ลูกคนเดียว วางแผนดูแลพ่อแม่ อย่างไร กระทู้น่าสนใจจากพันทิป http://pantip.com/topic/34375042 ที่มีคนเข้าไปแสดงความคิดเห็นกันมากมาย ซึ่งแต่ละแนวทางและความคิดเห็นมีหลายๆความคิดเห็นที่น่าสนใจ ซึ่งเจ้าของกระทู้นั้นเน้นที่การเตรียมพร้อมหรือหาแนวทางโดยเฉพาะหากลูกคนเดียวเป็นผู้หญิงแน่นอนว่าอนาคตอาจแต่งงานมีครอบครัว ดังนั้นการวางแผนในการดูแลพ่อแม่ยามแก่ชรานั้นควรเตรียมพร้อมอย่างไร จากการอ่านหลายๆคอมเม้นท์ทำให้สามารถสรุปได้เป็นข้อๆดังนี้
1. วางแผนเรื่องสุขภาพ
ส่วนใหญ่แนะนำให้ทำประกันชีวิตให้พ่อแม่หากมีความสามารถที่สามารถส่งค่าเบี้ยประกันให้ท่านได้ หรือ พ่อแม่บางคนอาจมีประกันชีวิตไว้แล้วแต่ไม่ใช่แค่การทำประกันเท่านั้นเรื่องของสุขภาพยังหมายถึงการพาท่านไปตรวจร่างกายประจำปี การพาไปรักษาพยาบาลซึ่งสำหรับคนที่มีฐานะการเงินพอที่จ่ายค่ารักษาได้สบายๆการเลือกโรงพยาบาลรัฐบาลใหญ่ๆก็เป็นอีกทางเลือกในเรื่องสุขภาพนอกเหนือจากการใช้สิทธิการรักษาต่างๆ รวมถึงเรื่องอาหารการกินหากท่านอยู่ด้วยก็ควรดูแลเรื่องนี้จัดอาหารที่มีประโยชน์และเหมาะสมกับวัย หรือหากแยกบ้านกันอยู่การดูแลถามไถ่ทุกข์สุขทุกๆวันจะเป็นการดีเพราะจะได้ทราบว่าแต่ละวันท่านเป็นอย่างไรบ้าง และยังดีกับสุขภาพจิตของคนแก่ด้วยเพราะการที่ลูกโทรหาทุกวันย่อมทำให้ท่านสบายใจและรู้สึกว่าไม่โดนทอดทิ้ง
อ่านเพิ่มเติม >> เลือก ประกันชีวิตสำหรับพ่อแม่ ยังไงดี ? <<
2. วางแผนให้ท่านอยู่ด้วยกันแม้ว่าจะแต่งงานแล้ว
หลายๆคนทั้งผู้หญิงและผู้ชายมองว่าหากเป็นลูกคนเดียวการแต่งเข้า หรือแต่งงานไม่แยกบ้าน ก็เป็นอีกความคิดหนึ่งที่น่าสนใจ เพื่อที่ว่าจะได้ช่วยกันดูแลพ่อแม่ได้ แต่หากทั้งสองฝ่ายเป็นลูกคนเดียวเรื่องนี้คงต้องตกลงกันก่อนว่าจะอยู่บ้านไหนเป็นหลัก และสลับไปนอนบ้านอีกฝ่ายในวันหยุด หรือหากใครมีบ้านกว้างๆ มีที่ทางพอ การนำพ่อแม่ทั้งสองบ้านมาอยู่ด้วยกันก็เป็นอีกแนวคิดที่น่าสนใจ เพราะต่างฝ่ายจะได้ดูแลพ่อแม่ของตัวเองได้เต็มที่ แต่หลายคนบอกว่าอาจจะมีปัญหาเพราะกลัวเข้ากันไม่ได้ ซึ่งต้องยอมรับว่าปัญหานี้มีแน่นอนแต่ขึ้นอยู่กับว่าใครจะจัดการอย่างไร