ช่วงนี้หากใครได้ลองเข้าเว็บไซต์ยอดฮิตตลอดการอย่าง พันทิป แล้วล่ะก็ อาจจะได้เห็นกระทู้ที่มีคนเข้าบ่น เข้ามาปรับทุกข์ว่ามีหนี้สินเต็มตัวไปหมด เดือดร้อนเรื่องเงิน ไม่มีเงินไปจ่ายค่างวดรถบ้าง ค่าบ้านบ้าง หรือแม้แต่บัตรเครดิตก็ยังไม่มี บางคนก็บอกว่าเครียดหาทางออกไม่ได้ ซึ่งคำแนะนำในพันทิปส่วนมากก็ช่วยเหลือคนกลุ่มนั้นมาแล้ว คราวนี้เรามาลองดูกันบ้างดีกว่าว่า วิธีการที่จะให้เราปลดหนี้อย่างมีสติและไม่เครียดนั้นทำได้อย่างไรกันบ้าง
เรื่องปลดหนี้ ทำให้ตัวเองเป็นไทจากหนี้สินต่างๆ นั้นเป็นเรื่องที่เรามักจะได้ยินกันบ่อย มีคำแนะนำต่างๆ มากมาย เพราะฉะนั้นถ้าอยากจะปลดหนี้ให้ได้จริง เราต้องทำตามคำแนะนำนั้นอย่างจริงจัง เริ่มแรกก่อนเลยเราต้องรู้เองก่อนว่าเรามีหนี้สินทั้งหมดเท่าไร เป็นหนี้สินอะไรบ้าง ดอกเบี้ยแต่ละก้อนเป็นเท่าไร และจำนวนเงินที่ต้องจ่ายต่อเดือนเป็นเท่าไร เมื่อทำทางด้านหนี้สินเรียบร้อยเราก็ต้องมาทำทางด้านทรัพย์สินและรายได้ของเราด้วยว่าปัจจุบันเรามีรายได้ต่อเดือนเข้ามาเท่าไร มีทรัพย์สินอะไรบ้างที่อยู่กับตัวและพอที่จะแปลงเป็นเงินเพื่อมาชำระหนี้ได้บ้าง
มาดูที่หนี้สินกันก่อนจากตัวอย่างที่ลองทำมา ดูกันสิว่าเรามีภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายต่อเดือนถึง 93,000 บาท หรือเกือบ 100,000 บาทต่อเดือนกันเลยทีเดียว ถ้าเป็นแบบนี้เรามีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือนก็ไม่น่าจะมีปัญหาในการหาเงินมาจ่ายต่อเดือนกัน แต่เชื่อได้ว่าคนที่มีปัญหาการเงินส่วนใหญ่นั้น รายได้มักจะน้อยกว่าภาระหนี้สินที่ต้องจ่ายต่อเดือนกันทั้งนั้น ไม่เป็นไรตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าหนี้สินทั้งหมดที่มีที่เราต้องจ่ายต่อเดือนเป็นเท่าไรกันแล้วก็พักไว้ก่อน แล้วไปดูทางด้านรายได้และทรัพย์สินกันต่อ
อย่างที่เราได้รู้แล้วว่าหนี้สินเป็นเท่าไร มาดูรายได้กับทรัพย์สินกันบ้าง
จากตัวอย่างเราจะมีเงินเข้ามาต่อเดือน เดือนละ 55,000 บาท ซึ่งเป็นรายได้ประจำและจากงานพิเศษ เห็นแล้วว่าไม่พอต่อการจ่ายหนี้สินรายได้เดือนแน่นอน เพราะนอกจากค่าใช้จ่ายประจำวัน เช่น ค่าเดินทาง ค่าอาหาร ค่าจุกจิกรายเดือน ซึ่งหากเราประหยัดแล้วก็ยังไม่น่าจะพอต่อการจ่ายหนี้สินแน่นอน ดังนั้นเรามาหาวิธีการปลดหนี้กันดีกว่า
เริ่มแรกเลยเราต้องตัดใจขายทองรูปพรรณเพื่อให้ได้เงินสดมาก่อน ส่วนสลากออมสินก็มีทางเลือกให้ขายออกหรือจะไปขอกู้แบบใช้สลากออมสินค้ำประกันก็ได้ เพราะเรายังได้ผลตอบแทนเหมือนเดิม แต่อาจจะมีภาระที่ต้องผ่อนชำระแต่ก็จะไม่มากเท่าไร ต่อจากนั้นก็ลองขายรถที่มีภาระผ่อนอยู่ซึ่งเดือนละ 20,000 บาทนี้แสดงว่าต้องเป็นรถคันใหญ่พอสมควร เพราะฉะนั้นขายออกไปแล้วหารถมือสองคันเล็กๆ มาใช้แทน ส่วนสินเชื่อบ้านถ้าเป็นบ้านหลังเดียวที่เรามีอยู่ก็ลองติดต่อธนาคารเพื่อขอปรับลดอัตราการผ่อนในแต่ละเดือนลง แต่ถ้ามีบ้านอีกหลังอาจจะลองตัดใจขายหลังนี้ไปด้วยก็ได้ ก็จะช่วยให้เรามีภาระในการผ่อนชำระลดลงก็ได้ ทีนี้เรามาดูผลลัพธ์ในการแก้ไขปัญหากันดีกว่า
จากตัวอย่างที่ยกมาถือว่ายังเป็นโชคดีอยู่ไม่น้อยที่มีทรัพย์สินที่พอจะขายออกหรือกู้ยืมเงินออกมาแบบเสียดอกเบี้ยต่ำ แต่ถ้าเราไม่ได้มีทรัพย์สินสำรองขนาดนี้แล้ว ก็ต้องยอมลำบากช่วงนี้กันไปก่อน คือ ขอปรับลดอัตราการผ่อนสำหรับสินเชื่อบ้านและถ้าสามารถขายบ้านออกไปได้ก็น่าจะดี ส่วนรถยนต์ขายได้ขายไปก่อนเลยเพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน ส่วนบัตรเครดิตทั้งหมด 4 ใบติดต่อธนาคารขอพักการจ่ายเงินยอมเสียประวัติในเครดิตบูโรไปซะ สุดท้ายหาทางเพิ่มรายได้ของตัวเอง ใช้เงินให้ประหยัดที่สุด เก็บเงินก้อนและค่อยๆ แบ่งไปจ่ายหนี้บัตรเครดิตแต่ละใบ และสำคัญที่สุด คือ เมื่อปลดหนี้ได้แล้วต้องระมัดระวังเรื่องการใช้เงินให้มากขึ้น อย่าหันกลับไปมีชีวิตที่ฟุ้งเฟ้อเหมือนเดิม เท่านี้ชีวิตก็เป็นสุขปราศจากหนี้สินได้แล้ว