การได้ ทำงานในบริษัทเอกชน นั้นเป็นความต้องการของคนในยุคสมัยใหม่เป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นช่องทางนำพาทุกคนไปสู่ความก้าวหน้าได้อย่างรวดเร็วกว่าการทำงานราชการซึ่งจะต้องรอโอกาสและจังหวะก้าวหน้า และด้วยเงินเดือนที่มากกว่างานราชการเป็นเท่าตัว ทุกคนจึงมุ่งหวังกับความคล่องตัวด้านการเงินจากการทำงานในบริษัทเอกชน แต่การเข้าทำงานในบริษัทเอกชนได้นั้นจำเป็นต้องมีทั้งความรู้ ความสามารถ และบางบริษัทอาจจะต้องมีประสบการณ์อีกด้วยในการพิจารณาเพื่อรับเข้าทำงาน รวมทั้งอายุก็ต้องอยู่ในเกณฑ์ที่แต่ละบริษัทกำหนดไว้ด้วย ไม่ใช่ว่าใครก็จะสามารถสมัครและเข้าทำงานในบริษัทเอกชนได้ทั้งหมด และเมื่อบริษัทเอกชนทั้งหลายมีจุดที่น่าสนใจกับการสมัครเข้าทำงานมากเท่าไร การแข่งขันก็ย่อมสูงขึ้นเพราะใคร ๆ ก็ต่างอยากได้งานที่ดีและเงินเดือนที่ดีกันทั้งนั้น จึงต้องรู้จักเผื่อใจเอาไว้บ้างเพราะอาจจะต้องสมัครเอาไว้หลายบริษัทและกว่าได้งานทำก็อาจจะเหนื่อยกันพอสมควร
7 ข้อดีสำหรับการได้ทำงานในบริษัทเอกชนก็มีดังนี้
1.สร้างความก้าวหน้าในชีวิตได้อย่างรวดเร็วและทันใจ
ยิ่งหากได้ทำงานตรงกับความรู้ความสามารถก็ยิ่งเติบโตได้เร็วมากกว่างานราชการอย่างแน่นอน หากอยากขยับขยายให้เร็วขึ้นเป็นเท่าตัวก็ต้องมั่นศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเอาไว้ให้มากที่สุด
2. เงินเดือนจะได้มากตามความสามารถ
ยิ่งมีความสามารถที่เป็นที่ต้องการมากเท่าไรเงินเดือนก็จะเริ่มต้นสูงเท่านั้น และยิ่งหากมีผลงานที่โดดเด่น เงินเดือนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องก็มีสูงมากพอสมควร
3. การแต่งกายบางบริษัทไม่ได้กำหนดชุดพนักงานอย่างตายตัว
จึงสามารถแต่งกายอย่างไรไปทำงานก็ได้ แต่ให้มีความสุภาพเอาไว้ก่อน ชุดทำงานที่สุภาพและสวยงามในปัจจุบันมีให้เลือกซื้อเลือกหากันอยู่ทั่วไป
4. งานบริษัทเอกชนบางแห่งไม่จำเป็นต้องเข้าออกงานตามเวลา
เพราะบางตำแหน่งสามารถทำงานนอกสถานที่ได้จะเข้าบริษัทก็ต่อเมื่อส่งงานหรือมีการประชุมเท่านั้น หลายคนที่คิดว่างานบริษัทเอกชนจะต้องทำงานหลายชั่วโมงเข้าออกเป็นเวลานั้น ปัจจุบันไม่ใช่ทุกที่เพราะการทำงานในสมัยใหม่ให้อิสระในการทำงานที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น ขอเพียงแค่มีผลงานและทำงานอย่างจริงจัง การทำงานบริษัทเอกชนบางแห่งก็เป็นเรื่องที่สนุกได้เช่นกัน
5. ทำงานกับบริษัทเอกชนมีโอกาสมีบ้านมีรถได้อย่างรวดเร็ว
และยังมีเงินเก็บมากกว่าการทำงานกับหน่วยงานอื่น ๆ เป็นไหน ๆ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับนิสัยการใช้เงินของแต่ละคนด้วย เพราะหากใช้เงินอย่างไม่คิด ไม่มีการวางแผนที่ดี โอกาสหมดและมีแต่หนี้สินก็อาจจะเกิดขึ้นได้เช่นกัน ดังนั้น เมื่อเริ่มทำงานก็ต้องเริ่มวางแผนทางการเงินเอาไว้ในทันที ยิ่งเงินเดือนมากเท่าไรก็ต้องแบ่งส่วนเก็บให้มากเท่านั้น หากไม่รู้จักเก็บก็ไม่มีวันได้ในสิ่งที่ต้องการอย่างง่ายดาย