เพราะสภาพสังคมที่เปลี่ยนไปแต่ละบ้านอาจไม่ค่อยรู้จักนิสัยใจคอกันมากนักบางคู่พ่อแม่เจอกันคุยกันวันแต่งเลยก็มี บางคู่แต่งแล้วแต่พ่อแม่ไม่ได้ทำความรู้จักหรือสนิทกันเลยก็มี ต่างจากสังคมสมัยก่อนที่ส่วนใหญ่มักจะพาพ่อแม่มาทำความรู้จักกัน ไปไหนมาไหนด้วยกัน เช่นไปทำบุญ ไปเที่ยว ซึ่งเชื่อว่าหากลูกๆคิดจะให้พ่อแม่รู้จักกันและเข้ากันได้เป็นเพื่อนกันได้ก็น่าจะมีวิธีของแต่ละคนที่แก้ปัญหานี้ได้
3. วางแผนเรื่องการเงิน
แน่นอนว่าเป็นลูกไม่ว่าจะลูกคนเดียวหรือลูกคนที่เท่าไหร่ทุกคนควรเตรียมเงินไว้เลี้ยงพ่อแม่ยามแก่ เพราะแม้ว่าพ่อแม่บางคนจะมีรายได้จากการทำงานเก็บออมไว้บางคนได้เงินบำนาญบางคนยังมีรายได้เล็กๆน้อย แม้ว่าพ่อแม่ไม่อยากจะได้เงินจากลูกไม่อยากรบกวนลูก แต่นี่เป็นสิ่งที่ลูกควรให้พ่อแม่ไม่ใช่เพื่อทดแทนบุญคุณแต่เป็นสิ่งที่ควรทำเพราะเมื่อยามท่านแข็งแรงเงินทุกบาที่ท่านหามาได้ท่านนำมันมาเลี้ยงดูลูก ให้การศึกษา ให้กินอิ่มนอนหลับ เมื่อถึงวันที่ท่านหมดเรี่ยวแรงลูกๆก็ควรตอบแทนให้ท่านบ้างตามกำลังที่มีไม่ใช่คิดแต่จะเอาจากท่านเหมือนที่หลายๆคนคงเคยเห็นจากรอบๆตัวบ้างบางคนตกงานไม่มีรายได้พ่อแม่ก็จ่ายค่ากินค่าอยู่ออกทุนให้หางานทำ ออกทุนให้ทำอาชีพ บางคนก็คืนเงินกลับให้พ่อแม่ แต่บางคนมีรายได้แล้วไม่สนใจก็มี ไม่อยากให้คิดว่าต้องตอบแทนท่านด้วยเงิน แต่เงินทีเราให้นั้นเพื่อให้ท่านซื้อความสุขใจ ซื้อความสุขกายของท่านได้บ้าง เช่นทำบุญ ท่องเที่ยว หรือใช้จ่ายอื่นๆ เมื่อท่านมีความสุขลูกๆก็จะสุขตามและพ่อแม่บางคนได้เงินจากลูกมาแบ่งเก็บเป็นมรดกคืนกลับให้ลูกก็มี
จากที่กล่าวมาทั้งหมดเป็นเพียงคำแนะนำ ที่คิดว่าหลายๆคนจะนำไปปรับใช้ให้เข้ากับครอบครัวแต่ละคนกันได้ แต่ควรเตรียมการไว้ตั้งแต่เนิ่นๆเมื่อถึงเวลาที่ลูกๆต้องดูแลพ่อแม่จะได้ทำได้อย่างสบายและไม่กลายเป็นภาระเหมือนที่หลายๆคนชอบคิดว่ามีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ทั้งๆที่ตอนท่านมีลูกท่านไม่คิดว่าลูกคือภาระแต่ลูกคือตัวแทนของความรักดูแลท่านให้ดีๆก่อนที่จะสายเกินไป
วางแผนดูแลพ่อแม่ ทำประกันชีวิตสูงวัยให้ท่าน เจ็บป่วยก็หายห่วง แถมได้เงินคืนทุกปี (รายละเอียดเพิ่มเติม…)
