การวางแผนการเงินของครอบครัว เป็นการเตรียมความพร้อมทั้งตัวของสามีและภรรยาในการใช้ชีวิตร่วมกัน เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมขั้นตอนต่อไปของการมีชีวิตคู่ คือ การมีลูก ที่เมื่อรู้แล้วว่ากำลังจะมีสมาชิกภายในครอบครัวที่เพิ่มมากขึ้น ก็ต้องเริ่มมีการวางแผนทางการที่มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมของทั้งค่าคลอด ค่าเลี้ยงดู และค่าจิปาถะที่จ้องเจอในอนาคต เรื่องนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญของคนมีครอบครัว เพราะถ้าไม่มีการวางแผนการเงินที่ดี ถ้าเกิดมีเหตุฉุกเฉินที่ต้องใช้จ่ายภายในครอบครัว ก็อาจจะต้องติดขัด เป็นหนี้เป็นสิน และกลายเป็นปัญหาที่เรื้อรังทางการเงินขึ้นมาได้ ต้องไม่ลืมว่าก่อนที่จะมีลูกมีเพียงกันแค่ 2 คน ค่าใช้จ่ายมากน้อยเท่าไหร่ก็ยังสามารถที่จะพอไหลไปได้ แต่ถ้ามีลูกเมื่อไหร่ก็จะกลายเป็น 3-4 คน ในครอบครัวที่จะต้องมีความรับผิดชอบที่มากยิ่งขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะจำเป็นและเพิ่มสูงมากขึ้น ถ้าไม่มีการวางแผนที่ดีก็อาจจะทำให้อนาคตที่ไม่ใช่แค่เพียงสามีหรือภรรยา แต่ลูก ๆ ก็จะต้องเดือดร้อนไปด้วย
ปัจจุบันถือว่าเป็นยุคที่ข้าวของแพง มีอัตราการครองชีพที่สูง การเลือกซื้อของก็ต้องเลือกที่จำเป็นต่อการใช้ชีวิตเท่านั้น ส่วนในของฟุ่มเฟือยก็อาจจะต้องตัดออกไปก่อน และยิ่งถ้ามีลูกที่ไม่ว่าจะ 1 หรือ 2 คน นั่งก็หมายความว่าครอบครัวเริ่มใหญ่ขึ้น และเป็นการเพิ่มความรับผิดชอบให้แก่ผู้เป็นพ่อและแม่ที่เพิ่มมากยิ่งขึ้น จึงต้องมีการตระหนักในเรื่องของการวางแผนการเงิน ทั้งนี้ในเริ่มต้น ลูก 2 คน ต้องวางแผนการเงินยังไง เครื่องใช้ต่าง ๆ สำหรับเด็กเล็กที่มีทั้งแบบจำเป็นและไม่จำเป็น รวมไปถึงที่มีราคาและการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปนั้น ก็ขึ้นอยู่กับทั้งพ่อและแม่ที่จะเล็งเห็นถึงความสำคัญของลูกด้วยว่าควรที่จะใช้ของเหล่านั้นแบบไหน ซึ่งจะต้องเป็นของที่จำเป็นต่อลูกจริง ๆ และราคาที่ถูกหรือแพงที่ต่างกัน ก็ขึ้นอยู่ว่าจะเลือกอย่างไรให้คุ้มค่าและเหมาะสม การประหยัดใช้และการประหยัดซื้อแต่ในสิ่งของที่จำเป็น ของใช้อะไรที่มีอยู่แล้วก็ไม่จะเป็นที่จะต้องซื้อซ้ำ ก็จะสามารถทำให้ประหยัดเงินได้เป็นอย่างดี
อ่านเพิ่มเติม : วางแผนการเงินเพื่อครอบครัว สุขสันต์ มีลูกไม่จนแน่นอน!