6. โบนัสประจำปีและการพาไปท่องเที่ยวของบริษัทเอกชนหลายแห่งเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการเป็นอย่างมาก
เพราะเงินโบนัสคือเงินที่ได้จากการทำงานอย่างเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งปี ยิ่งเงินเดือนสูงเท่าไรโบนัสที่ได้ในแต่ละครั้งก็จะสูงมากเช่นกัน อย่าลืมว่าโบนัสคือเงินก้อนที่ได้ตลอดทุกปลายปีและเป็นเงินก้อนใหญ่ตามความสามารถของพนักงานและทุกคนที่อายุงานถึงก็มีโอกาสได้รับโบนัสทุกคน แต่จะได้มากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับเงินเดือนและความสามารถในการทำงานนั้น ในส่วนของการท่องเที่ยวก็มีอยู่หลายบริษัทซึ่งทุกปีจะมีการพาพนักงานไปท่องเที่ยวประจำปีที่มักจะพาไปสถานที่ต่าง ๆ อยู่เสมอ หรือบางครั้งก็มีการจัดอบรมสัมมนาส่งพนักงานไปอบรมและท่องเที่ยวดูงานไปในตัว บางบริษัทมีการส่งไปอบรมดูงานและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ทำงานที่ต่างประเทศ โอกาสที่พนักงานบริษัทเอกชนจะได้ทั้งท่องเที่ยวและเพิ่มเติมความรู้ความสามารถก็จะมีอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับผิดชอบ
7. ได้นั่งทำงานสบายในออฟฟิศหรือห้องแอร์
แต่จะมีความกดดันเฉพาะเวลาที่มีงานเร่งด่วนเท่านั้นหรืองานที่ต้องการเป้าหมายตามที่เจ้านายต้องการ หากไม่มีช่วงเวลาในความกดดัน การทำงานก็จะทำกันอย่างสบาย ๆ บางคนสามารถนั่งเล่นรอรับงานใหม่หรือบางแผนกก็มีแค่หน้าที่รับโทรศัพท์และจัดการงานบางส่วนเท่านั้น แท้จริงแล้วการทำงานบริษัทแม้ว่าจะต้องทำงาน 8-9 ชั่วโมงต่อวัน แต่ถ้าลองนับเวลากันจริง ๆ เวลาในการทำงานจริง ๆ ต่อวันมีเพียงแค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้นเพียงแค่รอให้ถึงเวลาเลิกงานก็นั่งคุยนั่งเล่น
แม้ว่าการทำงานในบริษัทเอกชนจะมีข้อดีอยู่ไม่ใช่น้อย แต่ในเรื่องของข้อเสียก็มีอยู่เช่นกันความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วก็มาพร้อมกับความเสี่ยงได้อยู่เสมอ หากไม่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริงและเมื่อเงินเดือนเลื่อนสูงมากเท่าไรก็มีโอกาสตกงานได้เช่นกัน เพราะคนรุ่นใหม่ไฟแรงและมีความสามารถขึ้นมาแทนที่ได้อยู่เสมอ บางบริษัทเลือกคนออกทุกปีเพราะว่าเงินเดือนสูงก็เป็นภาระค่าใช้จ่ายที่สูงมากเช่นกันต่างกับการรับคนใหม่เข้ามาที่เริ่มต้นเงินเดือนไม่ต้องสูงมากนักแต่ก็สามารถทำงานได้ ความแน่นอนในการทำงานบริษัทเอกชนจึงมีไม่มากเท่าที่ควร ก่อนตัดสินใจเลือกสมัครงานหรือทำงานกับบริษัทเอกชนหรือหน่วยงานราชการควรคำนึงถึงอนาคตวันข้างหน้าเป็นหลัก ต้องมองระยะไกลเอาไว้ให้มาก และต้องเลือกงานที่ตรงกับประสบการณ์หรือความสามารถของตนเองก่อนเพื่อความก้าวหน้าเกิดขึ้น แต่ถ้าไม่สามารถเลือกงานได้ก็ต้องพยายามหางานที่คิดว่าสามารถทำได้และพร้อมเรียนรู้ต่อไป
อ่านเพิ่มเติม : จุดเด่น – จุดด้อย ทำงานบริษัทเอกชน VS รับราชการ