซื้อน้อยๆ เพราะตามซุปเปอร์มาเก็ตมักมีการจัดโปรโมชั่นแพคคู่ต่างๆ ทำให้ประหยัดได้เยอะ แต่สำหรับนมผงนั้นในครั้งแรกควรซื้อกระป๋องเล็กๆ เพราะต้องทดสอบก่อนว่าเด็กสามารถทานได้ไหมหากทานได้ค่อยเปลี่ยนมาซื้อขนาดใหญ่ และควรกำหนดค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไว้ว่าซื้อของเหล่านี้เดือนละเท่าไหร่ อันไหนที่ลดปริมาณการใช้ลงได้ก็ควรทำเช่น ผ้าอ้อมสำเร็จรูป ไม่จำเป็นต้องใส่ทั้งวันเพราะราคาต่อชิ้นของผ้าอ้อมสำเร็จรูปนั้นตกชิ้นละ 8-15 บาทและหากใส่ทั้งวันก็ต้องเปลี่ยนหลายชิ้นคำนวณแล้วเงินค่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปตกวันละ 50-70 บาทเลยทีเดียว
4. อะไรที่ไม่จำเป็นหรือมีแล้วก็ไม่ควรซื้อ
เข้าใจว่าพ่อแม่ทุกคนชอบที่จะให้ลูกน้อยมีของใช้ต่างๆไม่น้อยหน้าคนอื่นมีเสื้อผ้าดีๆสวยๆของเล่นเยอะ แต่อย่าลืมว่าเด็กเล็กๆนั้นเขายังไม่รู้จักเลือก ยังไม่รู้จักใช้และส่วนใหญ่พ่อแม่เป็นคนซื้อ ซึ่งบางคนนั้นซื้อแล้วซื้ออีกซื้อจนใช้ไม่ทัน หรือใส่ได้ครั้งเดียวแด็กก็โตเกินกว่าจะใส่ได้อีก ซึ่งมันจะค่อนข้างสิ้นเปลืองเลยทีเดียวดังนั้นควรซื้อแต่พอดีและตามความจำเป็นเพื่อเป็นการประหยัดเพราะในอนาคตมีเรื่องให้ใช้เงินอีกเยอะ
จากที่กล่าวและแนะนำมาทั้งหมดนั้น มาจากประสบการณ์ตรงจากการสอบถามคุณแม่หลายๆคนที่มีลูกอ่อน และหันมาประหยัดการใช้จ่ายเพื่อให้มีเงินใช้เพียงพอกับค่าใช้จ่ายของลูกในอนาคต ซึ่งหลายๆคนทำอย่างที่กล่าวมาและบอกด้วยว่ามันช่วยประหยัดได้จริงๆ อย่างน้อยๆก็ไม่ทำให้รู้สึกว่ามีภาระเพิ่มเติมกับการต้องซื้อของใช้ให้ลูกและยังทำให้เหลือเงินฝากนิดหน่อยๆให้ลูกได้อีกด้วย