การวางแผนการประหยัดด้วยการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ก็ถือว่าเป็นวิธีที่ชาญฉลาดแล้ว ก็ยังทำให้ลูกปลอดภัยได้นมที่มีคุณภาพแท้ และช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงดี พร้อมไปด้วยการสานความสัมพันธ์จากแม่สู่ลูกที่ถึงกันได้เป็นอย่างดี และสามารถที่จะทำให้ครอบครัวประหยัดนมได้มากในช่วงระยะเวลา 6 เดือน และก็อาจจะไปถึง 1 ปีเลยก็ได้เช่นกัน ในส่วนของผ้าอ้อมสำเร็จรูป แบบใช้แล้วทิ้ง สะดวกสบายไม่จำเป็นต้องซักให้เปลืองแรง ซึ่งถ้าจำเป็นที่จะต้องใช้ก็ควรที่จะใช้เฉพาะเวลาที่ต้องออกนอกบ้านเท่านั้น ถ้าอยู่ภายในบ้านก็ใช้เป็นผ้าอ้อมผ้าที่สามารถซักได้ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่าครึ่ง เพราะราคาของผ้าอ้อมสำเร็จรูปนั้นค่อนข้างที่จะแพงเอาเรื่องเลยทีเดียว ถ้าสามารถที่จะลดตรงส่วนนี้ลงได้ก็น่าจะมีเงินเก็บที่มากขึ้นในแต่ละเดือนเลยทีเดียว และไม่ต้องเสี่ยงต่อการที่ลูกจะเป็นผื่นแพ้ผ้าอ้อมอีกด้วย
พ่อและแม่ต้องตระหนักอยู่เสมอว่าต่อให้ทั้งคู่มีเงินเดือนสูง แล้วจะสามารถเลี้ยงลูกได้อย่างสุขสบายได้ เพราะในความเป็นจริงไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป หากถ้าวันใดเกิดมีใครสักคนตกงานแบบกะทันหัน กิจการที่ทำมีรายได้ที่ถดถอย หรือแม่แต่เกิดการเจ็บป่วยหรืออุบัติเหตุที่ทำให้พิการ ทำงานต่อไปไม่ได้ ทั้งยังต้องเอาเงินเก็บที่มีมาไปรักษาตัวหรืออาจจะเสียชีวิตไป แล้วลูก ๆ จะมีหลักประกันอะไรในการดำรงชีวิตต่อไป ถ้าพ่อและแม่ไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน หรือในบางครอบครัว มีการทุ่มไปกับการเรียน การเลี้ยงดูลูกจนหมด ไม่ได้คิดเผื่อถึงวันข้างหน้าของตัวเองที่จะต้องมีหลักประกันที่มั่นคง จึงต้องมีการวางแผนการเงินที่ต้องมีการตั้งเป้าหมายที่ต้องการ เพื่อที่จะได้รู้ว่าครอบครัวจะต้องมีเงินเท่าไหร่ถึงจะบรรลุเป้าหมายได้ โดยเฉพาะในครอบครัวที่มีลูก 2 คน โดยต้องมีการเขียนรายละเอียดของเป้าหมายขึ้นมา และประมาณการค่าใช้จ่ายภายในบ้านแต่ละอย่าง เช่น
-ผ่อนบ้าน ราคาบ้านเท่าไหร่ ระยะเวลาในการผ่อนกี่ปี ต้องเสียดอกเบี้ยที่เท่าไหร่ ต้องใช้เงินในการดาวน์บ้านเท่าไหร่ รวมไปถึงค่าใช้จ่ายในส่วนอื่น ๆ อีกด้วย
-การออมเงินเพื่อลูก ลองวางแผนดูว่าถ้ามีลูกที่ 2 คน ค่าใช้จ่ายของลูกต่อปีอยู่ที่เท่าไหร่ อย่างค่าเล่าเรียน ประกันชีวิตแบบสุขภาพ เป็นต้น
-เงินออมเพื่อการเกษียณของพ่อแม่เอง ที่จะเป็นตัวค่าใช้จ่ายหลังการเกษียณต่อเดือน คูณด้วย จำนวนปีที่คิดว่ายังมีชีวิตอยู่ ค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับโรคภัยด้วย
วินัยทางการเงินและการออมสามารถที่จะสร้างได้มาตั้งแต่เด็ก ๆ ด้วยการฝึกให้ลูกเก็บออมเงิน และทำบัญชีค่าใช้จ่ายมาตั้งแต่เด็ก เพื่อให้ลูกได้เห็นคุณค่าของเงินที่แท้จริง และเป็นแนวทางในการการดำเนินชีวิตที่ดีและมีคุณค่าที่พ่อและแม่จะสามารถให้กับลูกได้ เพื่อให้ลูก ๆ สามารถที่จะพึ่งพาตนเองและมีความมั่นคงทางการเงินในอนาคต พร้อมทั้งเป็นการที่จะทำให้ลูกได้รู้ถึงคุณค่าเงินที่สมควรจะช่วยพ่อและแม่ประหยัด และใช้เงินเป็น นอกจากนี้ก็ควรที่จะมีการวางแผนมีลูกห่างกันประมาณคนละ 4 ปี เพื่อที่จะให้ลูกคนแรกได้เติบโตจนสามารถที่จะพอช่วยเหลือตนเองได้ก่อน ก็จะทำให้พ่อและแม่ไม่ต้องเหนื่อยมาก และสามารถที่จะทำงานเพื่อช่วยกันเก็บเงินได้อย่างเต็มที่มากขึ้น